ตลาดนมถั่วเหลืองในไทยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 19,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องรับเทรนด์คนไทยหันมาใส่ใจรักสุขภาพมากขึ้น โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยชี้ว่า ในปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจรักสุขภาพมากขึ้น ด้วยการออกกำลังกาย และการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ 'นมถั่วเหลือง' ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนรักสุขภาพหันมารับประทานมากขึ้น และ 'แลคตาซอย' คืออีกหนึ่งแบรนด์นมถั่วเหลืองเก่าแก่ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และครองส่วนแบ่งตลาดเป็นเบอร์ต้นๆ ของตลาดรวมนมถั่วเหลืองในไทย
สร้างความฮือฮาเมื่อ…. แลคตาซอยได้ขอปรับขึ้นราคาสินค้าขนาด 125 มิลลิลิตร จาก 5 บาท เป็น 6 บาท เพราะทนแบกรับต้นทุนการผลิตจนหลังแอ่นมา 23 ปี
เรื่องนี้กลายเป็นกระแสโดดดัง และมีการพูดถึงกันมาก เพราะแลคตาซอยมีภาพจำ คือ เพลงโฆษณาที่ฮิตติดหู ใครๆ ก็เคยได้ยินกันทั่วบ้านทั่วเมือง กับเพลง “แลคตาซอย 5 บาท 125 มิลลิลิตร ปริมาณคับกล่องเต็มที่ ดื่มได้ดื่มดี ดื่มแลคตาซอย ดื่มแลคตาซอย”
หลังจากเป็นกระแสแลคตาซอยก็ไม่รอช้าโหมแคมเปญการตลาดทันทีเพื่อรับกระแส และเร่งสร้างการจดจำแลคตาซอยราคาใหม่ด้วยการคว้า Paper Planes หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม เจ้าของผลงานเพลงสุดฮิต 'ทรงอย่างแบด (Bad Boy)' นั่งพรีเซนเตอร์คนใหม่ หวังตีตลาดกลุ่มฟันน้ำนม หลังปรับราคาเป็น 6 บาท
เรียกได้ว่า “เป็นตำนานบทใหม่แลคตาซอย 6 บาท” ที่มีการปรับทัพครั้งใหญ่ในรอบ 23 ปี วันนี้ทีม Spotlight จะพาไปดูกลยุทธ์การตลาด รูปแบบการลงทุนต่างๆ ในปี 2566 ของแลคตาซอยว่าจะมีอะไรบ้าง
ชำแหละต้นทุนอะไรพุ่งบ้างถึงขอปรับกล่องละ 6 บาท
คุณมัลลิกา จิรพัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายขาย บริษัท แลคตาซอย จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ขอปรับราคาขึ้นราคาสินค้าขนาด 125 มิลลิลิตร จาก 5 บาท เป็น 6 บาท และขนาดอื่นๆปรับขึ้นกล่องละ 1-2 บาท ยกเว้นรสชาติที่ออกใหม่ยังไม่มีการปรับราคา มาจากต้นทุนที่พุ่งขึ้น ดังนี้
- ถั่วเหลืองขึ้นราคา 40 %
- นมผงขึ้น 40 %
- กล่องขึ้น 20 %
- ภาษีความหวาน จะมีการเก็บเพิ่มมากขึ้น
- น้ำตาลขึ้นราคา
- หลอดขึ้นราคา
- ไขมันพืชขึ้นราคาเท่าตัว
- ต้นทุนขนส่ง ขึ้นราคา
- ราคาพลังงานปรับขึ้น
“จริงๆ เรามีต้นทุนการผลิตต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นตั้งแต่ปี 2560 ปี2561 แล้วตอนแรกเราอยากจะปรับราคาในช่วงนั้น แต่สุดท้ายมาเจอโควิดระบาดปี 2562 เราทำไม่ได้จริงๆ ที่ปรับราคาในช่วงนั้นเพราะสงสารผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจริงๆ เราประวิงเวลามาสุดๆแล้ว ทั้งรัดเข็มขัดตัวเองอย่างเต็มที่ จัดการตัวเองปรับกระบวนการผลิตใช้เครื่องจักรในการทำงาน ขอเถอะเราไม่ไหวจริงๆการปรับครั้งนี้ถือว่าสมเหตุสมผล และคุณภาพของสินค้าก็คงเดิม เชื่อว่ามันจะสมเหตุสมผล ที่สำคัญเราปรับเป็นรายสุดท้ายของอุตสาหกรรมนมถั่วเหลืองเลยก็ว่าได้” มัลลิกา กล่าว
ทุ่ม 50 ล้านดึง Paper Planes พรีเซ็นเตอร์ หวังเจาะตลาดฟันน้ำนม
ด้านคุณ พรรวนา มหาทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายโฆษณาและการตลาดสัมพันธ์ บริษัท แลคตาซอย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท ดึงวง Paper Planes หัวหน้าแก๊งวัยรุ่นฟันน้ำนม เจ้าของผลงานเพลงสุดฮิต 'ทรงอย่างแบด (Bad Boy)' ที่เด็กๆ ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองมาเป็นพรีเซนเตอร์ และเพื่อหวังเร่งสร้างการรับรู้ และสร้างภาพจดของแบรนด์ในการปรับขึ้นราคามาเป็น 6 บาท
โดยสาเหตุที่เลือก Paper Planes เพราะว่า วงนี้เป็นที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้สังคมในทิศทางที่ดี ให้เด็กๆ ผู้ปกครองมีวิธีคิดที่ดี เหมากับแลคตาซอย ซึ่งกำลังอยู่ในทิศทางที่เปลี่ยนแปลง ทั้งเปลี่ยนราคา และเปลี่ยนเพลงโฆษณาใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ประมาณ มี.ค.66 เชื่อว่า Paper Planes จะสื่อสารไปถึงเด็กๆ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง รวมถึงเจน Y ได้ดี
3 ปีย้อนหลัง แลคตาซอยมีกำไร
หากสำรวจข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าแลคตาซอย มีผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี ดังนี้
- ปี 2562 รายได้ 9,802,234,446.54 บาท กำไร 1,465,071,893.86 บาท เพิ่มขึ้น 34.33 %
- ปี 2563 รายได้ 9,601,822,445.58 บาท กำไร 1,105,929,928.83 บาท ลดลง 24.51 %
- ปี 2564 รายได้ 9,810,832,105.47 บาท กำไร 1,263,937,051.28 บาท เพิ่มขึ้น 14.28 %
สำหรับผลประกอบการในปี 2565 บริษัท แลคตาซอย จำกัด มีการเปิดเผยล่าสุดว่า มียอดขาย 10,614 ล้านบาท เติบโต 3.12% เมื่อเทียบกับยอดขายปี 2564 โดยแบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากความไว้วางใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์แลคตาซอย และการรักษาโครงสร้างราคาขายที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่ผ่านมา
รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัดแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 2566 จะสามารถทำยอดขายเติบโตอยู่ที่ประมาณ 5-8% และแลคตาซอยจะยังคงครองแบ่งตลาดนมถั่วเหลืองเบอร์ 1 ที่ 56 %
เปิดแผนปี 66 ทุ่ม 150 ล้านบาท ลุยลงทุนเพิ่มกำลังการผลิต
ทิศทางการดำเนินธุรกิจของแลคตาซอยในปี 2566 นี้ บริษัทมีแผนการขายในประเทศควบคู่ไปกับการขายต่างประเทศ โดยประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย อย่าง กลุ่มประเทศอินโดไชน่า
ส่วนการขายในประเทศยังคงผ่านช่องทางหลัก โดยการกระจายสินค้าผ่านคลังสินค้ากว่า 73 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับการขายผ่านห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และร้านค้าปลีก และยังมุ่งพัฒนาการขายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มีการปรับโฉมเว็บไซต์ให้ทันสมัยและรองรับระบบการขายแบบ E - Commerce
รวมทั้ง มีแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 300 ล้านกล่องต่อปี โดยลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรรุ่นใหม่ในโรงงานผลิตที่ จ.ปราจีนบุรี พัฒนาปรับเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่รุ่นใหม่วมถึงการลงทุนกว่า 150 ล้านบาทเพื่อติดตั้งโซล่าเซลล์ ในโครงการพลังงานสะอาด
นับได้ว่าเป็นการปรับทัพครั้งใหญ่ในรอบ 23 ปี ของแลคตาซอยแบรนด์นมถั่วเหลืองเก่าแก่ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และต้องจับตาการสื่อสารการตลาดที่ใช้พรีเซ็นเตอร์ใหม่จะได้ผลมากน้อยเพียงใด ที่จะสื่อสารไปถึงเป้าหมาย !!!!