ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในกระแสที่มาแรงที่คนรุ่นใหม่หันมาสนใจมากขึ้น นั่นคือ ‘เทรนด์น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ’ เพราะนอกจากจะยังได้กินน้ำผลไม้ที่อร่อยสดชื่นแล้ว ร่างกายยังได้รับประโยชน์ด้วย วิตามินและเสริมภูมิต้านทานด้วยกากใยของผลไม้และผักนานาชนิด
Boost Juice บาร์ร้านน้ำผลไม้ชื่อดัง สัญชาตออสเตรเลีย ได้เข้ามาบุกตลาดไทยในปี 2022 และปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก จนสามารถขยายสาขาได้มากกว่า 28 สาขาในห้างสรรพสินค้า ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ด้วยสโลแกน “ใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพที่ดี ที่ได้รับความอร่อยและสนุกกับมัน”
ปัจจุบัน Boost Juice ประสบความสำเร็จอย่างมากในหลากหลายประเทศ และมีร้านค้า มากกว่า 600 สาขาใน 15 ประเทศทั่วโลก
กลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ
โมเดล Grab & Go ตอบสนองความเร่งรีบของผู้บริโภค
โดยคุณ Jannie Allis ได้รับแรงบันดาลใจหลังจาการเดินทางไปเที่ยวที่สหรัฐอเมริกา และเห็นชาวอเมริกันเดินดื่มน้ำผลไม้บนท้องถนน แม้จะเป็นชั่วโมงที่เร่งรีบ เลยนำไอเดียกลับมาใช้เปิดในประเทศของตน
ในปี 2000 ที่เมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย พร้อมกับความตั้งใจทำสมูทตี้ให้เหมือนอาหารจานด่วนที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับคนเร่งรีบ ซึ่งออเดอร์แต่ละแก้ว ใช้เวลาในการทำเพียงแค่ 4-5 นาที
รวมถึง ยังต้องตอบโจทย์ “ดื่มเพื่ออิ่มท้องระหว่างวัน” ได้ โดยโมเดลนี้ตอบโจทย์ชีวิตของทุกเพศ ทุกวัย ในไลฟ์สไตล์คนเมืองที่เร่งรีบตลอดเวลา แต่ยังอยากมีสุขภาพที่แข็งแรง
สร้างอัตลักษณ์โดดเด่น ด้วยการใช้สี และปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ในเทรนด์รักโลก และรักสุขภาพ
ทุกร้านของ Boost Juice จะมีการตกแต่งเป็นโทนสีสดใส 3 สี นั่นก็คือ สีเขียว สีส้ม และสีเหลือง ซึ่งแต่สีก็ยังมีการซ่อนความหมาย และแรงดึงดูดของของผู้บริโภคให้เกิดความรู้สึกที่สดชื่น ในการเลือกดื่ม Boost Juice
สีเขียว : ช่วยกระตุ้นให้เกิดความสดชื่น และ ลดความเหน็ดเหนื่อย คลายความเครียด
สีส้ม : ช่วยกระตุ้นพลังงานและความสดชื่น
สีเหลือง : ช่วยในเรื่องการเจริญอาหาร กระตุ้นสมองและความจำ
นอกจากนี้ Boost Juice ยังใช้แก้วกระดาษสีเขียว ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เป็นแบรนด์รักษ์โลก ลดใช้พลาสติก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการบริโภคสินค้า พร้อมกับช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยในคราวเดียวกัน
ชูจุดเด่น ‘น้ำผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ’ ให้อิสระลูกค้าในการเลือกดื่มในที่สิ่งชอบ
“การดื่มน้ำผลไม้ที่สดชื่นสักแก้ว ถือว่า เป็นการเริ่มต้นวันอย่างสมบูรณ์” คุณ Jannie Allis มีวิสัยทัศน์ว่า “Love life and Life will love you back” รักชีวิต แล้วชีวิตจะรักคุณกลับเอง
Boost Juice ชูจุดเด่นเรื่อง คุณภาพของวัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็นผักและผลไม้ มีความสดใหม่ทุกวัน โดยทางแบรนด์จะไม่ใช้กลิ่นสังเคราะห์ หรือการใส่สีเพื่อตกแต่ง หรือแม้กระทั้งเลือกวัตถุดิบที่ไม่มีสารกันบูด
โดยลูกค้าจะสามารถเลือกเครื่องดื่มหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น สมูทตี้ปั่นแบบธรรมดา ปั่นแบบใส่ผงโปรตีนหรือผงวิตามิน และมีน้ำผักและผลไม้สกัดเย็น ที่มีกากใยหรือไร้กากใย
นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังสามารถเลือกส่วนผสมของผัก และผลได้เองได้ตามใจชอบ หรือ สามารถเลือกเมนูที่ทางร้านคิดไว้ให้แล้ว กว่า 56 เมนู
การตลาดที่สร้าง Brand Loyalty
หนี่งในกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ คือ แอปพลิเคชั่น Boost Juice Find the Fruit ซึ่งหากผู้เล่นได้ผ่านด่านที่กำหนด จะมีการให้รางวัลเป็น Gift voucher ที่สามารถมาแลกของรางวัลกับร้าน Boost Juice ได้ ถือว่า เป็นแคมเปญที่มีความฉลาดในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพราะแอปพลิเคชั่นนี้ สามารถโหลดได้ฟรีทั้ง IOS และ Android และแม้ว่าคุณไม่เคยเป็นลูกค้า Boost juice มาก่อน คุณก็สามารถลุ้นรับเครื่องดื่มฟรี ผ่านการเล่นเกมได้
โดยมีรายงานว่า Free the Fruit แอปพลิเคชันเกมแรกของบริษัทมียอดดาวน์โหลดไปกว่า 329,889 ครั้ง และมีคนไปแลกรางวัลที่ร้านถึง 225,970 รางวัล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแคมเปญนี้ ที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้หลายแสนครั้ง อาจทำให้ต้นทุนเพิ่ม แต่ก็แลกกับการที่มีโอกาสเพิ่มลูกค้าใหม่ได้ในอนาคต
Boost Juice เป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของการสร้างแบรนด์ ให้มีความโดดเด่น และชัดเจน ด้วยกระบวนการ CRM (Customer relationship management system) ที่ประกอบด้วย การสร้างการรับรู้ของแบรนด์, การสร้างกลุ่มเป้าหมายในการขาย, เปลี่ยนเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้า, มอบการบริการลูกค้าที่เหนื่อชั้น, กระตุ้นการขายเพิ่ม ได้อย่างชาญฉลาด จนประสบความสำเร็จเป็นหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำร้านน้ำผลไม้ระดับโลก