น้ำแข็งไสราดชาไทย กลายเป็นประเด็นร้อน เมนูฮิตที่หลายๆคนพูดถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดกรณีดราม่าน้ำใสจากร้านปังชา
แท้จริงแล้วปฎิเสธไม่ได้เลยว่า น้ำแข็งใสเป็นเมนูของหวานยอดฮิตครองใจคนไทยมานมนานหลายยุค หลายเจเนอเรชั่นที่ส่งผ่านมาตั้งแต่รุ่นย่า-ยาย ที่ต้องที่นำน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆ วางบนเก้าอี้ไม้ที่มีใบมีดคมๆ แล้วไสน้ำแข็ง ทั้งก้อนให้ออกมาเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แล้วราดให้ชื่นใจด้วยน้ำหวานหลากสี ทานคู่กับขนมไทยอย่าง ลอดช่อง เผือก ขนมปัง หรือทับทิมกรอบ
มาถึงยุคปัจจุบัน ที่การทำน้ำแข็งใสไม่จำเป็นต้องใช้แรงคนในการทำ เพียงแค่ใช้เครื่องปั่น ก็ทำให้น้ำแข็งมีขนาดเล็กลง และนุ่มฟูมากกว่าเครื่องโบราณ แถมยังมีหลากหลายสไตล์เอาใจความชื่นชอบของผู้บริโภคหลายกลุ่มตามท้องตลาด เช่นน้ำแข็งไสสไตล์เกาหลี (บิงซู) น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น (คากิโกริ) หรือนํ้าเเข็งไสสไตล์ไทย
ทีม SPOTLIGHT ได้รวบรวม เมนูสุดฮิตน้ำแข็งไสราดชาไทย 2 เจ้าดัง อย่าง แบรนด์ After You และ Pang Cha Café
คากิโกริ รสชาไทย จากร้าน After You Dessert Café
เริ่มกันด้วยเมนูคากิโกริ รสชาไทยจากแบรนด์ After You ร้านของหวานแสนอร่อยที่สาวกของหวานต้องโปรดปราน
ราคา : 245 บาท (ทานได้ 2 – 3 คน)
จุดเด่น : น้ำแข็งไสสไตล์ญี่ปุ่น (คาคิโกริ)
*คาคิโกริ คือ น้ำแข็งใสสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีเนื้อน้ำแข็งใสเนียนนุ่มละเอียด(แต่ไม่มีรสชาติ) แต่จะมี โรยผงรสชาติต่างๆ เพิ่มเพิ่มรสชาติความหวาน เช่นซอสเข้มข้น หรือนมข้น อาจท็อปปิ้งด้วยผลไม้หรืออื่นๆ ส่วนด้านในมีไส้อาจเป็นได้ทั้งผลไม้ และขนม
Topping : ท็อปด้วยครีมนม, อัลมอนด์สไลด์, ขนมปัง, คัสตาร์ดชาไทย, เฉาก๊วย พร้อมซอสชาไทย
ปีที่เปิด : 2550
สาขา : 51 สาขาทั่วประเทศไทย (สาขาแรกที่ เจ อเวนิว ทองหล่อ )
บริษัท : อาฟเตอร์ ยู จํากัด (มหาชน)
รายได้บริษัท ปี 2565 : 899 ล้านบาท
กําไรบริษัท ปี 2565 : 123 ล้านบาท
เจ้าของ : คุณกุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ (เม), คุณแม่ทัพ ต.สุวรรณ (หมิง)
จุดเริ่มต้นของร้าน After You เกิดขึ้นจากความคิดและความฝันตั้งแต่วัยเยาว์ที่อยากจะเปิดร้านขนมเป็นของตัวเองของคุณเมย์ และคุณหมิง โดยทั้ง 2 ท่านเคยร่วมดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงได้นำประสบการณ์จากธุรกิจเดิมมาปรับใช้กับร้าน After You
แม้ว่าในช่วงแรกธุรกิจของ After You จะต้องพบกับอุปสรรคอยู่บ้าง แต่คณเมก็ยังคงยืนหยัดที่จะคิดค้นและสร้างสรรค์เมนูขนมหวานออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง เช่น ชิบูยา ฮันนี่โทสต์, ช็อคโกแลตลาวา, คาคิโกริ ด้วยแนวคิด “มอบความสุขผ่านรสชาติขนมและบริการให้กับลูกค้าทุกท่านที่ได้มาร้านของเรา” จนปัจจุบันเป็นร้านขนมที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งจากชาวไทย รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทยอีกด้วย
ปังชา จากร้านลูกไก่ทอง และ Pang Cha Café
มาต่อกันที่น้ำแข็งไสชาไทย ยอดฮิต อย่าง ‘ปังชา’ จากร้านลูกไก่ทอง และ Pang Cha Café ที่ได้รับมิชลินไกค์ ฉบับประเทศไทย ถึง 4 ปีซ้อนด้วยกัน ตั้งแต่ปี 2018 -2021
ราคา : 335 บาท (ทานได้ 3 – 4 คน)
จุดเด่น : น้ำแข็งไสดึงความเป็นไทย ใช้ใบชาถึง 5 ชนิด (Local Southern Thai Tea, Emperor Oolong Tea, Popular Red Tea, Leaf Black Tea, Ceylon Tea) และใช้วิธีการต้มสด ชงใหม่ทุกวัน ไม่มีการใช้ชาผง
Topping : ไข่มุกชาดำ, ไข่มุกคริสตัลชาไทย, ไข่มุกแก้ว, เฉาก๊วยผสมชาดำ, อัลมอนด์สไลด์, ขนมปัง, วิปครีม
ปีที่เปิด : 2552
สาขา : ลูกไก่ทอง 10 สาขา, ปังชา คาเฟ่ 8 สาขาทั่วประเทศไทย
บริษัท : กาญณรงค์ กรุ๊ป จำกัด
รายได้บริษัท ปี 2565 : 289 ล้านบาท
กําไรบริษัท ปี 2565 : 29 ล้านบาท
เจ้าของ : คุณแสงณรงค์ มนตรีวัต (แสง) และ คุณกาญจนา ทัตติยกุล (แก้ม)
จุดเริ่มต้นของเมนู ’ปังชา’ เกิดขึ้นจากคุณแสง และคุณแก้ม ได้รับแรงบันดาลใจจากการอยากสร้างเมนูของหวานชูโรงของร้านลูกไก่ทอง ประจวบเหมาะกับณ ช่วงนั้น เครื่องดื่มชาไทยได้รับความนิยม จนกลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของโลก เลยเกิดความคิดว่า “ทำไมเราไม่นำชาไทยมาทำของหวานบ้างล่ะ”
โดยคุณแก้มใช้เวลาคิดค้นสูตรนานกว่า 1 ปี ถึงได้ส่วนผสมที่ลงตัว ที่ต้องสามารถชูรสชาติของใบชา 5 ชนิดให้มีรสชาติ หวาน มัน หอม เข้ม ปังชาถ้วยแรกเสิร์ฟที่ร้านสาขาทองหล่อ โดยทางร้านใช้วิธีการทดลองแจกให้ลูกค้าชิมฟรีก่อน เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะและข้อปรับปรุง ก่อนที่จะบรรจุไว้ในเล่มเมนูและเริ่มวางขายจริง