‘ลิซ่า’ เปิดตัว LLOUD ค่ายใหม่ป้ายแดง พร้อมนั่งแท่น CEO เตรียมลุยงานเดี่ยวเต็มตัวหลังลา YG
‘ลิซ่า’ Blackpink เปิดตัว LLOUD บริษัทต้นสังกัดใหม่ของตัวเองในช่องทางโซเชียลพร้อมลุคใหม่ในทักซีโด้สุดเท่ นับเป็นสมาชิกวง Blackpink คนที่สองถัดจากเจนนี่ ที่ออกมาเปิดค่ายเพลงทำธุรกิจของตัวเอง หลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญาเดี่ยวต่อกับ YG Entertainment
คอนเทนต์แนะนำ
ก้าวไปอีกขั้นสำหรับสาว ‘ลิซ่า’ ลลิษา มโนบาล สมาชิกชาวไทยของวงเกิร์ลกรุ๊ป Blackpink ที่ล่าสุดออกประกาศเปิดตัว LLOUD ค่ายสังกัดศิลปินของตัวเอง พร้อมนั่งแท่นเป็น CEO บริหาร หลังหมดสัญญากับค่ายศิลปินเดิมอย่าง YG Entertainment
การเปิดตัว LLOUD ทำให้ลิซ่ากลายเป็นสมาชิกคนที่สองของวงถัดจาก ‘เจนนี่’ ที่ออกมาเปิดค่ายสังกัดศิลปิน OA หรือ ODD ATELIER ในเดือนธันวาคมปี 2023 ที่ผ่านมา ขณะที่อีกสองสมาชิกในวงคือ ‘จีซู’ และ ‘โรเซ่’ ยังไม่แน่นอนว่าจะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างหลังออกจากค่ายต้นสังกัด
มุ่งสร้างความแปลกใหม่ ล้ำทั้งแนวเพลงและสไตล์
จากคำแถลงของค่ายทั้งในแอคเคาท์อินสตาแกรมและเอ็กซ์(ทวิตเตอร์) ที่ชื่อว่า wearelloud ค่าย LLOUD ตั้งเป้าหมายจะเป็นค่ายต้นสังกัดศิลปินที่ทะลายขีดจำกัดทั้งในด้านดนตรีและความบันเทิงต่างๆ โดยจะเป็นการโชว์วิสัยทัศน์ของสาวสิซ่าในฐานะผู้บริหาร
ในฐานะต้นสังกัดศิลปิน LLOUD มุ่งเน้นจะสร้างประสบการณ์แบบใหม่ที่ “ล้ำไปกว่าแนวเพลงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และเชื่อมโยงผู้ฟังจากหลายๆ รุ่นเข้าด้วยกัน” โดยการทำเพลงฮิตที่มีทั้งซาวด์และสไตล์ที่ไม่ซ้ำใครในตลาด
‘ลิซ่า’ ถือเป็นหนึ่งในศิลปิน K-POP ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักอย่างมากทั้งในด้านดนตรีและแฟชั่นโดยนอกจากเธอจะเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่ได้รางวัล Best K-Pop Artist จากเวที MTV Music Video Awards และ Europe Music Awards แล้ว ลิซ่ายังถือว่าเป็น ‘แฟชั่นไอคอน’ ที่หยิบจับอะไรมาใช้ก็กลายเป็นของขายดีไปทั้งหมด
นอกจากนี้ ลิซ่า ยังเป็น brand ambassador อย่างเป็นทางการให้กับหลายแบรนด์แฟชั่นหรูทั้ง Celine และ BVLGARI และเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์แฟชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ทั้ง Adidas, M.A.C Cosmetics และ Penshoppe
ดังนั้น การเปิดค่ายสังกัดใหม่ในครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นทั้งสำหรับตัวลิซ่าและแฟนๆ เองที่กำลังรอคอยว่าสาวลิซ่าจะสร้างผลงานแบบไหนออกมาอีกในอนาคต ซึ่งถ้าดูจากทั้งความสำเร็จในอดีต และภาพโปรโมตสุดปังในครั้งนี้แล้ว LLOUD ก็น่าจะกลายเป็นอีกความสำเร็จของสาวลิซ่าอย่างแน่นอน
