ธุรกิจการตลาด

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผลงานปี 2566 สุดแกร่ง รายได้รวมกว่า 4.9 แสนล้านบาท

16 ก.พ. 67
ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผลงานปี 2566 สุดแกร่ง รายได้รวมกว่า 4.9 แสนล้านบาท

ซีพี แอ็กซ์ตร้า (CPAXT) ผู้ค้าปลีกชั้นนำในไทย โชว์ผลงานปี 2566 สุดแกร่ง กวาดรายได้รวมกว่า 489,949 ล้านบาท เติบโต 4% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%


ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผลงานปี 2566 สุดแกร่ง รายได้รวมกว่า 4.9 แสนล้านบาท มุ่งสู่ปี 2567 ยอดขายโตต่อเนื่อง 

สำหรับในไตรมาส 4/2566 ซีพี แอ็กซ์ตร้า ทำรายได้รวม 128,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานปี 2566 ทำรายได้รวม 489,949 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 8,640 ล้านบาท โต 4% และ 12% จากปีก่อน ตามลำดับ โดยในไตรมาส 4 ปี 2566 ถือเป็นไตรมาสที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา จากปัจจัยบวกหลายด้าน สำหรับ ปัจจัยหนุนผลงานปี 2566 แข็งแกร่ง ยอดขายสาขาเดิมและการเปิดสาขาใหม่ โดยแม็คโคร และโลตัส มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้า มีสินค้าหลากหลาย อาหารสดเติบโต เน้นเน้นสินค้าสดคุณภาพดี ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2566 ในอัตรารวม 0.57 บาทต่อหุ้น เมื่อหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้นที่บริษัทฯ ได้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตรา 0.39 บาทต่อหุ้น


แผนขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคต ปี 2567

บริษัทฯ และบริษัทย่อย มุ่งมั่นขับเคลื่อนกลยุทธ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในปี 2567 โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ดังนี้

1. ขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านนโยบายการขายนอกร้าน:

  • ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายรวมเป็น 15% ภายในปีนี้
  • พัฒนาช่องทางขายผ่านแอปพลิเคชัน เพิ่มเติมสินค้าและบริการให้หลากหลาย
  • ขยายพื้นที่ให้บริการลูกค้าโดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายกว่า 2,600 สาขาทั่วประเทศ
  • พัฒนาทักษะทีมนักขายกว่า 1,400 คน มุ่งเน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการอย่างครอบคลุม

2. เสริมแกร่งธุรกิจอาหาร:

  • ย้ำความเป็นผู้นำด้านอาหารสด
  • พัฒนาอาหารพร้อมปรุงและอาหารพร้อมทาน
  • เพิ่มเติมสินค้าอุปโภคบริโภคที่หลากหลาย
  • สร้างความแตกต่างด้วยสินค้าแบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label)

3. ปรับโฉมและขยายสาขาเชิงรุก:

  • มุ่งสร้างเครือข่ายศูนย์กลางชุมชนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
  • รองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย

แผนขยายสาขา

  • แม็คโคร: ตั้งเป้าขยาย 6-8 สาขา
  • โลตัส: ขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยและมาเลเซียมากกว่า 100 สาขา

กลยุทธ์เหล่านี้ มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย เข้าถึงได้ง่าย และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับธุรกิจ บริษัทฯ มั่นใจว่า กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยบรรลุเป้าหมายและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุน

แม็คโคร โลตัส ผนึกกำลัง สู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก

การผสานพลัง ของสองธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง แม็คโคร และโลตัส ภายใต้บริษัทเดียว ไม่ได้เป็นเพียงการรวมตัวกันเท่านั้น แต่คือการปลุกพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ผ่านศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของทั้งสองแบรนด์ การปรับโครงสร้างครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและทรัพยากร ลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร ส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม สำหรับ ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม มีดังนี้

  • สร้างรายได้และสร้างอาชีพ: แม็คโคร-โลตัส สร้างงานกว่า 90,000 ตำแหน่งในปีที่ผ่านมา
  • สนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น: มีการรับซื้อผักและผลไม้จากเกษตรกรกว่า 9,800 ล้านบาท
  • พัฒนาศักยภาพเกษตรกร: จัดกิจกรรมอบรมถ่ายทอดความรู้ พัฒนาทักษะ เพิ่มศักยภาพให้เกษตรกรสามารถแข่งขันในตลาได้
  • โครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม: มุ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาด สนับสนุนโครงการอาหารดีพี่ให้น้อง อาหารอิ่มสุข และกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอีกมากมาย


แม็คโคร-โลตัส การรวมพลังครั้งนี้ เปรียบเสมือนการคูณสองพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง ตอกย้ำเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของแม็คโคร-โลตัส ในการเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืน

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT