BYD เตรียมเปิดตัวรถกระบะ EV รุ่นแรกในปีนี้ หวังเจาะตลาดเอเชีย-ออสเตรเลียเพิ่ม
BYD จ่อออกกระบะ EV รุ่นแรกในปีนี้ เพื่อเจาะตลาดรถยนต์ในเอเชียและออสเตรเลียที่เป็นตลาดใหญ่ ขยายช่องทางสร้างรายได้หลังยอดส่งมอบลดฮวบในไตรมาสแรกของปี 2024 จากดีมานด์รถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลที่ลดลงทั่วโลกจากสภาพเศรษฐกิจ
คอนเทนต์แนะนำ
BYD ประกาศข่าวนี้ออกมาพร้อมภาพรถกระบะสีส้มฟ้าลายพรางบนท้องถนน และยังไม่ได้เปิดเผยสเปก ราคา หรือข้อมูลอื่นๆ ของรถรุ่นนี้ แต่แหล่งข่าวภายใน เผยว่า รถกระบะขับเคลื่อนไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทนี้จะเป็นรถกระบะขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ และมีขนาดใหญ่กว่า Toyota Hilux
ก่อนหน้านี้ ในปี 2022 ภาพรถกระบะของ BYD ในการทดสอบขับเคยถูกปล่อยออกมาในโซเชียลมีเดียของจีนแล้วรอบหนึ่ง และมีผู้คาดว่ารถกระบะรุ่นนี้ จะเป็นรถรุ่นแรกของแบรนด์ “F” แบรนด์รถใหม่ภายใต้ BYD แต่สุดท้ายแล้วรถรุ่นแรกของแบรนด์ Fang Cheng Bao ก็กลายเป็นรถ SUV ไม่ใช่รถกระบะอย่างที่คาด
BYD เจาะตลาดรถกระบะ หลังดีมานด์รถส่วนบุคคลลดฮวบ
โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า BYD มุ่งพัฒนารถกระบะรุ่นนี้ เพื่อตีตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดเอเชีย และออสเตรเลีย ที่มีรถกระบะเป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุด เพราะมีความเอนกประสงค์ ใช้ขนส่งคนหรือว่าสิ่งของเพื่อทำธุรกิจก็ได้
การเปิดตัวรถกระบะในครั้งนี้ ถือว่าเกิดขึ้นในจังหวะที่ดี เพราะ BYD และบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ กำลังเจอปัญหายอดขายตก จากดีมานด์สำหรับรถยนต์ EV ส่วนบุคคลทั่วโลกที่ลดลง โดยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2024 BYD ส่งมอบรถได้ทั้งหมด 300,114 คัน ลดลงถึง 43% จากไตรมาสที่ 4 ของปี 2023 ขณะที่ Tesla ส่งมอบได้ทั้งหมด 386,810 คัน ลดลงมากกว่า 20% จากไตรมาสก่อนหน้า
ดังนั้น หาก BYD เจาะตลาดรถกระบะได้สำเร็จ และได้รถรุ่นนี้มาเป็นอีกหนึ่งรายได้ บริษัทก็อาจจะยังสร้างการเติบโตต่อไปได้ แม้ว่าตลาดรถยนต์ส่วนบุคคลจะเริ่มอิ่มตัวแล้วจากผู้เล่นที่เพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน รถกระบะเป็นรถที่ขายดีที่สุดในไทย ระหว่างเดือนมกราคมถึงธันวาคม ปี 2023 มียอดขายรถยนต์ทั้งหมด 775,780 คัน เป็นรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ถึง 483,275 คัน เป็นรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) จำนวน 325,024 คัน และรถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) 264,738 คัน
ส่วนในออสเตรเลีย ในปี 2023 รถกระบะครองตำแหน่งรถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศ 3 อันดับ ได้แก่ Ford Ranger, Toyota Hilux และ Isuzu D-Max ที่มียอดขาย 63,356, 61,111 และ 31,202 คัน ตามลำดับ
ดังนั้น ตลาดรถกระบะจึงถือเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพในการเติบโตสูง เพราะยังไม่มีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใดมีสินค้ าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในตลาดรถกระบะ ที่ปัจจุบันมีความต้องการที่จะเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้น้ำมันเช่นเดียวกัน
ที่มา: Bloomberg, Motor Finance, Which Car
