Heinz ประกาศเปิดตัวซอสใหม่ชื่อว่า "Barbiecue Sauce" เป็นซอสมายองเนสสีชมพูรสชาติบาร์บีคิวที่ทำมาสำหรับผู้ทานสวิรัติโดยเฉพาะ
Heinz เปิดตัวซอส 'บาร์บี้' ซอสสุด cute ที่เอาใจคนทานมังสวิรัติ
สำหรับซอสสูตรพิเศษนี้ทำขึ้นเพื่อฉลองวันเกิดครบ 65 ปีของตุ๊กตาบาร์บี้ โดยความร่วมมือระหว่าง Heinz กับ Mattel บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์บาร์บี้ ไอเดียนี้เริ่มมาจากกระแสความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง Barbie เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำแสดงโดย Margot Robbie กับ Ryan Gosling ในบทบาทบาร์บี้กับเคน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดในปี 2023 ด้วยรายได้กว่า 1.36 พันล้านเหรียญสหรัฐ หลังหนังออกฉาย Heinz ได้โพสต์รูปซอสธีมบาร์บี้ลงบนอินสตาแกรม และเมื่อได้รับเสียงเรียกร้องอย่างมากมาย เลยตัดสินใจผลิตซอสนี้ขึ้นมาจริงๆ
“บาร์บี้โด่งดังมากในอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว และเมื่อเห็นกระแสตอบรับอย่างดีของซอสที่มาจากโพสต์ในโลกออนไลน์ เรารู้ทันทีว่าต้องทำให้เป็นจริง" Thiago Rapp ผู้อำนวยการด้านรสชาติแบรนด์ Heinz กล่าว "เราพยายามหาอะไรใหม่ๆ มาโดยตลอดเพื่อตอบสนองลูกค้า และเรารู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมมือกับ Mattel เพื่อทำให้ซอสในตำนานนี้เกิดขึ้น"
เว็บไซต์ของ Heinz บรรยายว่าซอสนี้ "เหมาะมากกับเบอร์เกอร์ หรือจะเพิ่มรสชาติบาร์บีคิวให้กับของทานเล่นอย่างเฟรนช์ฟรายหรือพิซซ่า" ขณะนี้ซอส Barbie มีวางจำหน่ายแล้วในซูเปอร์มาร์เก็ตในสหราชอาณาจักรที่ร้าน Tesco หรือสั่งซื้อออนไลน์กับ Heinz to Home
Heinz สนับสนุนการคนทานอาหารมังสวิรัติ
ซอส "บาร์บี้" เป็นผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มสินค้าสวิรัติ มากมายของ Heinz จริงๆแล้ว ซอสขึ้นชื่อหลายตัวของ Heinz เช่น ซอสมะเขือเทศ ซอสบาร์บีคิว และถั่วอบ ก็เป็นแบบมังสวิรอยู่แล้วโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ Heinz ก็เคยออกผลิตภัณฑ์ยอดฮิตหลายอย่างในฉบับที่ไม่ใช้วัตถุดิบจากสัตว์
Heinz ได้วางจำหน่ายมายองเนสและครีมสลัดที่ไม่ใส่ไข่และนมตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งทางบริษัทได้อธิบายว่า การตัดสินใจนี้เกิดจากจำนวน ผู้ทานสวิรัติ ที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อปี 2022 Heinz ก็ประกาศว่าจะออกซุปครีมมะเขือเทศ (Cream of Tomato Soup) ฉบับสวิรัติ รวมถึง "ถั่วอบกระป๋อง" และ "ไส้กรอกสวิรัติ" ด้วย "นวัตกรรมอาหารแบบสวิรัติสุดอร่อยของเราใช้เวลาพัฒนามาหลายปี เพื่อคงรสชาติแบบ Heinz ดั้งเดิม แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมันเป็นแบบสวิรัติแล้ว!" Manel Jordão ผู้จัดการแบรนด์ Heinz กล่าวในช่วงที่เปิดตัวสินค้า
ที่มา plantbasednews