ธุรกิจการตลาด

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

3 ก.ค. 67
5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจไทยในครึ่งปีหลัง 2567 ด้วยการเปิดตัว "5 โฟกัสหลัก" พร้อมปรับบทบาทสู่ "Marketing Accelerator" เพื่อเร่งการเติบโตของธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล บทความนี้จะสรุปเนื้อหาสำคัญจากงานแถลงข่าวของ MAT รวมถึงแนวคิด "5 เสาหลักนำทางธุรกิจไทยสู่ความสำเร็จในครึ่งปีหลัง 2567" และ "A-B-C-D-E 5 คันเร่งการตลาดสำหรับ SMEs" เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพรวมของทิศทางและกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยในยุคดิจิทัล

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

810819

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ได้จัดงานแถลงข่าว ณ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เพื่อประกาศทิศทางและกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยมี ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการอำนวยการชุดใหม่ 36 ท่าน และผู้อำนวยการบริหาร ร่วมนำเสนอวิสัยทัศน์และแผนงานที่สำคัญ

หนึ่งในไฮไลท์สำคัญของงานคือการเปิดตัว "5 โฟกัสหลัก" ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญที่จะช่วยให้นักธุรกิจและนักการตลาดไทยสามารถรับมือกับความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หรือการเข้ามา disrupt ธุรกิจเดิมของเทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ในการเป็น "Accelerator" หรือ "ผู้ผลักดัน" ที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการการตลาดไทย ผ่านการจัดกิจกรรมอบรม สัมมนา และเวิร์กช็อปต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ให้กับนักการตลาด สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสมาชิก และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์

MAT  กับมุมมองการเปลี่ยนผ่านตาม Megatrend

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

MAT ได้เผยถึงการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของโลกธุรกิจและการตลาด ตามแนวโน้ม Megatrend ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยแบ่งเป็น 3 ยุคหลัก ได้แก่

  • ยุคเก่า: เป็นยุคที่เน้นภาคอุตสาหกรรมหนักและการผลิตเป็นหลัก ธุรกิจและการตลาดในยุคนี้เน้นการขายสินค้าและบริการที่จับต้องได้เป็นหลัก
  • ยุคปัจจุบัน: เป็นยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายเข้ามามีบทบาทสำคัญ ธุรกิจและการตลาดในยุคนี้เน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเข้าถึงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า
  • ยุคใหม่: เป็นยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) และหุ่นยนต์ (Robotic) จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ธุรกิจและการตลาดในยุคนี้จะเน้นการสร้างประสบการณ์ที่หลอมรวมให้กับลูกค้า ผ่านการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

MAT เชื่อว่าการเข้าใจและปรับตัวตาม Megatrend เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจและนักการตลาดไทยสามารถรับมือกับความท้าทาย และคว้าโอกาสใหม่ๆ ในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักการตลาดไทยต้องปรับตัวรับมือ Megatrend เพื่อนำพาธุรกิจฝ่าความท้าทาย

ดร.บุรณิน ได้กล่าวถึงความท้าทายที่นักการตลาดไทยต้องเผชิญในปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป ปัญหาสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการตลาดในวงกว้าง "นักการตลาดต้องปรับตัวตาม Megatrend หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกอยู่เสมอ ตั้งแต่ยุคเก่าที่เน้นภาคการผลิต จนมาถึงยุคปัจจุบันที่ดิจิทัลและสื่อใหม่เข้ามามีบทบาทสำคัญ และต้องมองไปข้างหน้าสู่ยุคที่ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีสะอาด และหุ่นยนต์ จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น" ดร.บุรณิน กล่าว

MAT ยกระดับ 8 แนวคิดสำหรับพัฒนาการตลาดไทยสู่ยุคใหม่

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) มุ่งมั่นสู่การเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการตลาดไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ด้วยการประกาศ 8 เสาหลักสำคัญที่จะเป็นรากฐานในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับวงการการตลาดไทยในทุกมิติ

  1. Marketing Wisdom องค์ความรู้การตลาด: MAT มุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และแนวคิดทางการตลาดที่ทันสมัย เพื่อให้สมาชิกและผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
  2. Recognition & Honor การเชิดชูเกียรติ: MAT ให้ความสำคัญกับการยกย่องและเชิดชูเกียรติบุคคลและองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นในวงการการตลาด เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและสร้างมาตรฐานความเป็นเลิศให้กับวงการ
  3. Intelligence Hub ศูนย์กลางข้อมูล: MAT ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์แนวโน้มทางการตลาด เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์และนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. Development การพัฒนา: MAT มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักการตลาดไทยในทุกระดับ ผ่านการจัดอบรม สัมมนา เวิร์กช็อป และกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้สมาชิกสามารถพัฒนาทักษะและความรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจ
  5. Alliance & Partnership พันธมิตรและความร่วมมือ: MAT ให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่ง
  6. Marketing Community สังคมนักการตลาด: MAT สร้างชุมชนนักการตลาดที่เข้มแข็ง เพื่อให้สมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวคิดต่างๆ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน
  7. Global Reach เครือข่ายทั่วโลก: MAT มีเครือข่ายความร่วมมือกับองค์กรการตลาดในต่างประเทศ เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจในตลาดโลก และเรียนรู้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดจากนานาประเทศ
  8. Social Responsibility ความรับผิดชอบต่อสังคม: MAT ส่งเสริมให้นักการตลาดไทยตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมในวงกว้าง

นอกจากนี้ ช่องทางการตลาดเองก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เน้นการพบปะพูดคุยกันแบบตัวต่อตัว (Physical) ก็เปลี่ยนมาเป็นช่องทางดิจิทัล (Digital) และในอนาคตอันใกล้นี้ ก็จะกลายเป็นตลาดแบบหลอมรวม (Immersive) ที่ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์ที่สมจริงและเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้นักธุรกิจและนักการตลาดไทยสามารถปรับตัวและรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยจึงได้นำเสนอ "5 โฟกัสหลัก" ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศที่จะช่วยนำทางธุรกิจไทยให้ก้าวไปข้างหน้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 สำหรับ 5 โฟกัสหลักเพื่อเป็นเข็มทิศให้นักธุรกิจไทยในครึ่งปีหลัง 2567 มีดังนี้

5 เสาหลักนำทางธุรกิจไทยสู่ความสำเร็จในครึ่งปีหลัง 2567

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

1.สร้างขวัญกำลังใจและบรรยากาศเชิงบวก

  • ในโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทาย การสร้างขวัญกำลังใจและบรรยากาศเชิงบวกถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ สมาคมฯ มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมความร่วมมือและการเกื้อกูลระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในแวดวงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา หรือแม้แต่ผู้บริโภค เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ หรือการผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ

2.สนับสนุนแนวทางธุรกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน Sustainability และ Responsible Marketing อย่างจริงจัง

  • ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นความท้าทายระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในวงกว้าง สมาคมฯ จึงให้ความสำคัญกับการผลักดันแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability) และการตลาดอย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Marketing) เพื่อสร้างธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างแท้จริง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร แต่ยังเป็นการสร้างคุณค่าระยะยาวให้กับธุรกิจและสังคมโดยรวม ตัวอย่างเช่น การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม

3.ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เพื่อสร้างความเท่าเทียม

  • เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจ สมาคมฯ มองเห็นถึงศักยภาพของ AI ในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูล และส่งเสริมการพัฒนาอย่างทั่วถึง ตัวอย่างเช่น การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้า การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด หรือการสร้างระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

4.ส่งเสริมศักยภาพ SMEs ไทยด้วยการสร้างช่องทางและเนื้อหาของตนเอง

  • SMEs ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย สมาคมฯ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ไทย โดยส่งเสริมให้มีช่องทางการสื่อสารและเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อสร้างแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น การสนับสนุนให้ SMEs สร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของตนเอง การให้คำปรึกษาในการทำการตลาดออนไลน์ หรือการจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล

5.มุ่งเน้นการสร้างความเชี่ยวชาญในตลาดเอเชีย (Asia Mastery)

  • ตลาดเอเชียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูง สมาคมฯ จึงให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจและเจาะตลาดเอเชีย ซึ่งกำลังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่สำคัญ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างการเติบโตในระดับภูมิภาค ตัวอย่างเช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ การสร้างเครือข่ายธุรกิจในภูมิภาค หรือการให้ข้อมูลและคำปรึกษาเกี่ยวกับตลาดเอเชีย

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมฯ กล่าวเสริมว่า "นักการตลาดไทยจำเป็นต้องปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ สร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ และมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดเอเชียในอนาคต"

MAT ก้าวสู่บทบาท "Marketing Accelerator" ขับเคลื่อนการตลาดไทยสู่ยุคใหม่ด้วยวิสัยทัศน์และภารกิจที่ชัดเจน

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2509 ได้ดำเนินภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการการตลาดไทยมาอย่างยาวนานถึง 58 ปี โดยยึดมั่นใน 5 ภารกิจหลัก ได้แก่

  • 1.Branding the Nation: การใช้ความรู้และกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ประเทศไทยให้แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตัวอย่างเช่น การส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในด้านต่างๆ เช่น การท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหาร และสินค้า เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลก
  • 2.Creating Net Positive: การส่งเสริมและสนับสนุนให้ภาคธุรกิจดำเนินกิจกรรมที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และโลกของเรา เช่น การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม และการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
  • 3.Driving New Business Growth: การเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจไทย เพื่อให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดโลก เช่น การจัดอบรมและสัมมนาเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้ด้านการตลาด การให้คำปรึกษาและแนะนำด้านธุรกิจ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ และการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุน
  • 4.Creating Platforms for Sustainable Advantage: การสร้างและเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและการลงทุน การแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ การสร้างความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรม และการผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ
  • 5.Marketing for All: การส่งเสริมให้ความรู้และเครื่องมือทางการตลาดสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เช่น การจัดอบรมและเวิร์กช็อปด้านการตลาด การให้คำปรึกษาและแนะนำด้านการตลาดออนไลน์ การสร้างแพลตฟอร์มและเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง

ปัจจุบัน สมาคมฯ ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ในการปรับบทบาทจาก "Platform" สู่การเป็น "Accelerator" หรือ "ผู้เร่งความเร็ว" โดยมุ่งเน้นที่จะเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงองค์ความรู้ ทรัพยากร และโอกาสต่างๆ เพื่อช่วยให้นักการตลาดและผู้ประกอบการสามารถพัฒนาธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหนึ่งในแผนงานสำคัญของ MAT ในบทบาทใหม่นี้ คือการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำข้อมูลเชิงลึก (Foresight และ Insight) ที่มีความถูกต้อง แม่นยำ และทันสมัย เพื่อให้นักการตลาดและผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้ในการวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์แนวโน้มตลาด การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค การสำรวจความคิดเห็น และการจัดทำรายงานการตลาด

MAT ชูกลยุทธ์เอาตัวรอดจากวิกฤตระยะสั้น รับมือความท้าทายรอบด้าน

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ได้เผยถึงความท้าทายที่ธุรกิจไทยต้องเผชิญในระยะสั้น ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ได้แก่

  • เศรษฐกิจโตต่ำ: ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ
  • การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น: ภัยธรรมชาติและสภาพอากาศที่แปรปรวน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและสร้างความไม่แน่นอนในการดำเนินงาน
  • หนี้สินและกำลังซื้อครัวเรือน: ภาระหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้นของครัวเรือน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและการบริโภค
  • โลกาภิวัตน์และสังคมติดวัด: การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงของโลกที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ MAT ได้นำเสนอกลยุทธ์ที่ธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญ ดังนี้

  • การใช้ AI เป็นเครื่องมือในชีวิตประจำวัน: การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในกระบวนการทำงานต่างๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

MAT เชื่อมั่นว่าด้วยการปรับตัวและนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ ธุรกิจไทยจะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตระยะสั้น และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

MAT CARE Actions แนวคิดขับเคลื่อนวงการการตลาดไทย

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

MAT ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการการตลาดไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานภายใต้กรอบ MAT CARE Actions ซึ่งประกอบด้วย 4 หัวข้อสำคัญ ดังนี้

  1. Connecting - เชื่อมต่อ: สร้างชุมชนนักการตลาดที่เข้มแข็ง ส่งเสริมการเชื่อมต่อและความร่วมมือทั้งในประเทศและระดับสากล เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และโอกาสทางธุรกิจ สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง และร่วมกันพัฒนาศักยภาพของวงการการตลาดไทย
  2. Admiring - ยกย่อง: ยกย่องและเชิดชูเกียรติองค์กรและบุคคลที่เป็นแบบอย่างในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่าง 3 ด้านหลัก คือ ผู้คน (People) โลก (Planet) และผลกำไร (Profit) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมให้เกิดการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ
  3. Redefining Marketing - นิยามใหม่: นำเสนอองค์ความรู้ทางธุรกิจและการตลาดที่ทันสมัยและแม่นยำ เพื่อให้สมาชิกสามารถเข้าถึงข้อมูลและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในแต่ละอุตสาหกรรม นำไปปรับใช้และพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  4. Experience Creating - สร้างประสบการณ์: ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับผู้บริหาร ผู้ประกอบการ และนักการตลาดไทย ผ่านการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การอบรม สัมมนา เวิร์กช็อป และกิจกรรมสร้างเครือข่าย เพื่อให้สมาชิกได้พัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคดิจิทัล และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ด้วย 4 หัวข้อหลักนี้ MAT มุ่งหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับวงการการตลาดไทย และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านการตลาดในระดับภูมิภาคและระดับโลก

5 กลยุทธ์เร่งเครื่อง SMEs ไทย สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

ในการเสวนา "5 มุมมองที่นักการตลาดและผู้ประกอบการต้องคิดต่อ" จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) คุณสุรศักดิ์ เหลืองอุษากุล อุปนายกฝ่าย Digital Marketing & Technology และ ศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล กรรมการอำนวยการ ได้นำเสนอแนวคิด "A-B-C-D-E 5 คันเร่งการตลาดสำหรับ SMEs" เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ไทย ให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจในยุคปัจจุบัน

  • A - Asia Market: ขยายฐานลูกค้าสู่ตลาดเอเชียที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะภูมิภาคอาเซียน จีน และอินเดีย ผ่านช่องทาง e-commerce และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและขยายฐานลูกค้า
  • B - Branding: พัฒนาแบรนด์ให้แข็งแกร่งและโดดเด่น เน้นการสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความภักดีและผลกำไรที่ยั่งยืนในระยะยาว
  • C - Collaboration: สร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากร ความรู้ และโอกาสทางธุรกิจ อันจะนำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายตลาด
  • D - Digital: ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกมิติของธุรกิจ ตั้งแต่การผลิต การตลาด การขาย และการบริการลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยใช้ประโยชน์จากความคล่องตัวของ SMEs ในการทดลองและปรับใช้นวัตกรรมใหม่ๆ
  • E - Equity: ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจด้วยความถูกต้อง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบต่อสังคม สร้างความน่าเชื่อถือและความยั่งยืนให้กับธุรกิจในระยะยาว

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทยเน้นย้ำว่า SMEs ไทยควรให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า แทนที่จะมุ่งเน้นการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน สำหรับแนวคิด "A-B-C-D-E 5 คันเร่งการตลาดสำหรับ SMEs" นี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยสามารถนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสร้างความยั่งยืนในระยะยาวได้อย่างมั่นคง

สรุปความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

5 ปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจไทย ครึ่งปีหลัง 2567 By MAT

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล ผ่านการประกาศทิศทางใหม่ "Marketing Accelerator" และ "5 โฟกัสหลัก" ที่เน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจไทยในทุกมิติ ทั้งการสร้างขวัญกำลังใจ การส่งเสริมธุรกิจสีเขียว การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI การพัฒนาศักยภาพ SMEs และการขยายตลาดสู่เอเชีย นอกจากนี้ยังมี 3 ประเด็นสำคัญสำหรับนักการตลาดไทย

  1. เพิ่มประสิทธิภาพทางการตลาดด้วยเทคโนโลยี: นักการตลาดยุคใหม่จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยนำเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการวางแผนและดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  2. เกาะติดสถานการณ์ตลาดเอเชีย: ตลาดเอเชียมีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพสูง นักการตลาดไทยจึงควรให้ความสำคัญกับการศึกษาและทำความเข้าใจตลาดเอเชียอย่างลึกซึ้ง เพื่อแสวงหาโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
  3. เปลี่ยนแปลง นวัตกรรม และพลิกโฉม (Change - Innovate - Transform): เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน นักการตลาดต้องกล้าที่จะปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการทำงาน มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ และพลิกโฉมธุรกิจให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

นอกจากนี้แนวคิด "5 คันเร่งการตลาดสำหรับ SMEs" (A-B-C-D-E) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ MAT มอบให้กับผู้ประกอบการ SMEs เพื่อนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว โดยเน้นการสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้กับลูกค้า การปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล ดังนั้นด้วยวิสัยทัศน์ ภารกิจ และกลยุทธ์ที่ชัดเจน MAT พร้อมที่จะเป็น "ผู้เร่งความเร็ว" ให้กับวงการการตลาดไทย และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT