จับตา EA แถลงข่าวด่วน หลังราคาหุ้นต่ำสุดในรอบ 10 ปี เกิดอะไรขึ้น?
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เตรียมเปิดแถลงข่าวด่วนในจันทร์ ที่ 1 ก.ค. 67เวลา 13.30 – 15.00 น.หลังจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (24-28มิ.ย.67) ราคาหุ้น EA ร่วงลงไปหนักกว่า 50%แล้ว เฉพาะวันศุกร์ที่ 28 ราคาหุ้น EA ลดลง 25.33% ปิดที่ 11.20 และระหว่างวันร่วงลงไปต่ำสุดที่ 10.50 บาท/หุ้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้น EA ดิ่งลงไปแล้วถึง 74.69% นับเป็นราคาหุ้นที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี และไม่เพียงแต่ราคาหุ้น EA เท่านั้น บริษัทลูกของ EA อย่าง NEX หรือบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ ก็ดิ่งตามด้วยเช่นกัน
คอนเทนต์แนะนำ
สำหรับการแถลงข่าวของผู้บริหารของ EA ในวันจันทร์นี้ มีการระบุว่า จะมีการชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบริษัทฯ ตลอดจนสถานการณ์และแผนธุรกิจของบริษัทฯ ในครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้พลังงานบริสุทธิ์ได้ชื่อว่าเป็นเทสล่าแห่งเมืองไทยเพราะเป็นบริษัทที่กระโดดเข้ามาลงทุนในธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรทั้งธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าทั้งรถ เรือ และ รถบัส รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า นอกเหนือไปจากธุรกิจพลังงานอย่างโรงไฟฟ้า และ ไบโอดีเซล ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิม
แต่ในช่วงที่ผ่านมา EA เผชิญกับหลายปัจจัยตั้งแต่พื้นฐานธุรกิจ ที่งบไตรมาส 1/2567 รายได้และกำไรปรับตัวลดลง รวมไปเกิดถึงกระแสข่าวทั้งการโดนบังคับขาย (Forced sell) และประเด็นความขัดแย้งในกลุ่มผู้ถือหุ้นด้วย ดังนั้นในช่วงบ่ายวันจันทร์ ที่ 1 ก.ค. น่าจะมีการชี้แจงในทุกประเด็นและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่ม EA ต่อไป
ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน2567 บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า การที่ราคาหุ้นปรับลดลงมาก บริษัทฯ ไม่มีพัฒนาการที่สำคัญทางธุรกิจใน ระยะเวลาอันใกล้ที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์แต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงเกิดจากปัจจัยภายนอกและสภาวะการณ์อื่นซึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฯ หากบริษัทฯ มีพัฒนาการที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจที่สำคัญใดๆ บริษัทฯ จะแจ้งให้นักลงทุนทราบ และปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป
สำหรับผลประกอบการของ EA ปี 2566 มีรายได้ 31,598 ล้านบาท กำไร 7,606 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 1 ปี 2567 มีรายได้ 5,881 ล้านบาท ลดลง 34% กำไร 888.70 ล้านบาท 61.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุมาจากผลกระทบจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1 แห่งสิ้นสุดระยะเวลาการรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล (Adder) รวมถึง ลดลงจากผลการดําเนินงานของธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ เนื่องจากส่งมอบรถน้อยลง จํานวน 313 ล้านบาท
อ้างอิง : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
