เมื่อเช้านี้ มีข่าวลือออกมาว่า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กำลังจะควบรวมกิจการกับ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
ล่าสุดเองทาง TTB ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารฯ ไม่ได้อยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการตามที่ปรากฏในสื่อ
แต่ถ้าสมมติว่าดีลนี้เกิดขึ้นจริง มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ? กับหุ้นกลุ่มธนาคารในบ้านเรา
เรื่องแรก กรุงไทย-ทีทีบี จะกลายเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์มากถึง 5,493 ล้านบาท มากสุดเป็นอันดับ 1 ในไทย
สินทรัพย์รวมของ 5 ธนาคารใหญ่สุดในไทยปัจจุบัน
- BBL 4,551 ล้านบาท
- KBANK 4,325 ล้านบาท
- KTB 3,744 ล้านบาท
- SCB 3,487 ล้านบาท
- TTB 1,749 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า หากการควบรวมเกิดขึ้นจริง กรุงไทย-ทีทีบี จะมีสินทรัพย์รวมกันมากกว่าทั้ง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เสียอีก
ส่วนธนาคารที่ใหญ่สุดในไทยตอนนี้ ถ้าเรียงตามมูลค่าบริษัทก็จะเป็น
- SCB อันดับ 1 มีมูลค่าบริษัท 419,000 ล้านบาท
- KBANK อันดับ 2 มีมูลค่าบริษัท 380,000 ล้านบาท
- KTB อันดับ 3 มีมูลค่าบริษัท 328,000 ล้านบาท
- BBL อันดับ 4 มีมูลค่าบริษัท 284,000 ล้านบาท
- TTB อันดับ 5 มีมูลค่าบริษัท 187,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า ถ้าดูตามมูลค่าบริษัท ขนาดของกิจการจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินทรัพย์รวมเสมอไป
เพราะการที่นักลงทุนจะให้มูลค่ากิจการมากหรือน้อย นั้นคืออยู่กับความสามารถในการทำกำไร โอกาสเติบโตของธุรกิจ รวมถึงความแข็งแกร่งของบริษัทด้วย
แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ดีลนี้จะช่วยลดการแข่งขันสำหรับผู้เล่นอันดับต้น ๆ ในอุตสาหกรรม และ สร้างความได้เปรียบในเรื่องของขนาดซึ่งจะช่วยลดต้นทุนของบริษัทในอนาคต
นอกจากนั้นการควบรวมกิจการยังถือเป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทอีกด้วย
ซึ่งความได้เปรียบตรงนี้ ก็ทำให้เช้านี้ ราคาหุ้นของ KTB ปรับตัวขึ้นมา+0.9% ส่วนราคาหุ้นของ TTB ก็ปรับตัวขึ้นมา +1.6%