ธุรกิจการตลาด

SINGER ผนึกกำลัง SGC ลุยสินเชื่อเต็มสูบ ขยายเครือข่ายด้วย SG Finance+

4 ส.ค. 67
SINGER ผนึกกำลัง SGC ลุยสินเชื่อเต็มสูบ ขยายเครือข่ายด้วย SG Finance+

ซิงเกอร์ (SINGER) ผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทย ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยวิสัยทัศน์ "Financial Services Network Tech" ผนึกกำลังกับ เอสจี แคปปิตอล (SGC) เดินหน้ารุกตลาดสินเชื่อเต็มสูบ พร้อมขยายเครือข่ายพันธมิตรผ่านบริการ SG Finance+ มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านบริการทางการเงินครบวงจร ด้วยการผสานจุดแข็งด้านเครือข่ายการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล

SINGER ผนึกกำลัง SGC ลุยสินเชื่อเต็มสูบ ขยายเครือข่ายด้วย SG Finance+

SINGER ผนึกกำลัง SGC ลุยสินเชื่อเต็มสูบ ขยายเครือข่ายด้วย SG Finance+

SINGER ได้ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ "Financial Services Network Tech" ในงาน "SINGER & SGC Business Transformation & Direction Moving Forward" โดยมุ่งเน้นการสร้าง "New Business - New Growth Engine" เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกที่มีเครือข่ายการขายครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมต่อยอดการให้บริการทางการเงินและนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจ

ด้วยจุดยืนใหม่ "เน็ตเวอร์คเทค" SINGER เปิดตัว 3 Core Business ใหม่ เพื่อเสริมสร้างการเติบโต ประกอบด้วยธุรกิจล็อกโทรศัพท์มือถือ ล็อกเครื่องใช้ไฟฟ้า และการขยายพอร์ตการจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามัลติแบรนด์และรถจักรยานยนต์ EV นอกจากนี้ SINGER ยังได้ปรับกลยุทธ์การตลาดให้ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายยุคดิจิทัล และบริหารความเสี่ยง NPL อย่างมีประสิทธิภาพ

SGC จะเป็นพันธมิตรหลักในการให้บริการทางการเงินผ่านสินเชื่อ SG Finance+ โดยเฉพาะสินเชื่อ Locked Phone ที่มีผลการดำเนินงานที่น่าพึงพอใจและทะลุเป้าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ SGC ยังเสริมทัพบริการใหม่ด้วยประกันภัยมือถือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร

 SINGER พลิกโฉมธุรกิจสู่ "Financial Services Network Tech" พร้อมรุกตลาดสินเชื่อและขยายเครือข่าย

ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ "Financial Services Network Tech" พร้อมแผนยกระดับธุรกิจครั้งสำคัญ นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINGER กล่าวถึงกลยุทธ์หลัก 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และการขยายเครือข่ายพันธมิตร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญคือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แคมเปญ "Locked Phone" โดยร่วมมือกับบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC นำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อ "เอสจี ไฟแนนซ์พลัส (SG Finance+)" สำหรับการซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีและมียอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ SINGER ยังขยายพอร์ตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยการร่วมมือกับแบรนด์ชั้นนำอย่าง SAMSUNG, TCL, และ ACONATIC เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และเตรียมนำแคมเปญ "ล็อกสินค้า" มาใช้กับทีวีและเครื่องซักผ้าเพื่อบริหารความเสี่ยง นอกจากนี้ SINGER ยังรุกตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อตอบรับกระแสความต้องการพลังงานสะอาดและนโยบายภาครัฐ

ในด้านเทคโนโลยี SINGER นำแพลตฟอร์มดิจิทัลมาใช้ในการให้บริการสินเชื่อ SG Finance+ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการอนุมัติสินเชื่อ ลดการใช้กระดาษ และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาช่วยในการยืนยันตัวตนและประเมินความเสี่ยงของลูกค้า นอกจากนี้ SINGER ยังพัฒนาระบบแคตตาล็อกอิเล็กทรอนิกส์ (E-Catalog) เพื่อให้พนักงานขายและตัวแทนจำหน่ายสามารถนำเสนอสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

SINGER ยังคงมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายพันธมิตร โดยร่วมมือกับ Influencer และครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ และล่าสุดได้ร่วมมือกับ "ร้านเติมใจ" นำเครื่องใช้ไฟฟ้าไปจัดจำหน่ายใน 30 สาขาทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายในการขยายเครือข่ายตัวแทนขายจาก 1,100 รายในช่วงครึ่งปีแรกเป็น 2,000 รายภายในสิ้นปีนี้ โดยเน้นกลุ่มดีลเลอร์ของ SG Finance+ ที่สนใจขยายไลน์สินค้า ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่และกลยุทธ์ที่แข็งแกร่ง SINGER มุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกยุคดิจิทัล พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

SINGER มุ่งสู่ "เน็ตเวอร์คเทค" ยกระดับบริการทางการเงินด้วย SG Finance+

SINGER ประกาศปรับวิสัยทัศน์องค์กรสู่ "Financial Services Network Tech" โดยผสานจุดแข็งด้านเครือข่ายการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศเข้ากับนวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINGER กล่าวถึงวิสัยทัศน์ใหม่นี้ว่า "SINGER ไม่ได้เป็นเพียงผู้จำหน่ายสินค้าโดยตรง (Direct Sale) อีกต่อไป แต่เรากำลังก้าวสู่การเป็น 'เน็ตเวอร์คเทค' ที่ผสานเครือข่ายการขายที่แข็งแกร่งเข้ากับบริการทางการเงินที่ครบวงจร และขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้อย่างสะดวกและปลอดภัย"

นายอโณทัย ศรีเตียเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ SGC กล่าวเสริมว่า ผลิตภัณฑ์สินเชื่อโทรศัพท์มือถือ SG Finance+ ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มบริษัท โดยในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา มียอดปล่อยสินเชื่อ Locked Phone สูงถึง 33,000 สัญญา ซึ่งเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 30,000 สัญญา และมียอดสินเชื่อสะสมรวมกว่า 60,000 สัญญาในช่วง 7 เดือนแรกของปี บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายยอดปล่อยสินเชื่อ 100,000 สัญญาต่อเดือนภายในสิ้นปีนี้ และมียอดสินเชื่อ SG Finance+ ภายใต้สัญญาทั้งหมด 300,000 สัญญา

SGC ยังคงมุ่งมั่นในการขยายความร่วมมือกับร้านค้าพันธมิตรชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะมีร้านค้าพันธมิตรรวมกว่า 5,000 แห่งภายในสิ้นปี 2567 นอกจากนี้ SGC ยังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

โดยพิจารณาวงเงินกู้ตามความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้า เพื่อควบคุมคุณภาพหนี้เสีย (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำ พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชั่น SG Finance+ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการตรวจสอบยอดและชำระเงิน รวมถึงเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ด้านประกันภัยโทรศัพท์มือถือและประกันสุขภาพในอนาคต

บทวิเคราะห์ SINGER SGC เพิ่มทุนเพื่อ Turnaround โดย Krungsri

มุมมองของเราต่อ SINGER ยังคงเป็นกลาง สอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ก่อนหน้านี้ แม้จะมีการเพิ่มทุนใน SGC ซึ่งเป็นบริษัทลูก จุดที่น่าจับตาคือผลิตภัณฑ์สินเชื่อ SG Finance+ (Locked phone) ซึ่งเราเชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตสูง เนื่องจาก SGC สามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและทรัพยากรที่มีอยู่ของกลุ่มบริษัท หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ผลิตภัณฑ์นี้อาจกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของบริษัท

SGC มุ่งพลิกสถานการณ์ด้วยการเพิ่มทุน

แผนปรับโครงสร้างทางการเงิน SINGER และ SGC: ในปี 2567-2568 SGC ซึ่ง SINGER ถือหุ้น 74.9% มีภาระหนี้สินที่จะต้องชำระคืนแก่ SINGER จำนวน 1 หมื่นล้านบาท (2.3 พันล้านบาท และ 7.7 พันล้านบาท ตามลำดับ) เนื่องจาก SGC ไม่สามารถชำระคืนได้ทั้งหมด จึงตัดสินใจเพิ่มทุนเพื่อนำเงิน 4 พันล้านบาทไปชำระหนี้บางส่วน ส่วนที่เหลืออีก 6.1 พันล้านบาท SINGER จะขยายวงเงินสินเชื่อให้ SGC สามารถ Rollover ได้ (กำหนดชำระคืนปี 2571) โดย SINGER จะใช้เงินสดที่มีอยู่ราว 2.7 พันล้านบาท และกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มทุนในครั้งนี้ การปรับโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ของ SGC จาก 3.4 เท่า เหลือ 1.x เท่า และ SINGER จะสามารถชำระคืนหุ้นกู้ของตนเองมูลค่า 3.7 พันล้านบาทได้ด้วยเงิน 4 พันล้านบาทที่ได้รับคืนจาก SGC ทั้งนี้ หากไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดเข้าร่วมการเพิ่มทุน SINGER และเครือ JMART ซึ่งถือหุ้นรวมกันราว 80% ยืนยันว่าจะเข้าร่วมอย่างแน่นอน

ความคืบหน้า SG Finance+ (Locked phone): หลังจากเพิ่มทุน SGC จะมุ่งเน้นไปที่การขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อโทรศัพท์มือถือ เพื่อทดแทนพอร์ตสินเชื่อเดิมที่มีขนาด 1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 83% เป็นสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ (C4C) และ 7% เป็นสินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้า เป้าหมายในปี 2567-2568 คือรักษาขนาดพอร์ตสินเชื่อรวมไว้ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท แต่จะลดสัดส่วนสินเชื่อ C4C ลง 2-3 พันล้านบาท และเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อมือถือที่มีอัตราผลตอบแทน (Yield) สูงถึง 28% ซึ่งสูงกว่า C4C ที่มี Yield 14%

พอร์ตสินเชื่อมือถือ จะเป็นรูปแบบการล็อกโทรศัพท์มือถือหากผู้กู้ไม่ชำระค่างวด ซึ่งมี Yield (EIR) สูงกว่า 28% และมีมาตรการควบคุมความเสี่ยง เช่น การตรวจสอบเครดิตบูโร กำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ 20% และระยะเวลาผ่อนชำระ 1-2 ปี โดยตั้งเป้าหมาย NPL ไว้ที่ 3-5% ในช่วงเริ่มต้น ผลตอบรับของสินเชื่อมือถือเป็นไปได้ด้วยดี โดยมียอดปล่อยสินเชื่อ 3.2 พันเครื่อง 8.2 พันเครื่อง และ 18.0 พันเครื่อง ในเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน ตามลำดับ ปัจจุบันมี 4 แบรนด์โทรศัพท์มือถือที่เข้าร่วม (Xiaomi, Oppo, Vivo, Realme) และมีร้านค้าเข้าร่วม 2,900 ร้าน บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อ 1 แสนเครื่อง และมีร้านค้าเข้าร่วม 5,000 ร้านภายในเดือนธันวาคม โดยปัจจุบันมีอัตราการอนุมัติสินเชื่อ (Approved rate) ประมาณ 30-40% NPL เพียง 1 บัญชี และอัตราการล็อกโทรศัพท์อยู่ที่ 13-14% นอกจากนี้ SINGER เตรียมเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในเดือนสิงหาคม

ความเห็นและคำแนะนำ

ภายหลังการประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงมีความเห็นเป็นกลางต่อ SINGER เนื่องจากข้อมูลที่ได้รับสอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์การเพิ่มทุนก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ SG Finance+ (Locked phone) เป็นที่น่าจับตา เนื่องจาก SGC มีข้อได้เปรียบจากเทคโนโลยี ฐานข้อมูล และประสบการณ์ในการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้ของกลุ่มบริษัท หากโครงการนี้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตที่สำคัญของบริษัท

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโครงการ SG Finance+ เพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์โดยรวม จึงแนะนำให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์และประเมินคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อในไตรมาส 3 ปี 2567 เพื่อประเมินศักยภาพที่แท้จริงของโครงการนี้อีกครั้ง

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT