ธุรกิจการตลาด

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

18 ส.ค. 67
อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือดดุจสมรภูมิรบ การต่อสู้เพื่อช่วงชิงความเป็นหนึ่งในตลาดกาแฟก็ไม่ต่างกัน เมื่อ 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการน้ำมัน OR , BCP และ PTG เปิดศึกชิงความเป็นหนึ่งในตลาดกาแฟด้วยแบรนด์ดังอย่าง "คาเฟ่ อเมซอน", "ร้านกาแฟอินทนิล" และ "ร้านกาแฟพันธุ์ไทย" การเปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 ยิ่งทำให้เห็นภาพการขับเคี่ยวของทั้ง 3 ค่ายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ใครจะเป็นผู้ชนะในศึกครั้งนี้?

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

OR BCP และ PTG 3 บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของไทย เพิ่งเปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 ซึ่งพบว่า OR รายได้ขาย-บริการร่วง 6.1% เหลือ 3.6 แสนล้านบาท แต่กำไรสุทธิสวนกระแสโต 9.2% แตะ 6.2 พันล้านบาท ฟาก BCP ฟอร์มแจ่ม รายได้ขาย-บริการพุ่ง 98% ทะลุ 2.9 แสนล้านบาท กำไรสุทธิก็แรงไม่แพ้กัน เพิ่มขึ้น 33% เป็น 4.2 พันล้านบาท ด้าน PTG ก็ไม่น้อยหน้า รายได้ขาย-บริการขยับขึ้น 10.8% สู่ 1.1 แสนล้านบาท กำไรสุทธิกระฉูด 82.9% ไปแตะ 732 ล้านบาท แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่า คือ การแข่งขันในตลาดกาแฟระหว่าง อเมซอน, อินทนิล และ พันธุ์ไทย ใครจะโดดเด่นกว่ากัน? เรามาพิจารณาข้อมูลเชิงลึกกัน

คาเฟ่ อเมซอน: ผู้นำตลาดที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

  • สาขา: คาเฟ่ อเมซอน มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 4,277 สาขา แบ่งเป็นสาขาในสถานีบริการน้ำมัน 2,261 สาขา และสาขานอกสถานีบริการ 1,989 สาขา นอกจากนี้ยังมีสาขาในต่างประเทศอีก 27 สาขา
  • ปริมาณการขาย: บริษัทมียอดขายในไตรมาส 2/67 รวม 102 ล้านแก้ว เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนถึงผลสำเร็จจากการขยายเครือข่ายสาขาและกิจกรรมส่งเสริมการขาย

ร้านกาแฟ อินทนิล

  • สาขา: ร้านกาแฟ อินทนิล มีจำนวนสาขาอยู่ที่ 1,005 สาขา
  • ผลประกอบการทางการเงิน: บริษัทฯ ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลยอดขายของร้านกาแฟ อินทนิล 
  • ในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าผ่านการขยายสาขา เพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ ตลอดจนเพิ่มจำนวนร้านค้าสะดวกซื้อและร้านค้าพันธมิตรในสถานีบริการน้ำมันบางจาก

ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ผู้ท้าชิงที่เติบโตอย่างรวดเร็ว

  • จำนวนสาขา: ปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,028 สาขา
  • ยอดขาย : สร้างรายได้ 517 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการกลับมาใช้บริการของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ถือบัตรสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus

สรุปภาพรวมการแข่งขันในตลาดกาแฟ 3 เจ้าใหญ่ในไทย

ตลาดกาแฟไทยครึ่งปีแรก 2567 ยังคงเป็นสมรภูมิที่ร้อนระอุ โดยมี 3 แบรนด์ดังจาก 3 ยักษ์ใหญ่ปั๊มน้ำมัน OR, BCP และ PTG เป็นตัวชูโรง ผลประกอบการที่เปิดเผยออกมาเผยให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและการแข่งขันที่ดุเดือด

คาเฟ่ อเมซอน (OR) เจ้าตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

  • ยังคงรักษาสถานะผู้นำตลาดด้วยจำนวนสาขาที่มากกว่า และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเพียง 3% แต่ก็ยังคงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่ง และด้วยจำนวนสาขาที่มากกว่า ทำให้อเมซอนยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่กว่า จึงทำให้การเติบโตของรายได้ที่ 3% ถือว่าเป็นการเติบโตที่มั่นคง สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และฐานลูกค้าที่ภักดี นอกจากนี้ทาง OR ยังมีรายได้ขายและบริการ สำหรับธุรกิจค้าปลีกและเครื่องดื่ม อยู่ที่ 7,893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% YOY ตามขยายสาขาที่เพิ่มขึ้น

ร้านกาแฟพันธุ์ไทย (PTG): ดาวรุ่งพุ่งแรงแซงทุกโค้ง

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

  • ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ถือเป็นผู้เล่นที่น่าจับตามองที่สุดในขณะนี้ ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 73.7% แตะ 967 ล้านบาท การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและการเชื่อมโยงสิทธิประโยชน์กับบัตรสมาชิก PT Max Card เป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ที่เน้นความเป็นไทยและการนำเสนอเมนูที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว ทำให้ร้านกาแฟพันธุ์ไทยมีศักยภาพในการเติบโตและท้าทายตำแหน่งผู้นำตลาดในอนาคต

ร้านกาแฟอินทนิล (BCP) ม้ามืดที่พร้อมพลิกเกม

อเมซอน-อินทนิล-พันธุ์ไทย สงครามกาแฟ ใครคือเจ้าตลาดในครึ่งปีแรก 2567

  • แม้จะไม่ได้เปิดเผยตัวเลขรายได้ ถึงแม้จะมีการลดสาขาลง แต่ BCP กำลังไปมุ่งเน้นที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของร้านกาแฟอินทนิลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแข่งขัน การสร้างจุดยืนที่ชัดเจนด้วยการเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการใช้แก้วไบโอพลาสติกที่ย่อยสลายได้ “100% made from plants” หรือหมายถึง “ผลิตจากพืช 100%” เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมได้ อย่างไรก็ตาม อินทนิลยังต้องเร่งสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างเต็มที่

อนาคตตลาดกาแฟไทย ยังมีอะไรให้ลุ้นอีกมาก

ตลาดกาแฟไทยยังคงมีพลวัตและน่าจับตามอง การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง 3 แบรนด์ดังนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้ ปัจจัยภายนอก เช่น สภาวะเศรษฐกิจและโรคระบาด ก็อาจส่งผลกระทบต่อตลาดกาแฟได้เช่นกัน

จากการวิเคราะห์ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2567 เห็นได้ชัดว่าสงครามกาแฟระหว่าง "อเมซอน" "อินทนิล" และ "พันธุ์ไทย" กำลังร้อนระอุ อเมซอนยังคงยึดบัลลังก์ผู้นำด้วยเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น ขณะที่พันธุ์ไทยก็ไม่น้อยหน้าด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด ส่วน อินทนิล ม้ามืดที่อาจพลิกเกมด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เฉียบคม

การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ที่จะมีตัวเลือกกาแฟอร่อย ๆ เพิ่มขึ้น แถมยังได้ลุ้นโปรโมชั่นเด็ด ๆ จากทั้งสองค่ายอีกด้วย อนาคตของตลาดกาแฟไทยจึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ศึกแห่งรสชาติครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? คงต้องติดตามกันต่อไป!

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT