ธุรกิจการตลาด

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

5 ก.ย. 67
นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

นิวซีแลนด์กำลังเดินหน้าผลักดันการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวหลังจากเผชิญวิกฤตโควิด-19 ด้วยการประกาศขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวต่างชาติ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพการบริการ แม้จะยังมีเสียงคัดค้านจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่กังวลว่าอาจเป็นการผลักไสให้นักท่องเที่ยวหนีหายไป มาติดตามรายละเอียดกันว่ามาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์อย่างไร

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ค่าธรรมเนียม International Visitor Conservation and Tourism Levy จะเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า จาก 35 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ เป็น 100 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป

ทางการชี้แจงว่า การปรับขึ้นภาษีครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและ "สร้างความมั่นใจว่านักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในการสนับสนุนบริการสาธารณะและได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในระหว่างการเยือนนิวซีแลนด์" อย่างไรก็ตาม Tourism Industry Aotearoa ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่เป็นตัวแทนของภาคการท่องเที่ยวมองว่า ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นอาจเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว และทำให้ "การเดินทางมาท่องเที่ยวนิวซีแลนด์มีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป"

นิวซีแลนด์เป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมเมารีและทิวทัศน์อันงดงาม ทั้งธารน้ำแข็ง ภูเขา ภูเขาไฟ และทะเลสาบ อย่างไรก็ตาม ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ค่าโดยสารเครื่องบินระยะไกลจึงเป็นอุปสรรคต่อนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว "การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ยังคงล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ และการปรับขึ้นภาษีครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของเราในตลาดโลก" รีเบคกา อิงแกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tourism Industry Aotearoa กล่าว

รัฐบาลนิวซีแลนด์เริ่มเก็บภาษีนักท่องเที่ยวครั้งแรกในปี 2019 เพื่อรับมือกับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วต่อโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งแวดล้อม และชุมชน ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 นิวซีแลนด์ได้ปิดพรมแดนเป็นระยะเวลากว่าสองปีครึ่ง และเพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้อีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2022

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว หวังฟื้นฟูการท่องเที่ยวหลังโควิด ท่ามกลางเสียงคัดค้าน

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

นิวซีแลนด์กำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวให้กลับสู่ระดับก่อนการระบาดใหญ่ โดยในปี 2023 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไม่ถึง 3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงสามในสี่ของจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19

รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยว แมตต์ ดูซีย์ ได้แสดงความเห็นว่าการจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว เนื่องจากค่าธรรมเนียม 100 ดอลลาร์นิวซีแลนด์คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 3% ของค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ในประเทศ นอกจากนี้ เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่านิวซีแลนด์จะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ เช่น ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร

อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากออสเตรเลียและประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระภาษีดังกล่าว ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เดินทางมายังนิวซีแลนด์มาจากออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา จีน และฟิจิ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวบางรายอาจต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ตุลาคมเช่นกัน

ทั้งนี้ นิวซีแลนด์ไม่ใช่ประเทศเดียวที่ดำเนินการจัดเก็บภาษีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประเทศอื่นๆ ที่มีการจัดเก็บภาษีในลักษณะเดียวกันนี้ ได้แก่ อินโดนีเซีย สเปน ฝรั่งเศส ออสเตรีย โครเอเชีย คอสตาริกา ไอซ์แลนด์ และอิตาลี โดยส่วนใหญ่แล้ว ภาษีจะถูกรวมอยู่ในค่าที่พัก ค่าวีซ่า หรือค่าตั๋วเครื่องบิน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา เมืองเวนิสได้เริ่มโครงการนำร่องในการจัดเก็บภาษี 5 ยูโรจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับในช่วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เพื่อบริหารจัดการผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่เกินขีดความสามารถในการรองรับ

บทวิเคราะห์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับนิวซีแลนด์จากการขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว

นิวซีแลนด์ขึ้นภาษีนักท่องเที่ยว 3 เท่า ผู้ประกอบหวั่นกระทบท่องเที่ยว

สำหรับการตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ แม้จะมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและพัฒนาการท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ แต่ก็อาจนำมาซึ่งผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบต่อประเทศ

ผลกระทบเชิงบวก

  • รายได้รัฐเพิ่มขึ้น: การจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล ซึ่งสามารถนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวก และบริการสาธารณะต่างๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและประชาชนในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถนำเงินไปลงทุนในโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่นิวซีแลนด์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวคุณภาพ: การขึ้นภาษีอาจช่วยลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงและมีความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่นได้ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของนิวซีแลนด์ในฐานะจุดหมายปลายทางที่เน้นคุณภาพและความยั่งยืน

ผลกระทบเชิงลบ

  • จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง: การปรับขึ้นภาษีอาจทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีงบประมาณจำกัด ตัดสินใจเลือกเดินทางไปยังประเทศอื่นที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่นิวซีแลนด์กำลังพยายามฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวหลังจากการระบาดของโควิด-19
  • การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวล่าช้า: อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากผลกระทบของโควิด-19 การขึ้นภาษีอาจเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว และทำให้ประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ต้องปิดตัวลง และส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาคส่วนนี้
  • ภาพลักษณ์ประเทศ: การขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนิวซีแลนด์ในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการสื่อสารที่ไม่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และการนำรายได้จากภาษีไปใช้อย่างไร นักท่องเที่ยวอาจมองว่านิวซีแลนด์ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูง

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อระดับของผลกระทบ

  • สถานการณ์เศรษฐกิจโลก: หากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว นักท่องเที่ยวอาจมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้นักท่องเที่ยวลดจำนวนลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • การฟื้นตัวของตลาดท่องเที่ยว: หากตลาดท่องเที่ยวโลกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว นิวซีแลนด์อาจยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ แม้จะมีการขึ้นภาษี เนื่องจากนักท่องเที่ยวอาจมีความต้องการเดินทางที่อั้นไว้หลังจากช่วงโควิด-19
  • ประสิทธิภาพในการสื่อสาร: การสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการขึ้นภาษีและการนำรายได้ไปใช้อย่างไร จะช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศได้ และทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงความจำเป็นของมาตรการนี้

สรุป การขึ้นภาษีนักท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์เป็นการตัดสินใจที่ท้าทายและมีความเสี่ยง ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งในด้านบวกและลบต่อประเทศ รัฐบาลจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์และมาตรการต่างๆ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากนี้ การสื่อสารที่ชัดเจนและโปร่งใสเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการขึ้นภาษีและการนำรายได้ไปใช้อย่างไร จะช่วยสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยว และช่วยให้นิวซีแลนด์สามารถบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนได้ในที่สุด

 ที่มา BCC

advertisement

SPOTLIGHT