ธุรกิจการตลาด

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

18 ก.ย. 67
โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

โอ้กะจู๋ (OKJ) เตรียมเสิร์ฟความสดใหม่สู่ตลาดหุ้น! ประกาศราคา IPO ที่ 6.70 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดให้จองซื้อ 23-25 กันยายนนี้ มุ่งระดมทุนกว่าพันล้านบาทเพื่อต่อยอดธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพให้เติบโตยิ่งขึ้น ใครสนใจลงทุนในแบรนด์ผักผลไม้ออร์แกนิกชื่อดัง เตรียมตัวให้พร้อม!

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ โอ้กะจู๋ (OKJ) ได้ประกาศราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 6.70 บาทต่อหุ้น โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) อยู่ที่ประมาณ 24.13 เท่า นักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 23-25 กันยายน 2567 นี้

บริษัทฯ คาดว่าจะระดมทุนได้ประมาณ 1,023.90 ล้านบาทจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ โดยเงินทุนที่ได้จะนำไปใช้เพื่อการขยายธุรกิจ ก่อสร้างครัวกลาง และชำระคืนเงินกู้ยืมบางส่วน สำหรับ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของโอ้กะจู๋ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO เป็นไปตามผลการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) จากนักลงทุนสถาบัน

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท ต่อหุ้น 

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

บริษัทได้ร่วมมือกับผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายเพื่อกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญที่ 6.70 บาทต่อหุ้น โดยคำนึงถึงราคาและปริมาณหุ้นที่นักลงทุนสถาบันแสดงความสนใจซื้อ ราคาที่กำหนดนี้จะช่วยให้บริษัทระดมทุนได้ตามเป้าหมาย และยังมีปริมาณหุ้นที่นักลงทุนต้องการซื้อเหลืออยู่เพียงพอ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าราคาหุ้นจะทรงตัวได้ดีในตลาดรองหลังการเสนอขาย

การเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้ที่ราคา 6.70 บาทต่อหุ้น เมื่อพิจารณาจากกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 ก.ค. 66 - 30 มิ.ย. 67) ซึ่งอยู่ที่ 169.08 ล้านบาท และหารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลังการเสนอขาย (Fully Diluted) ที่ 609 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.28 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้มีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) ประมาณ 24.13 เท่า

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปรียบเทียบข้อมูลทางการเงินกับบริษัทจดทะเบียนอื่น ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีลักษณะธุรกิจคล้ายคลึงกัน เพื่อประกอบการประเมินราคาเสนอขายหุ้น โดยบริษัทที่นำมาเปรียบเทียบ ได้แก่ บมจ.อาฟเตอร์ ยู (AU) ซึ่งมี P/E ที่ 30.5 เท่า และ บมจ.มากุโระ (MAGURO) ซึ่งมี P/E ที่ 31.0 เท่า

"โอ้กะจู๋' เตรียมระดมทุนกว่าพันล้านบาท ขยายสาขา-ลุยธุรกิจใหม่"

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

บริษัทคาดการณ์ว่าจะได้รับเงินทุนสุทธิจากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ประมาณ 1,023.90 ล้านบาท โดยเงินทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังนี้

  • ขยายและพัฒนาธุรกิจ: บริษัทมีแผนที่จะใช้เงินทุนส่วนหนึ่งเพื่อขยายสาขาของร้านอาหารในเครือ เช่น โอ้กะจู๋, Ohkajhu Wrap & Roll, และ Oh! Juice รวมถึงการเปิดสาขาสำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ใหม่ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะปรับปรุงสาขาเดิม และขยายช่องทางการจำหน่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงลูกค้า
  • ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: บริษัทจะลงทุนในการสร้างครัวกลางแห่งใหม่ พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องจักร อุปกรณ์ ห้องล้างผัก และเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหารจัดการวัตถุดิบและสินค้าคงเหลือ ระบบการขนส่ง และการดำเนินงานของสำนักงาน
  • พัฒนาการเกษตร: เงินทุนส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุนและพัฒนาเครื่องจักร อุปกรณ์ และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูก รวมถึงการสร้างห้องปฏิบัติการภายใน (In-house Lab) เพื่อตรวจสอบคุณภาพผลผลิต
  • ปรับโครงสร้างทางการเงิน: บริษัทจะใช้เงินทุนบางส่วนเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยและเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับบริษัท

"โอ้กะจู๋" ไม่หยุดขยายอาณาจักร จากสลัดสู่ QSR และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

โอ้กะจู๋ เคาะราคา IPO ที่ 6.70 บาท/หุ้น เปิดจองซื้อ 23-25 ก.ย. นี้

บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจให้บริการและจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ภายใต้แนวคิด "Be Organic from Farm to Table" โดยมุ่งเน้นการนำเสนออาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตจากวัตถุดิบอินทรีย์คุณภาพ เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค บริษัทฯ มีการดำเนินธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่

  1. ธุรกิจบริการและจำหน่ายอาหาร ภายใต้แบรนด์ “โอ้กะจู๋”: ให้บริการอาหารหลากหลายประเภท อาทิ สลัด สเต๊ก ซุป สปาเกตตี อาหารจานเดียว ขนมหวาน น้ำ ผักผลไม้ เบเกอรี่ และขนมขบเคี้ยว นอกจากนี้ ยังมีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โอ้กะจู๋ เช่น ผัก ผลไม้สด และแซนด์วิชแรป ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงการให้บริการจัดเลี้ยง
  2. ธุรกิจร้านอาหารประเภทจานด่วน (QSR) ภายใต้แบรนด์ “Ohkajhu Wrap & Roll”: มุ่งเน้นการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประเภทสลัด แรปสลัด แซนด์วิช และเมนูสุขภาพพร้อมรับประทาน (Grab & Go)
  3. ธุรกิจร้านน้ำ ผักผลไม้เพื่อสุขภาพ ภายใต้แบรนด์ “Oh! Juice”: พัฒนาและต่อยอดเมนูน้ำ ผักและผลไม้จากร้านโอ้กะจู๋ โดยเน้นสูตรที่ส่งเสริมสุขภาพ และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยสารอาหารต่างๆ

บริษัทฯ มุ่งมั่นในการส่งมอบอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกวัตถุดิบอินทรีย์ จนถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่พร้อมสู่มือผู้บริโภค

สรุป

โอ้กะจู๋ (OKJ) เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในราคา 6.70 บาทต่อหุ้น โดยเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 23-25 กันยายนนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะระดมทุนได้มากกว่าหนึ่งพันล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจร้านอาหาร พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการผลิตและเทคโนโลยี รวมถึงปรับโครงสร้างทางการเงิน

การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับโอ้กะจู๋ ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและขยายการเติบโตในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพ เงินทุนที่ได้จากการระดมทุนจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถขยายสาขา เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักลงทุนที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของโอ้กะจู๋ โปรดติดตามข่าวสารและศึกษาข้อมูลการเสนอขายหุ้น IPO อย่างรอบคอบ

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT