ธุรกิจการตลาด

Netflix โกยยอดสมาชิกใหม่ทะลุเป้า! แพ็กเกจแบบมีโฆษณา ได้รับความนิยมพุ่ง

21 ต.ค. 67
Netflix โกยยอดสมาชิกใหม่ทะลุเป้า! แพ็กเกจแบบมีโฆษณา ได้รับความนิยมพุ่ง

Netflix  ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการดำเนินธุรกิจ ด้วยยอดสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3 ที่เพิ่มขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย โดยแพ็กเกจแบบมีโฆษณา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค

บทความนี้ SPOTLIGHT จะนำเสนอรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยแห่งความสำเร็จ กลยุทธ์ทางธุรกิจ และความท้าทายที่ Netflix กำลังเผชิญ เพื่อรักษาสถานะผู้นำในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง ซึ่งมีการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Netflix โกยยอดสมาชิกใหม่ทะลุเป้า! แพ็กเกจแบบมีโฆษณาได้รับความนิยมพุ่ง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากลอสแอนเจลิส ว่า  Netflix แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ ประกาศยอดสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3  เหนือความคาดหมายด้วยยอดสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านราย ส่งสัญญาณเชิงบวกต่อการเติบโตของธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพ็กเกจแบบมีโฆษณาที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567  ว่า  Netflix ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายใหญ่ของโลกประกาศยอดสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3  เพิ่มขึ้น 5.1 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้กว่า 1 ล้านราย สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินกลยุทธ์และการขยายฐานสมาชิก  โดย Netflix คาดการณ์ว่า จำนวนสมาชิกจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลวันหยุด  และสอดคล้องกับการกลับมาของซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างสูง "Squid Game"

ราคาหุ้นของ Netflix ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.8% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ หลังจากการประกาศผลประกอบการ โดยนับตั้งแต่ต้นปี  ราคาหุ้นของ Netflix ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 47% อย่างไรก็ตาม Netflix กำลังดำเนินการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์  โดยมุ่งเน้นการเติบโตของรายได้และอัตรากำไร  มากกว่าการเพิ่มจำนวนสมาชิก  โดยในปี 2568 Netflix จะยุติการรายงานข้อมูลจำนวนสมาชิก และหันไปให้ความสำคัญกับการเติบโตของแพ็กเกจแบบมีโฆษณาแทน

โดย Netflix  เปิดเผยว่า  แพ็กเกจแบบมีโฆษณา  คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50%  ของสมาชิกใหม่ในไตรมาสที่ 3  ในประเทศที่ให้บริการแพ็กเกจดังกล่าว  ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า  Netflix  จะมีสมาชิกใหม่ประมาณ 4 ล้านราย  ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน สำหรับคอนเทนต์ใหม่ที่ Netflix  เปิดตัวในไตรมาสที่ 3  ประกอบด้วย  ซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน  "The Perfect Couple"  และภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้  "Nobody Wants This"  ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดผู้ชม  และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจในระยะยาว

Netflix มีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาสที่ 3 

รายงานผลประกอบการของ Netflix  ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567  เผยให้เห็นว่า  บริษัทมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 5.40 ดอลลาร์  สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.12 ดอลลาร์  ส่วนอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 30%  เพิ่มขึ้นจาก 22% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน  ขณะที่รายได้รวมNetflix  ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2567  ด้วยกำไรและรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์  แต่เผชิญกับความท้าทายจากอัตราการเติบโตของสมาชิกใหม่ที่ชะลอตัวลง  โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา

ผลประกอบการของ Netflix  ในไตรมาสที่ 3  บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งทางการเงิน  ด้วยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 5.40 ดอลลาร์  สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.12 ดอลลาร์  ขณะที่อัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 30%  เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 22% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน  ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 9.825 พันล้านดอลลาร์  สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 9.769 พันล้านดอลลาร์

"ในภาพรวม  Netflix  มีแนวโน้มเชิงบวกในหลายด้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการดำเนินงานทางการเงิน  ที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ  และการควบคุมต้นทุน"  Mike Proulx  นักวิเคราะห์จาก Forrester  กล่าว อย่างไรก็ตาม  ประเด็นที่ต้องจับตามองคือ  อัตราการเติบโตของสมาชิกใหม่ที่ลดลง  แม้จำนวนสมาชิกใหม่ในไตรมาสนี้จะสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้  แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน  ซึ่งอยู่ที่ 8.76 ล้านราย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา  ซึ่งเป็นตลาดหลัก  เริ่มส่งสัญญาณถึงภาวะอิ่มตัว

"การลดลงอย่างมากของจำนวนสมาชิกใหม่  เป็นประเด็นที่น่ากังวล  แม้ว่า  Netflix  ยังมีศักยภาพในการขยายฐานสมาชิกในตลาดต่างประเทศ  แต่ในสหรัฐอเมริกา  การเติบโตของจำนวนสมาชิกอาจถึงขีดจำกัดแล้ว"  Proulx  กล่าวเสริม

Netflix  คาดการณ์ว่า จำนวนสมาชิกใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี  ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลจับจ่ายใช้สอย  จะสูงกว่าไตรมาสที่ 3  โดยได้แรงหนุนจากการเปิดตัว  "Squid Game"  ซีซั่น 2  ในช่วงปลายเดือนธันวาคม  อย่างไรก็ดี  Netflix  ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ที่แน่ชัด

"เรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพ และทิศทางการดำเนินธุรกิจ  เรามีแผนงานที่ชัดเจนในการเร่งการเติบโต  และเรากำลังดำเนินการตามแผนงานนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ" Ted Sarandos  ผู้บริหารร่วมของ Netflix  กล่าวในวิดีโอ  ภายหลังการประกาศผลประกอบการ

Netflix  เดินหน้าขยายธุรกิจสตรีมมิ่ง  ด้วยกลยุทธ์ "ค่อยเป็นค่อยไป" 

ภายหลังจากเผชิญกับภาวะชะงักงันของการผลิตคอนเทนต์  อันเนื่องมาจากการหยุดงานประท้วงของนักเขียนบทและนักแสดงในฮอลลีวูดเมื่อปี 2566  Netflix  ได้กลับมาเพิ่มปริมาณคอนเทนต์อีกครั้ง โดยมีข้อมูลเชิงประจักษ์บ่งชี้ว่า เฉลี่ยแล้วสมาชิกใช้เวลาในการรับชมแพลตฟอร์ม 2 ชั่วโมงต่อวัน

แม้ว่าแพ็กเกจแบบมีโฆษณาของ Netflix  จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แต่บริษัทคาดการณ์ว่า  ธุรกิจโฆษณาจะยังไม่ใช่กลไกหลักในการขับเคลื่อนการเติบโต  จนกว่าจะถึงปี 2569  โดย Netflix  ยังคงยึดมั่นในกลยุทธ์ "ค่อยเป็นค่อยไป"  เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง  และการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

"Netflix  ได้เน้นย้ำถึงกลยุทธ์  'ค่อยเป็นค่อยไป'  มาโดยตลอด  ซึ่งในปัจจุบัน  ถือได้ว่ายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น  ข้อมูลเชิงลึกของเราชี้ให้เห็นว่า  อัตราการเลือกใช้แพ็กเกจแบบมีโฆษณา  กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีการเติบโตสูง"  Magalie Grossheim  นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการวิจัยหลักทรัพย์จาก M Science  กล่าว

นอกจากนี้  Netflix  มีแผนที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจถ่ายทอดสด  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  การแข่งขันกีฬา  ซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดผู้ชมและ рекламодателей  โดยในเดือนพฤศจิกายน  Netflix  มีกำหนดการถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยระหว่าง  Jake Paul  ยูทูบเบอร์ชื่อดัง  และ  Mike Tyson  อดีตแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวท  ตามด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล  NFL  2 นัด  ในวันคริสต์มาส  ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทในการขยายขอบเขตธุรกิจ  และสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์

ในส่วนของกลยุทธ์ด้านราคา  Netflix  มีแผนที่จะปรับขึ้นราคาค่าบริการในประเทศสเปนและอิตาลี  ในวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2567  หลังจากที่ได้ปรับขึ้นราคาในบางประเทศในยุโรปและญี่ปุ่น  เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา  ซึ่งเป็นการดำเนินการเพื่อเพิ่มรายได้  และรักษาความสามารถในการทำกำไร

Ted Sarandos  ผู้บริหารร่วมของ Netflix  ยืนยันว่า  บริษัทไม่มีนโยบายที่จะรวม Netflix  เข้ากับแพ็กเกจสตรีมมิ่งอื่นๆ  เช่น  Disney+  และ  HBO Max  โดยมุ่งเน้นที่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแพ็กเกจของตนเอง  มากกว่าการแข่งขันด้านราคา  ซึ่งเป็นรูปแบบธุรกิจที่บริษัทสื่อแบบดั้งเดิมคุ้นเคย

Netflix  ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของอุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง  ด้วยยุทธศาสตร์ที่แข็งแกร่ง  และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือระดับ  แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ  แต่ Netflix  ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปรับตัว  และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถานะผู้นำในตลาด  พร้อมนำเสนอคอนเทนต์คุณภาพ  ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ชมทั่วโลก

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT