Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท
โดย : ก่อกิจ เกตุบรรเทิง

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

13 พ.ย. 67
22:15 น.
|
706
แชร์

ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทาย อุตสาหกรรมสื่อก็เช่นกัน ที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค และสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ล่าสุด ช่อง 3 หนึ่งในผู้นำสถานีโทรทัศน์ของไทย ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/67 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัว และสร้างรายได้จากหลากหลายช่องทาง ท่ามกลางกระแสการแข่งขันที่ดุเดือด

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกผลประกอบการของช่อง 3 ในไตรมาส 3/67 พร้อมวิเคราะห์กลยุทธ์ และความท้าทายที่ช่อง 3 กำลังเผชิญ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงทิศทาง และอนาคตของธุรกิจสื่อในยุคดิจิทัล

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

แม้เผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจซบเซาและกำลังซื้อผู้บริโภคที่หดตัว ช่อง 3 ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์รายได้ โดยในไตรมาสที่ 3 ปี 2567 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการรวม 1,068.4 ล้านบาท ลดลง 3.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่กำไรประจำไตรมาสอยู่ที่ 45.9 ล้านบาท

เศรษฐกิจชะลอตัวฉุดรายได้โฆษณา

ภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2567 ยังคงเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ เช่น ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศ เช่น กำลังซื้อของภาคเอกชนที่ลดลง หนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ระมัดระวังในการใช้จ่ายงบประมาณด้านการโฆษณา

จากสถานการณ์ดังกล่าว รายได้จากการขายเวลาโฆษณาของช่อง 3 ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 815.7 ล้านบาท ลดลง 11.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 11.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ

ต่อยอดความสำเร็จสู่รายได้ใหม่

ท่ามกลางความท้าทาย ช่อง 3 ยังคงมองหาโอกาสในการสร้างรายได้ใหม่ๆ โดยเฉพาะจากการต่อยอดความสำเร็จของละคร ผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การจัดแฟนมีตติ้ง คอนเสิร์ต และการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนๆ นอกจากนี้ ช่อง 3 ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ ผ่านการจำหน่ายลิขสิทธิ์ละคร และการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในวงกว้าง

โดยรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นๆ ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 249.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 28.0% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีปัจจัยหลักมาจาก ธุรกิจการจัดจำหน่ายละครไปต่างประเทศ ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม และธุรกิจจัดกิจกรรมและบริหารศิลปิน ซึ่งมีกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เช่น "DHEVAPROM FAN CON AFTER PARTY" และ "Dear my love LING&ORM"

ช่อง 3 เดินหน้าพัฒนาธุรกิจ สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2567

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

ในไตรมาส 3 ปี 2567 ช่อง 3 ได้ดำเนินการพัฒนาธุรกิจในด้านต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้

  • 1.บุกตลาดต่างประเทศ ขยายฐานผู้ชมด้วยคอนเทนต์คุณภาพ

ช่อง 3 มุ่งขยายธุรกิจการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครในต่างประเทศ ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับโลก นำเสนอคอนเทนต์คุณภาพที่ได้รับความนิยมอย่างสูง อาทิ ละครชุด "ดวงใจเทวพรหม" ตอน "พรชีวัน" "น่านฟ้าชลาลัย" "โลกหมุนรอบเธอ" และ "หนึ่งในร้อย" ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมต่างประเทศ สะท้อนถึงศักยภาพของช่อง 3 ในการผลิตคอนเทนต์ที่โดนใจผู้ชมทั่วโลก

  • 2.เสริมแกร่งแพลตฟอร์มดิจิทัล "3Plus" ร่วมมือ Lazada ขยายฐานสมาชิก

ช่อง 3 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล "3Plus" อย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ ได้ผนึกกำลังกับ Lazada ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ในการจัดแคมเปญการตลาด ซึ่งประสบความสำเร็จในการเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ ช่อง 3 ยังบริหารจัดการงบประมาณด้านสื่อการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด และพัฒนา "3Plus Premium" ด้วยกลยุทธ์การคัดสรรคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ส่งผลให้มีอัตราการเติบโตของจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน

พร้อมกันนี้ ช่อง 3 ยังได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ เช่น "DHEVAPROM FAN CON AFTER PARTY" และ "DEAR my love LING&ORM" ซึ่งเปิดโอกาสให้สมาชิก 3Plus รับชมผ่านไลฟ์สตรีมมิ่ง สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ และเสริมสร้างความผูกพันกับแบรนด์

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท
  • 3."ธี่หยด 2" สานต่อความสำเร็จ กวาดรายได้ถล่มทลาย

จากกระแสตอบรับอันล้นหลามของภาพยนตร์ "ธี่หยด" ในปี 2566 ที่ทำรายได้ทะลุ 400 ล้านบาท ช่อง 3 จึงเดินหน้าสร้าง "ธี่หยด 2" เข้าฉายในวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรง ทำลายสถิติรายได้เปิดตัวสูงสุดอันดับ 1 ของปี ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพของช่อง 3

  • 4.กิจกรรม Fan Meet กระชับความสัมพันธ์ พร้อมเปิดตัวธุรกิจบริหารศิลปิน

ช่อง 3 จัดกิจกรรม Fan Meet เพื่อต่อยอดความสำเร็จของละคร และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับแฟนคลับ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น "DHEVAPROM FAN CON AFTER PARTY" และ "DEAR my love LING&ORM Fan Meeting 2024" ซึ่งทุกกิจกรรมได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น และประสบความสำเร็จในการจำหน่ายบัตรชมการแสดงออนไลน์

นอกจากนี้ ช่อง 3 ยังได้ริเริ่มธุรกิจบริหารศิลปิน โดยมีนักแสดงดาวรุ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น หลิงหลิง คอง, ออม กรณ์ภัส และ เทศน์ ไมรอน ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มรูปแบบ

  • 5.จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ตอบแทนผู้ถือหุ้น

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 80 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 5 กันยายน 2567

ผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2567 ของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

งบกำไรขาดทุน

ไตรมาส 3/2567 ล้านบาท

ไตรมาส 3/2566 ล้านบาท

ไตรมาส 2/2567 ล้านบาท

YoY

QoQ

รายได้จากการดำเนินงาน*

1,068.40

1,113.70

1,109.70

(45.3) -4.1%

(41.4) -3.7%

- รายได้จากการขายเวลาโฆษณา

815.7

919.1

924.9

(103.4) -11.3%

(109.2) -11.8%

- รายได้จากการให้ใช้สิทธิ์และบริการอื่น

249

194.6

183.4

54.4 28.0%

65.6 35.8%

- รายได้จากการขายสินค้า

3.7

-

1.5

3.7 0.0%

2.2 147.3%

ต้นทุนรวม

-820

-821.5

-843.2

(1.5) -0.2%

(23.3) -2.8%

- ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ

-820

-821.5

-843.2

(1.5) -0.2%

(23.3) -2.8%

กำไรขั้นต้น

248.4

292.2

266.5

(43.7) -15.0%

(18.1) -6.8%

- ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร

-183.9

-229.8

-173.3

(45.9) -20.0%

10.7 6.2%

- รายได้อื่น

1.4

2.4

1

(1.0) -41.0%

0.4 36.6%

- กลับรายการ(ขาดทุนจากการด้อยค่า)ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9

-0.7

1.3

0.7

(2.0) -152.1%

(1.4) -193.7%

- ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในการร่วมค้า

-4.1

0

6

(4.1) -37390.9%

(10.1) -168.4%

กำไรก่อนดอกเบี้ย และภาษีเงินได้ (EBIT)

61.1

66.1

101

(4.9) -7.5%

(39.9) -39.5%

- รายได้ทางการเงิน

14

9.5

13.4

4.5 47.9%

0.6 4.6%

- ค่าใช้จ่ายทางการเงิน

-26.9

-27.6

-26.9

(0.7) -2.6%

0.0 0.2%

กำไร (ขาดทุน) ก่อนภาษีเงินได้

48.2

47.9

87.5

0.3 0.7%

(39.3) -44.9%

- ค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้

-2.3

-10

-16.1

(7.7) -77.1%

(13.8) -85.8%

- กำไร (ขาดทุน) สำหรับงวด

45.9

37.9

71.4

8.0 21.2%

(25.5) -35.7%

กำไร (ขาดทุน) ส่วนที่เป็นของ BEC World

45.9

37.9

71.4

8.0 21.2%

(25.5) -35.7%

- ส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม

0

0

0

0.00%

0.0 50.0%

  • รายได้จากการดำเนินงาน : ในไตรมาสที่ 3/2567 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 1,068.4 ล้านบาท ตัวเลขนี้ปรับตัวลดลง 41.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2567 และลดลง 45.3 ล้านบาท หรือ 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาสที่ 3/2566) รายได้หลักของบริษัทยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณา ซึ่งคิดเป็น 76.3% ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด โดยส่วนใหญ่มาจากการขายเวลาโฆษณาของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

  • ต้นทุนขาย : ต้นทุนขายรวมของบริษัทในไตรมาสที่ 3/2567 อยู่ที่ 820.0 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 23.3 ล้านบาท หรือ 2.8% จากไตรมาสที่ 2/2567 และลดลงเล็กน้อยเพียง 1.5 ล้านบาท หรือ 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2566 แม้ว่าบริษัทจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นจากธุรกิจจัดกิจกรรมพบปะแฟนคลับและบริหารศิลปิน แต่การนำละครรีรันมาออกอากาศมากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนขายรวมลดลง

  • กำไรขั้นต้น : กำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาสที่ 3/2567 อยู่ที่ 248.4 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 23.3% เนื่องจากรายได้จากการดำเนินงานปรับตัวลดลงมากกว่าต้นทุนขาย ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลง 18.1 ล้านบาท หรือ 6.8% จากไตรมาสที่ 2/2567 และลดลง 43.7 ล้านบาท หรือ 15.0% จากไตรมาสที่ 3/2566

  • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร : สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสที่ 3/2567 บริษัทมีค่าใช้จ่ายรวม 183.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7 ล้านบาท หรือ 6.2% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 45.9 ล้านบาท หรือ 20.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3/2566 การลดลงนี้เป็นผลมาจากการบริหารค่าใช้จ่ายกิจกรรมทางการตลาด ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายละครโทรทัศน์ให้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น สอดคล้องกับรายได้ที่ปรับตัวลดลง

  • ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากกิจการร่วมค้า : ในไตรมาสที่ 3/2567 บริษัทรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้า บริษัท เมเจอร์ จอยน์ ฟิล์ม จำกัด และ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด จำนวน 4.1 ล้านบาท จากภาพยนตร์เรื่อง "มานะแมน" ในขณะที่ไตรมาสก่อนหน้า บริษัทมีกำไร 6.00 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ “ธีหยด" ให้กับแพลตฟอร์มต่างประเทศ

  • ค่าใช้จ่ายทางภาษี : ค่าใช้จ่ายทางภาษีเงินได้ของบริษัทในไตรมาสที่ 3/2567 อยู่ที่ 2.3 ล้านบาท ลดลง 13.8 ล้านบาทจากไตรมาสที่ 2/2567 และลดลง 7.7 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 3/2566 สาเหตุหลักมาจากผลกำไรที่ปรับตัวลดลง

สรุปภาพรวมผลประกอบการ กลุ่ม BEC มีกำไรสุทธิในส่วนที่เป็นของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3/2567 จำนวน 45.9 ล้านบาท ลดลง 25.5 ล้านบาท หรือ 35.7% จากไตรมาสที่ 2/2567 แต่เพิ่มขึ้น 8.0 ล้านบาท หรือ 21.2% จากไตรมาสที่ 3/2566 ทั้งนี้ กลุ่ม BEC ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในวันที่ 5 กันยายน 2567 เป็นจำนวนเงินรวม 80 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2567 กลุ่ม BEC มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้นในงบแสดงฐานะการเงินรวมอยู่ที่ 4,323.2 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน 1,397.9 ล้านบาท

ช่อง 3 ปรับตัวสู้เศรษฐกิจ มุ่งรายได้หลายทาง

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท

แม้ผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) จะเผชิญกับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่ผลประกอบการดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการปรับตัวและแสวงหารายได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานผู้ชมในตลาดต่างประเทศ ผ่านการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์คุณภาพ, การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัล "3Plus" เพื่อขยายฐานสมาชิก, การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และการต่อยอดธุรกิจสู่การบริหารศิลปิน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายจากปัจจัยภายนอกและภายในประเทศยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่บริษัทฯ จำเป็นต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด การปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ทั้งนี้ นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องควรติดตามข่าวสารและศึกษาข้อมูลผลประกอบการของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทิศทางและศักยภาพขององค์กร อันจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม

แชร์

ช่อง 3 เผยผลประกอบการ Q3/67 รายได้พันล้าน แต่กำไรหดตัวเหลือ 46 ล้านบาท