AWC เผยกำไรไตรมาสแรกพุ่ง 200% หลังกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการในตลาดลักชัวรี่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง คาดทั้งปี 2565 ธุรกิจในภาพรวมขยายตัวได้ดีจากอานิสงส์เปิดประเทศ
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวม 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 151% เมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 645 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมากกว่า 200% เนื่องจากบริษัทมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2564
แม้จะยังคงมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนในช่วงต้นปี แต่ก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่าการระบาดครั้งก่อน จึงทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับผลดีจากนโยบายการเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้ทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทมีการฟื้นตัวและเติบโตขึ้นอย่างมาก แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับกลยุทธ์การดำเนินงานตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันท่วงที และสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายในปีนี้และก้าวกระโดดต่อไปในอนาคต
นางวัลลภา ไตรโสรัส
“ผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2565 ถือเป็นไตรมาสแรกของปีที่มีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มต้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 ชี้ให้เห็นสัญญาณบวกของเศรษฐกิจในภาพรวมที่กลับมาฟื้นตัว ซึ่งทาง AWC มั่นใจว่ากลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือจะสามารถกลับมาแข่งขันและดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดทั้งปี 2565 นี้” นางวัลลภา กล่าว
ทั้งนี้ รายได้รวมในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจากอัตราการเข้าพักในกลุ่ม "ธุรกิจโรงแรมและการบริการในตลาด High-to-Luxury" ที่ถือเป็นฐานลูกค้าหลักของบริษัท มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน โดยพบว่าโรงแรมของกลุ่มบริษัทมีค่าผลการดำเนินงานเทียบกับโรงแรมคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยโรงแรมที่มีค่า RGI (Revenue Generating Index) สูงสุดอยู่ที่ 245.9
นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะการกลับมาฟื้นตัวของกลุ่ม "โรงแรมสำหรับประชุมสัมมนา" (MICE) ซึ่งได้รับอานิสงส์จากนโยบายการเปิดประเทศ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทางภาครัฐ ส่วนในกลุ่ม "ธุรกิจศูนย์การค้า" สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ เนื่องจากธุรกิจเริ่มฟื้นกลับตัว ทำให้มีจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงต้นปีมีหลากหลายเทศกาลสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น
สำหรับกลุ่ม "ธุรกิจอาคารสำนักงาน" นั้น มีจำนวนผู้เช่ารายใหม่เข้ามาทำสัญญาการเช่าพื้นที่สำนักงาน บนทำเลที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นในมาตรฐานการให้บริการ การนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ รวมถึงปัจจัยด้านมาตรการกำกับดูแลสุขอนามัยและความปลอดภัยของอาคารสำนักงานเกรด A และ A- ของทางบริษัทที่ยังคงมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ตอกย้ำถึงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตทรัพย์สินของบริษัท (Well-Diversified) ซึ่งทำให้ AWC สามารถลดความผันผวนของระดับรายได้ และยังคงมีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแข็งแรง
นอกจากนี้ บริษัทมีโปรแกรม AWC Infinite Lifestyle เชื่อมโยงการให้บริการของทุกกลุ่มธุรกิจผ่านทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์การและความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้มาใช้บริการ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างฐานลูกค้าและเพิ่มแรงจูงใจในการเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสะดวกรวดเร็วไร้รอยต่อ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
โรงแรมมีเลีย เชียงใหม่
ผู้บริหาร AWC ระบุด้วยว่า ตลอดช่วงกว่า 2 ปี ของวิกฤตโควิด-19 บริษัทยังคงเดินหน้าปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานต่างๆ เพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ร่วมสร้างคุณค่าในระยะยาว และเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในปี 2565 บริษัทเริ่มต้นแผนการดำเนินงานด้วยการเปิดโครงการ "เดอะ ล้ง 1919 ริเวอร์ไซด์ เฮอริเทจ เดสติเนชั่น" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ริมสายน้ำเจ้าพระยาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมด้วยแผนการผลักดันเชียงใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวระดับลักชัวรี่ของภูมิภาค ด้วยการเปิดโรงแรม "มีเลีย เชียงใหม่" โรงแรมจากเครือมีเลีย แห่งแรกของภาคเหนือ ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา