อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย ถือเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศในยุคดิจิทัลนี้ ด้วยปี 2566 เศรษฐกิจโลกยังอยู่บนความไม่แน่นอนจากความเสี่ยงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศทั่วโลก บริษัทยักษ์ใหญ่ๆ ต่างๆ พากันทยอยปลดพนักงาน เพื่อบริหารต้นทุน แต่ในแง่ของเศรษฐกิจไทยเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้น จากภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงค์จากกการเปิดประเทศของจีน
ในแง่ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยเองก็ต้องมีการปรับตัว เพื่อรองรับความเสี่ยงจากเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลก ทีม Spotlight จะพามาดูการปรับตัว ปรับยุทธศาตร์และกลยุทธ์ เพื่อให้แข่งขัน อยู่รอดได้ และรักษาการเป็นเจ้าตลาดไว้อย่าง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ADVANCE หรือ AIS ที่ได้มีการวางแผน ปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย
โดย AIS เปลี่ยนจาก ผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์ (Digital Life Service Provider) สู่ Cognitive Tech-Co ด้วยการพัฒนารากฐานสำคัญ 3 แกน ได้แก่ โครงข่ายอัตโนมัติ (Autonomous Network), ระบบไอทีอัจฉริยะ (IT Intelligence) และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysis) เพื่อผลักดันการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ
จะเห็นได้จาก ปีที่ผ่านมา เอไอเอส ได้ประกาศร่วมลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Joint Development Agreement-Data Center Business) กับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ Gulf และบริษัท Singapore Telecommunications Limited หรือ Singtel พร้อมประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “บริษัท เอไอเอส ดีซี เวนเจอร์ จำกัด หรือ AISDC” เพื่อลงทุนในธุรกิจศูนย์ข้อมูลในนามของเอไอเอส
AIS คาดดีลซื้อ 3BB+JASIF เสร็จ Q2/2566
รวมถึงการประกาศเข้าซื้อบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบรนด์ จำกัด(มหาชน) หรือ TTTBB หรือภายใต้แบรนด์ 3BB และเข้าซื้อหน่วยลงทุน 19% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบรนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ซึ่งล่าสุดเอไอเอสคาดว่าการลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นและการทำธุรกรรมจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปีนี้ เลื่อนจากเดิมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค.66 นี้
โดย 3BB เป็นการให้บริการอินเตอร์เน็ตบ้าน ตัวเลขผู้ใช้บริการ ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 3.7 ล้านราย ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) อยู่ที่ 584 บาท/เดือน
ขณะที่ AIS มีจำนวนลูกค้าเอไอเอสไฟเบอร์ ณ สิ้นปี อยู่ที่ 2.2 ล้านราย เพิ่มขึ้น 400,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งเมื่อถ้าการเข้าซื้อ 3BB สำเร็จในไตรมาส 2/2565 เสร็จ จะทำให้เอไอเอสไฟเบอร์มีลูกค้ารวมกันทั้งสิ้น 5.9 ล้านราย ไม่นับรวมที่ปี 2566 จะมีการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น จะขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ทันที จากที่ดูตัวเลขผู้ใช้บีิการบรอดแบนด์ของทรูออนไลน์ ณ ไตรมาส 3 ปี 2565 อยู่ที่ 4.9 ล้านราย
AIS จะก้าวเบอร์ 1 อินเตอร์เน็ตบ้าน หลังดีลจบ
ต่อจากนี้ เมื่อเอไอเอสซื้อกิจการ 3BB และ JASIF สำเร็จแล้ว จะก้าวเป็นอันดับ 1 สิ่งที่เราจะเห็นต่อจากนี้คือ ภาวะการแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปีที่ผ่านมาในธุรกิจนี้ก็มีการแข่งขันกันด้วยกลยุทธ์เสนอแพ็กเกจในระดับราคาที่ต่ำ เพื่อดึงดูดลูกค้าในพื้นที่ใหม่ๆ เพิ่ม พร้อมกับให้ส่วนลดลูกค้า เพื่อขยายและรักษาฐานลูกค้าเดิม
ธุรกิจเสาโทรคมนาคม หรือจัดตั้งกองทุนอยู่ระหว่างการศึกษา
นักวเคราะห์บล.กสิกรไทย(KS) กล่าวในรายการ KS FORWORD ว่า วันนี้ได้มีการประชุมกับคณะผู้บริหารของ AIS Analysis Meeting โดยผู้บริหาร AIS ได้ตอบข้อสักถามถึงกรณีที่ สำนักข่าว Bloomberg รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ AIS กลุ่มบริษัทโทรคมนาคมเจ้าใหญ่ที่สุดของไทย อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกสำหรับธุรกิจเสาโทรคมนาคม ซึ่งรวมถึงการตั้งกองทุนเพื่อขายสินทรัพย์
โดยแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า AIS มีการหารือกับทีมที่ปรึกษาเพื่อทบทวนกลยุทธ์เกี่ยวกับธุรกิจเสาโทรคมนาคม ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่บริษัทกำลังพิจารณา คือ การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้
หนึ่งในแหล่งข่าวคาดว่า ธุรกิจเสาโทรคมนาคมของ AIS อาจมีมูลค่าราว 2-3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 66,900-100,350 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีบริษัทโทรคมนาคมและกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่งที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกองทุนดังกล่า โดยผู้บริหารของ AIS กล่าวใน Analysis Meeting ว่า ยังอยู่ระหว่างการศึกษา โดยนักวิเคราะห์ KS คาดว่ายังไม่เร็วที่จะประกาศออกมา ซึ่งคาดว่า AIS รอดำเนินการเข้าซื้อ 3BB และ JASIF ให้เสร็จก่อน
“ เรื่องการเข้าซื้อ 3BB และ JASIF กำหนดการเลื่อนจากสิ้นมี.ค.66 เป็นภายในไตรมาส 2/66 แต่ภาพรวมเห็นว่า AIS เริ่มมีการปรับโปรโมชั่นขึ้นจากเดิม 299 บาท/เดือน เป็น 399 บาท/เดือน ภาพรวมทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งผู้บริหารคาดวารายได้ของอินเตอร์เน็ตบ้าน และลูกค้าองค์กรจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักในปีนี้” นักวิเคราะห์รายเดิมกล่าว
มองธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านเติบโตก้าวกระโดด
สำหรับปีนี้ AIS มองธุรกิจอินเตอร์เน็ตบ้านเติบโตก้าวกระโดดด้วยคุณภาพและความคลอบคลุมในการให้บริการ ด้วยกลยุทธ์การให้บริการที่หลากหลายในแพ็กเกจเดียว เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูง โดยเน้นคุณภาพและบริการที่แตกต่างสำหรับความต้องการของครอบครัว และการเข้าถึงพื้นที่บริการใหม่ๆ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าผู้ใช้บริการเติบโตในระดับเลขสองหลักของรายได้ และตั้งเป้าหมายในการสร้างฐานลูกค้ากว่า 2.5 ล้านรายในปีนี้
ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร ยืน 1
สำหรับธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทั้งในมุมการรับรู้ที่ AIS Business ครองแชมป์อันดับ 1 ผู้ให้บริการสำหรับองค์กรและธุรกิจ
โดยผลสำรวจของ Global Data ที่รวบรวมจากกลุ่มธุรกิจชั้นนำกว่า 200 องค์กร รวมถึงในมุมของรายได้ที่ยังคงสามารถสร้างการเติบโตได้ถึง 26% จากปีก่อน และคาดว่าปีนี้จะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักเช่นเดียวกัน
ปีที่ผ่านมา AIS Business สามารถเชื่อมต่อการทำงานกับองค์กรภาคธุรกิจ ด้วยการส่งมอบเทคโนโลยีและโซลูชัน ที่มุ่งสร้าง Digital Business Ecosystem ให้มีความสมบูรณ์แบบ ทั้งบริการโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ด้วยความพร้อมเต็มรูปแบบของ Intelligent Network, Cloud Platforms และ Cyber Security ตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าด้วยการบริหารจัดการข้อมูลอัจฉริยะ พร้อมการสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ เฉพาะอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น Smart Manufacturing, Smart Transportation & Logistics, Smart City & Building และ Smart Retail
แนวโน้มธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรเติบโตด้วยแนวโน้มดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง จากจุดแข็งของ AIS ที่มีพันธมิตรชั้นนำที่หลากหลาย พร้อมเทคโนโลยี 5G พร้อมตั้งเป้าหมายเติบโตจากธุรกิจผลิตภัณฑ์กลุ่ม CCID (Cloud,Cyber Security, IoT, ICT Solutions, Data Center) พร้อมกับ 5GNextGen Platform และ CloudX ที่รองรับอธิปไตยข้อมูล (Data Sovereignty) โดยเน้นบริการ 4 อุตสาหกรรม คือ การผลิต ค้าปลึก อสังหาริมทรัพย์ และการขนส่ง
ปีนี้ตั้งงบลงทุน 2.7-3.0 หมื่นล้านบาท คาดรายได้หลักโต 3-5%
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวว่า “ ปี 2565 ภาพรวมผลการดำเนินงานของ AIS ถือว่าอยู่ในระดับน่าพึงพอใจ และปีนี้ AIS ยังเดินหน้าลงทุนเพื่อคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเตรียมงบลงทุนกว่า 27,000 - 30,000 ล้านบาท เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย Cognitive Tech-Co หรือการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมอัจฉริยะ ด้วยการมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้มีความแข็งแรง เพิ่มขีดความสามารถของโครงข่ายให้มีความอัจฉริยะผ่านการใช้ AI, Data Analytic ในระดับสูง ตามมาตรฐานโครงข่ายระดับโลก เพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อการทำงานกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ที่เราพร้อมสนับสนุนการเติบโตร่วมกัน และยกระดับเศรษฐกิจจากฐานรากสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อประเทศต่อไป