เบื้องหลังยุบกระทรวงศึกษาฯ ทรัมป์หาเสียงไว้หรือใช้เงินเยอะแต่ล้มเหลว
บนเวทีที่จัดขึ้นโดยทำเนียบขาว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ รายล้อมด้วยเด็กนักเรียนชาวอเมริกันตั้งแต่ประถมต้นไปจนถึงมัธยมปลาย นั่งอยู่กับโต๊ะเรียน เด็ก ๆ จรดปากกาเซ็นชื่อลงในแฟ้มที่มีเอกสารจำลอง ในขณะที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหารของจริง เพื่อสั่งยุบกระทรวงศึกษาฯ ของสหรัฐฯ คำสั่งที่ไม่เคยมีประธานาธิบดีคนไหนในสหรัฐฯ หรือแม้แต่ในโลกนี้จะกล้าทำได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทรัมป์กล่าวว่า “เราจะปิดกระทรวงศึกษาฯ และจะปิดมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ท่ามกลางเสียงปรบมือของสมาชิกพรรค รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ลินดา แม็กมาฮอน ที่ขึ้นเวทีมากอดกับทรัมป์ ราวกับว่าเป็นวาระความสำเร็จอะไรสักอย่าง เหตุใดฝ่ายบริหารรัฐบาลทรัมป์จึงจัดอีเวนต์แบบนี้ แนวคิดการยุบกระทรวงที่สำคัญมากที่สุดหน่วยงานหนึ่งมาจากไหน และไม่มีใครจะขัดใจทรัมป์ได้เชียวหรือ?
ยุบเพื่อให้เด็กเก่งขึ้น หรือลดงบฯ ?
คำสั่งดังกล่าวระบุว่า การปิดกระทรวงฯ จะให้โอกาสแก่เด็กและครอบครัวในการหลุดพ้นจากระบบซึ่งทำให้พวกเขาล้มเหลว พร้อมสั่งการให้ลินดา แม็กมาฮอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่ออำนวยความสะดวกในการปิดกระทรวงศึกษาธิการและคืนอำนาจด้านการศึกษาให้กับรัฐต่าง ๆ เขากล่าวว่า ภายใต้ระบบใหม่ที่ไม่มีกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนต่าง ๆ จะสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในยุโรปและจีนได้ ซึ่งเขากล่าวว่า ประเทศเหล่านี้กำลังแข่งขันกับสหรัฐอเมริกาอยู่
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวก่อนการลงนามว่าคำสั่งดังกล่าวจะมีผลเพื่อลดขนาดของหน่วยงานให้เล็กลง แต่หน้าที่ของกระทรวงฯ ที่สำคัญยังคงอยู่ เช่น เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและการบริหารจัดการทุนสำหรับนักเรียนที่มีความเสี่ยง จะยังคงอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงาน ด้านทรัมป์กล่าวย้ำว่าหน้าที่ต่าง ๆ เหล่านั้นจะยังคงดำเนินการต่อเนื่อง แต่จะถูกกระจายไปยังหน่วยงานและแผนกต่างๆ ที่จะดูแลนักเรียนทั้งหมดนี้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ พนักงานของกระทรวงศึกษาธิการเกือบครึ่งหนึ่งได้รับแจ้งว่าอาจถูกเลิกจ้าง และโปรแกรมต่าง ๆ จำนวนมากที่มุ่งส่งเสริมความหลากหลายและปกป้องนักศึกษาข้ามเพศก็ถูกยกเลิกเช่นกัน คืนก่อนที่จะมีการลงนาม เจ้าหน้าที่จำนวน 1,300 คนที่ถูกเลิกจ้างไปเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับอีเมลจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคลระดับสูง ให้ไปรับสิ่งของส่วนตัวจากสำนักงานและส่งคืนอุปกรณ์ของทางราชการ พนักงานแต่ละคนจะมีเวลา 30 นาทีในการเก็บของ
พนักงานแผนกบางคนที่ทำงานมายาวนานรู้สึกไม่สบายใจจากคำสั่งที่รอคอยมายาวนาน และยังคงพยายามคิดหาคำตอบว่า คำสั่งนี้จะส่งผลต่อการทำงานและการงานของพวกเขาอย่างไร พนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า หลายคนในหน่วยงานรู้สึกว่าคำสั่งนี้เป็นเพียงการตบหน้าและเตะพวกเขาในขณะที่กำลังตกต่ำ และโจมตีรัฐมนตรีแม็กมาฮอนกับรัฐบาลว่า พวกเขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้ว กระทรวงทำงานอะไร และความพยายามของพวกเขาในการยุบหน่วยงานนี้จะส่งผลเสียต่อเด็ก ๆ และครอบครัวทั่วประเทศอย่างไรบ้าง
เอาใจแนวคิดขวาจัดสไตล์รีพับลิกัน
ในช่วงการหาเสียง ทรัมป์สัญญาว่าเขาจะดำเนินมาตรการยุบกระทรวงศึกษาฯ หากชนะเลือกตั้งและได้กลับมารับตำแหน่งอีกครั้ง ความคิดริเริ่มนี้ได้รับแรงผลักดันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกัน โดยได้รับแรงผลักดันจากความโกรธแค้นต่อนโยบายด้านการศึกษาที่พวกเขามองว่าไม่เข้าท่า และความไม่พอใจที่สั่งปิดโรงเรียนในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา รวมถึงประเด็นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายต่อสิทธิของกลุ่ม LGBT และส่งเสริมความหลากหลาย ในหลักสูตรท้องถิ่น
กระทรวงการศึกษาธิการสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1979 มีหน้าที่บริหารจัดการเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาและดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือนักเรียนที่มีรายได้น้อย แต่ทรัมป์กล่าวหาว่า หลักสูตรต่าง ๆ ปลูกฝังเยาวชนด้วยเนื้อหาเกี่ยวกับเชื้อชาติ เพศ และการเมือง อีกทั้งยังเกิดความเข้าใจผิดในกลุ่มที่สนับสนุนให้เกิดการยุบกระทรวงเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายส่วนทุนการศึกษา
แท้จริงแล้ว ค่าใช้จ่ายของเด็กส่วนใหญ่ที่ได้เรียนฟรีในโรงเรียนรัฐฯ มาจากงบประมาณของหน่วยงานท้องถิ่น ไม่ใช่งบประมาณจากรัฐบาลกลางของกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งกองทุนของรัฐบาลกลางจ่ายค่าทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนประถมและมัธยมทั่วประเทศเพียง 13% เท่านั้น นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาฯ มีบทบาทสำคัญในการบริหารและกำกับดูแลเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาของรัฐบาลกลางที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนนำไปใช้เพื่อจ่ายค่าการศึกษาในระดับอุดมศึกษาต่างหาก
นักเรียนกลุ่มไหนจะได้ผลกระทบโดยตรง
จากข้อมูลดังกล่าวสรุปได้ว่า เรื่องหลักสูตรและเรื่องการให้ทุนนักเรียนที่ฝ่ายรีพับลิกันไม่ค่อยพอใจนั้น แท้จริงแล้วเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานท้องถิ่น ส่วนงานของกระทรวงศึกษาฯ จะดูแลการบริหารเงินทุนของรัฐบาลกลางสำหรับนักเรียนที่มีความพิการ ซึ่งอยู่ภายใต้กฎหมายการศึกษาของบุคคลที่มีความพิการ ด้านโฆษกทำเนียบขาวมองว่ารัฐบาลกลางไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านหน่วยงานด้านการศึกษาที่ล้มเหลว
การเคลื่อนไหวดังกล่าวของโดนัลด์ ทรัมป์และฝ่ายบริหาร สร้างความกังวลใจเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ปกครอง นักศึกษา และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิเด็กและเยาวชน เบ็กกี้ พริงเกิล ประธานสมาคมการศึกษาระดับชาติ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ และอีลอน มัสก์ มุ่งเป้าทำลายล้างโรงเรียนของรัฐและอนาคตของนักเรียน 50 ล้านคนในชุมชนชนบท ชานเมือง และเขตเมืองทั่วอเมริกา ด้วยการทำลายการศึกษาของรัฐเพื่อนำเงินไปจ่ายภาษีให้กับเหล่ามหาเศรษฐี
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า หากการยุบกระทรวงศึกษาฯ สำเร็จจริง จะส่งผลเสียต่อนักเรียนทุกคน โดยทำให้จำนวนนักเรียนในชั้นเรียนพุ่งสูงขึ้น (เกินความสามารถของจำนวนคุณครูที่จะลดจำนวนลง) ตัดโปรแกรมการฝึกอบรมที่สำคัญ ทำให้การศึกษาระดับอุดมศึกษามีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเกิดกว่าที่ครอบครัวชนชั้นกลางจะจ่ายไหว ยกเลิกบริการการศึกษาพิเศษสำหรับนักเรียนที่มีความพิการ และทำลายการคุ้มครองสิทธิพลเมืองของนักเรียน อย่างไรก็ตาม คำสั่งดังกล่าวอาจถูกคัดค้านตามกระบวนการทางกฎหมาย เช่นเดียวกับหลายคำสั่งสุดโต่งที่ฝ่ายบริหารของทรัมป์ดำเนินการมาก่อนหน้านี้
