ชื่อ ‘Twitter’ และโลโก ‘นกสีฟ้า’ ที่ชาวทวิตเตี้ยนคุ้นเคยกำลังจะหายไป เพราะ Elon Musk ประกาศชัดเจนแล้วว่า จะเปลี่ยนโลโกใหม่อย่างเร็วที่สุด จันทร์นี้ (24 ก.ค.) ผ่านบัญชี Twitter ของเจ้าตัว และช่องทาง Twitter Space (ฟีเจอร์สนทนาแบบกลุ่มด้วยเสียงคล้าย Clubhouse)
Not sure what subtle clues gave it way, but I like the letter X pic.twitter.com/nwB2tEfLr8
— Elon Musk (@elonmusk) July 23, 2023
โดยแม้ตอนนี้ (13.30 น.) โลโกของเว็บไซต์ Twitter จะยังไม่เปลี่ยน แต่บัญชี Twitter @elonmusk ของ Elon Musk และ @Twitter ของ Twitter เอง ได้เปลี่ยนเป็นโลโก ‘X’ เรียบร้อยแล้ว และเว็บไซต์ x.com ตอนนี้ เมื่อคลิกเข้าไปก็จาพาไปสู่หน้าหลักของ Twitter แล้ว
การรีแบรนด์ครั้งใหญ่จาก Twitter ไปเป็น X นี้ นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุด หลังการปลดคนครั้งใหญ่, เทขายของในตึก, เปลี่ยน CEO, พัฒนาฟีเจอร์สำหรับลูกค้าแบบ Subscription จำกัดการดูโพสต์ เปลี่ยนชื่อบริษัท ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นความพยายามของ Elon Musk ในการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ให้กับแพลตฟอร์มโซเชียลเบอร์ต้นของโลกแพลตฟอร์มนี้ หลังจากที่ได้เข้าซื้อด้วยมูลค่ากว่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) แต่ยังไม่สามารถทำให้กระแสเงินสดพลิกกลับมาเป็นบวกได้
Twitter เปลี่ยนชื่อและโลโกเป็น X เพื่อรีแบรนด์ และยกระดับให้แพลตฟอร์มโซเชียลที่เน้นการพิมพ์ข้อความนี้ ให้กลายเป็น ‘SuperApp’ อย่างที่ WeChat ของจีนเป็น โดย Linda Yaccarino ซีอีโอคนปัจจุบันของ Twitter เผยว่า แพลตฟอร์มนี้จะถูกพัฒนาให้เป็นมาร์เก็ตเพลสสำหรับ ‘สินค้า บริการ และโอกาส’ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI โดย X จะเชื่อมต่อผู้ใช้ทุกคนไว้ด้วยกันในหลากหลายรูปแบบ ที่เหนือกว่าจะจินตนาการได้
สำหรับความหมายของตัวอักษร X นี้ Musk ทวีตว่า สื่อความหมายถึงความไม่สมบูรณ์แบบในตัวของมนุษย์ทุกคน ซึ่งทำให้มนุษย์ทุกคนนั้นมีเอกลักษณ์ของตัวเอง
ความท้าทายของ Musk ในตอนนี้ ไม่เพียงแค่ดึงผู้ใช้ บริษัทและแบรนด์ซึ่งซื้อสื่อโฆษณากลับมายังแพลตฟอร์ฒเท่านั้น แต่ยังเป็นม้ามืดตัวใหม่แห่งวงการ ‘Threads’ แพลตฟอร์มโซเชียลที่มีลักษณะคล้าย Twitter ของ Mark Zuckerberg ซึ่งตอนนี้สื่อให้การยอมรับว่า ‘Mark คนเดิมที่เป็นเจ้าพ่อโซเชียล กลับมาแล้ว’ หลังหมกมุ่นอยู่กับโลก Metaverse อยู่นาน
Threads แพลตฟอร์มคู่แข่งของ Twitter จากค่าย Meta สร้างปรากฏการณ์ยอดดาวน์โหลดถล่มทลาย ทะลุ 150 ล้านดาวน์โหลดได้ภายในแค่ 6 วัน ทุบสถิติหลายแอปพลิเคชันรวมถึง ‘ChatGPT’ แชทบอท AI สุดฮอตแห่งปี แต่ตอนนี้ กลับประสบปัญหากระแสเริ่มแผ่ว หลังผู้ใช้งานพบว่า ก็ไม่ได้ต่างอะไรจาก Twitter มากขนาดนั้น
หลังสร้างกระแสฮอตอยู่ได้ไม่ทันไร ปัจจุบัน Threads สูญเสียผู้ใช้งานรายวัน (Daily Active Users) ไปแล้วกว่า 70% เหลือเพียง 13 ล้านคนที่สิงอยู่บนแอปจริงๆ ในแต่ละวัน โดยสัดส่วนจำนวนผู้ใช้งานขณะนี้ มีผู้ใช้จากประเทศอินเดียสูงสุดที่ 32% รองลงมาเป็นประเทศบราซิล 22% ตามมาด้วยสหรัฐ ที่ 16%
จุดอ่อนที่ Threads เสียเปรียบคู่แข่งอย่าง Twitter คือ การขาดหน้า ‘Following’ หรือฟีดที่โชว์เฉพาะโพสต์ของผู้ที่เราติดตาม ทำให้หน้าฟีดของ Threads ตอนนี้เต็มไปด้วยบัญชีที่เราไม่รู้จัก การขาดเวอร์ชันบนเว็บไซต์ ที่ให้คนทำงานบนคอมพิวเตอร์ สามารถสลับเข้าไปเล่นได้โดยไม่จำเป็นต้องหยิบมือถือ
แม้จะสูญเสียโมเมนตัมไปบ้าง แต่ Meta ก็ยังเชื่อว่าจะสามารถเรียกลูกค้ากลับมาได้ด้วยฟีเจอร์ใหม่ๆ และสร้างฐานที่มันอันแข็งแกร่งในวงการโซเชียลมีเดียแบบ Microblogging (การเขียนบล็อกสั้นๆ แบบ Twitter) ได้ เป็นช่องทางใหม่ๆ สำหรับผู้ใช้งาน Instagram ที่ต้องการอัพเดตสถานการณ์ และเข้าถึงเรื่องที่สังคมให้ความสนใจได้แบบเรียลไทม์
ที่มา : NBC, Reuters, Twitter, Forbes, Times of India