ก้นเหวอยู่ไหน!? บิตคอยน์ดิ่งไม่หยุดจ่อหลุด “25,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์” แล้ว ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ด้าน Ethereum เหรียญเบอร์ 2 ของกระดาน ราคาลดกระหน่ำ ร่วง 30% แล้วในรอบ 7 วัน
ราคาบิตคอยน์ที่เพิ่งหลุดแนวรับ 28,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์ ไปในช่วงสายๆ ของเมื่อวานนี้ เอื้อมมือขึ้นมาแตะแนวรับเดิมได้เพียงได้เพียงราว 3 ชม. เท่านั้น ก่อน ‘รูด’ ลงต่อเนื่อง เกือบหลุด ‘25,000 ดอลลาร์/บิตคอยน์’ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยากจะคาดเดา และตลาดทุนที่ร่วงลงไปในทิศทางเดียวกัน
โดยราคาล่าสุด ณ เวลา 12.00 น. บนเว็บไซต์ CoinMarketCap อยู่ที่ 25,677.78 ดอลลาร์/บิตคอยน์ ขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบวันที่ 25,137.23 ดอลลาร์/บิตคอยน์ เล็กน้อย โดยหากเทียบราคากับจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์แล้ว ราคาบิตคอยน์ร่วงลงในแล้วกว่า 20% ในระยะเวลา 7 วัน
ปัจจัยหลักที่กำลังกระทบทุกตลาดทุนอยู่ในขณะนี้นั้น คือ ปัญหาเงินเฟ้อสหรัฐที่พุ่งขึ้น 8.6% สูงสุดในรอบ 40 ปี กดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด อาจเตรียมตัวที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุมวันพุธหน้า 15 มิ.ย. และจะปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือน ก.ค. และเดือนก.ย. ทำให้นักลงทุนวิตกว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขึ้นดังกล่าวนี้ จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
ด้านเหรียญอันดับสองของกระดานอย่าง อีเธอเรียม ที่เพิ่งผ่านการทดสอบอัปเกรดโค้งสุดท้ายสู่ ‘อีเธอเรียม 2.0’ สำเร็จนั้น มีทิศทางราคาไหลลงเช่นเดียวกับราคาบิตคอยน์ ซ้ำร้าย ยังมีข่าวว่า ขั้นตอนการรวมกันของอีเธอเรียมหลัก กับบล็อกเชนใหม่ที่สร้างขึ้นมา (เรียกระยะนี้ว่า ‘The Merge’) อาจต้องล่าช้าออกไปเพื่อให้มีเวลาอัพเกรดมากขึ้น บวกกับความกังวัลที่เหรียญ sETH ที่อ้างอิงมูลค่า (Peg) กับเหรียญอีเธอเรียมสกุลหลักแบบ 1:1 นั้น หลุด Peg แล้ว
ส่งผลให้ราคาอีเธอเรียมร่วงลงต่อเนื่อง สู่จุดต่ำสุดในรอบวันที่ราคา 1,323.16 ดอลลาร์/อีเธอเรียม ร่วงจากจุดสูงสุดในรอบสัปดาห์แล้วกว่า 30% โดยราคา ณ เวลา 12.00 น. อยู่ที่ 1,360.83 ดอลลาร์/อีเธอเรียม
สำหรับราคาเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี 10 อันดับแรก (ไม่รวม Stable Coin) เป็นดังนี้
ด้านมูลค่าตลาดคริปโทเคอร์เรนซีก็ลดลงต่อเนื่องเช่นกัน โดยในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น มาร์เก็ตแคปหายไปแล้วกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ จากช่วงต้นสัปดาห์ที่เคลื่อนไหวอยู่ในช่วงเกือบ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ มาในวันนี้ มูลค่าตลาดเกือบหลุด 1 ล้านล้านดอลาร์แล้ว ย้อนกลับไปใกล้เคียงกับช่วงต้นปี 2021
ไม่ใช่แค่ตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น ตลาดทุนอื่นๆ ร่วงลงอย่างหนักเช่นกันโดยเมื่อช่วงปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงถึง -2.73% ส่วนดัชนี S&P500 ร่วงลง -2.91% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง -3.52% หากนับเป็นการปิดตลาดรอบสัปดาห์ จะถือเป็นสัปดาห์ที่สาหัสที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นปีวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา