ประเทศไทยควรมีบิตคอยน์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศแล้วหรือยัง?
ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคมนี้สินทรัพย์ที่ดูจะร้อนแรงขานรับกับการเข้ารับตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นก็คือบิตคอยน์ โดยราคาพุ่งทะลุ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหนึ่งบิตคอยน์ไปแล้ว
คอนเทนต์แนะนำ
ข่าวการรับตำแหน่งของทรัมป์เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะนักลงทุนมีความคาดหวังต่อนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่สนับสนุนคริปโทเคอเรนซี่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งกองทุนสำรองบิตคอยน์เชิงยุทธศาสตร์ การผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆในการควบคุมคริปโทฯ แถมยังเคยประกาศว่าจะทำให้สหรัฐฯเป็นเมืองหลวงของคริปโทฯอีกด้วย
ล่าสุดทรัมป์ได้ ประกาศเปิดตัว $Trump เมื่อวานนี้ (18 ม.ค.68) และจากข้อมูลของ CoinMarketCap รายงานว่า หลังจากที่เหรียญเปิดตัวได้ไม่นาน มูลค่าของ $Trump ก็พุ่งไปแตะที่เกือบ 5.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ $Trump คือ เหรียญมีม หรือ มีมคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิทัลแต่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับกระแสหรือความเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม โดยราคาเหรียญมักที่มีความผันผวนสูงมากเคลื่อนไหวเชื่อมโยงไปตามเหตุการณ์การเมือง
ท๊อป-จิรายุส หนุนไทยเร่งศึกษาบิตคอยน์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ
มุมมองของนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้เคยบให้สัมภาษณ์ไว้กับ SPOTLIGHT และล่าสุดเปิดเผยผ่านนิตยสาร Forbes Thailand ฉบับเดือนมกราคม 2568 ในประเด็นเดียวกันคือ ถึงเวลาที่ประเทศไทยควรพิจารณานำ Bitcoin มาเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองประเทศ ควบคู่ไปกับทองคำและสกุลเงินหลักที่มีอยู่เดิม เพื่อรักษาความได้เปรียบในเวทีการเงินโลก
ท๊อป-จิรายุส ระบุว่า เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทุนสำรองทั้งหมด เราไม่ควรรอจนกระทั่งต้นทุนสูงขึ้น เพราะต้องแบกรับต้นทุนมากขึ้นมาก หากเริ่มต้นเร็วจะสร้างความได้เปรียบในระยะยาว ตามหลายปัจจัยส่งเสริมในขณะนี้
การเข้ามาดำรงตำแหน่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีแผนที่จะผลักดันการถือครอง Bitcoin จำนวน 1 ล้าน BTC เป็นทุนสำรองของประเทศ ซึ่งอาจทำให้ประเทศอื่น ๆ ต้องเร่งปรับตัวเริ่มพิจารณาถือครอง รวมถึงปี 2568 ที่จะเป็นปีทองของสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะเป็นช่วง wave ที่ 4 ของคริปโทเคอร์เรนซีที่ตามสถิติแล้วจะเกิดขึ้นทุก 4 ปี
ในขณะเดียวกัน เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น Financial Platform of the Future เหมือน Facebook ของวงการการเงิน ที่ครอบคลุมบริการทั้งการโอนเงินข้ามประเทศและการระดมทุนผ่าน Digital asset exchange เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่งอีกด้วย”
นายจิรายุส ยังเสนอให้จัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับ ก.ล.ต. ดิจิทัลในดูไบ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการพัฒนาอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย พร้อมชี้ว่าแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยจีนมีสัดส่วน GDP จากเศรษฐกิจดิจิทัลถึง 44% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ในปีนี้ ขณะที่เวียดนามมีสัดส่วนอยู่ที่ 17%
สำรวจประเทศไหนที่ใช้บิตคอยน์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ
SPOTLIGHT รวบรวมข้อมูลระหว่างบิตคอยน์กับทองคำขณะนี้ประเทศไหนใช้อะไรเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศกันบ้าง ซึ่งก็พบว่าหลายประเทศยังคงถือครองทองคำในสัดส่วนที่มากแต่ขณะเดียวกันหลายประเทศก็เริ่มให้ความสำคัญกับการถือครองบิดคอยน์เป็นหนึ่งในทุนสำรองเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกาถือครองทองคำอยู่ที่ 8,133 ตันมูลค่า 24.2 ล้านล้านบาท
-สหรัฐฯถือครองบิตคอยน์ 207,189 บิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 682,000 ล้านบาท
-จีนถือครองบิตคอยน์อยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศที่ 194,000 บิตคอยน์ มูลค่า 638,000 ล้านบาท
-อังกฤษถือครองบิตคอยน์ 61,000 บิตคอยน์ มูลค่า 201,000 ล้านบาท
-ยูเครนถือครองบิตคอยน์ 46,351 บิตคอยน์มูลค่า 153,000 ล้านบาท
-ภูฎารถือครองบิตคอยน์ 13,029 บิตคอยน์มูลค่า 42,900 ล้านบาท
-เอลซัลวาดอร์ ถือครอง บิตคอยน์ 6,002 บิตคอยน์มูลค่า 19,700 ล้านบาท
