Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ตลาดคริปโทฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง?หลังIMF ประกาศเป็น Asset Class
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

ตลาดคริปโทฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง?หลังIMF ประกาศเป็น Asset Class

25 มี.ค. 68
10:39 น.
แชร์

ตลาดคริปโทฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง? เป็นหนึ่งในคำถามที่นักลงทุนต่างถกเถียงกันมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา โดยเสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง

(1) ฝั่งแรกมองว่าตลาดคริปโทฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ซึ่งจุดพีคที่คนส่วนใหญ่มองคือหลังจากที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งและสร้างเหรียญมีมของตัวเองขึ้นมาในชื่อ TRUMP Coin โดยเหรียญของทรัมป์ได้ทำการดูดสภาพคล่องจากเม็ดเงินในบล็อกเชน (On-chain) ไปกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายใน 2 วัน และปรับตัวลง 80% ภายใน 2 สัปดาห์ โดยจุดที่น่าสังเกตคือภายหลังการปรับตัวลงครั้งนั้นเม็ดเงินไม่ได้ไหลกลับไปหาเหรียญ On-chain อื่น ๆ แต่กลับออกจากตลาดไป ทำให้คนบางกลุ่มมองว่านั้นคือจุดจบของรอบ Altseason เรียบร้อยแล้ว

(2)ฝั่งที่สอง ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาด โดยให้เหตุผลว่า Altseason ในรอบนี้ ของจริงยังไม่มา โดยเทียบจาก Sentiment จุดพีคของรอบก่อนช่วงปี 2021 กับตอนนี้ยังต่างกันอยู่มาก อีกทั้งดูเหมือนเรายังพอมีปัจจัยบวกรออยู่ที่ครึ่งปีหลัง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยมหภาคที่ผ่อนคลายลง หรือ ข้อกฎหมายที่จะเอื้อต่ออุตสาหกรรมคริปโทฯ ที่กำลังทยอยปลดล็อคตลอดทั้งปี

แล้วเราสามารถใช้ Indicators ใดได้บ้างในการคาดการณ์จุดสูงสุดของตลาด?

Market Value to Realized Value (MVRV) หรือคือการเทียบมูลค่าตลาดกับต้นทุนคนส่วนใหญ่ในตลาด หรือแปลเป็นภาษาชาวบ้านง่าย ๆ ว่า คนส่วนใหญ่ในตลาดกำไรกันมากน้อยแค่ไหนแล้ว ซึ่งดัชนี MVRV มีอัตราความแม่นยำ (win rate) ค่อนข้างสูงในการนำมาคาดการณ์จุดสูงสุดของตลาดในรอบ cycle ปี 2017 และ 2021 โดยเมื่อ MVRV แตะระดับ 3-4 เท่า ตลาดจะเจอ cycle top หรือจุดพีคของรอบ ก่อนปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งสอง cycle ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมาของปี 2024-2025 MVRV ทำจุดสูงสุดที่ราว 2.5-2.6 เท่าเท่านั้น สะท้อนว่าตลาด อาจจะยังไม่ถึงจุดพีคของ cycle หากวัดด้วย indicator นี้

4-Year Cycle Period หรือการวัดจุดสูงสุดของ cycle ผ่านระยะเวลาตามสถิติในอดีต โดยสิ่งที่เหมือนกันใน cycle ปี 2017 และ 2021 มีอยู่อย่างนึงคือหลังจากการเกิด Bitcoin halving ตลาดคริปโทฯ จะปรับตัวขึ้นและจะใช้เวลาราว 18 เดือน หรือ 1 ปีครึ่งตลาดจะเจอจุดพีค ก่อนปรับตัวลงในเวลาต่อมา

ทั้งนี้หากอิงตามข้อมูลดังกล่าว ใน cycle ปี 2024 นี้เราได้มี Bitcoin halving ในช่วงเดือนเม.ย. 2024 และหานับไป 18 เดือนจะตรงกับช่วงเดือนต.ค. 2025 ซึ่งสะท้อนว่าเรายังไม่ถึงจุดพีคของ cycle หากวัดด้วย indicator นี้เช่นเดียวกัน

Sentiment หรืออารมณ์ตลาด ว่าถึงจุดพีคที่ทุกคนโลภอย่างสุดขีดแล้วหรือยัง ซึ่งอาจจะเป็น indicator ที่จับต้องได้ยากและขึ้นอยู่กับความเห็นส่วนบุคคล โดยปัจจุบันมุมมองของนักลงทุนแยกออกเป็น 2 ฝั่งอย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น คือมองตลาดพีคแล้วหลังทรัมป์เข้ามา และยังไม่พีคเพราะยังมีปัจจัยหนุนรออยู่

ทำให้หากวัดด้วย indicator นี้อาจจะยังก้ำกึ่งและตีความได้แบบ 50/50 ว่าตลาดพีคแล้วหรือยัง

Catalyst หรือปัจจัยสนับสนุนที่รออยู่ข้างหน้า โดยหากอิงจาก cycle ก่อน ๆ ตลาดจะขับเคลื่อนไปต่อได้ก็ต่อเมื่อมี Narrative หรือกระแสเป็นตัวสนับสนุน เช่นปี 2017 คือกระแส ICO และ ปี 2021 คือกระ DeFi Summer และ QE จากเฟดช่วงหลังโควิด

ทั้งนี้หากมองในปี 2025 ช่วงครึ่งปีหลังเราจะเห็นได้ว่าทั้งปัจจัยมหภาคจากเดิมที่มีความกังวลเศรษฐกิจถดถอยในช่วงต้นปี มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นจากการลดดอกเบี้ยของเฟดช่วงปลายปี และการทยอยออกกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็น 10 Tasks Force ของก.ล.ต. สหรัฐฯ ที่จะทำให้กฎระเบียบคริปโทฯ ชัดเจนมากขึ้น หรือกลุ่มคณะทำงานเกี่ยวคริปโทฯ ที่แต่งตั้งโดยทรัมป์โดยเฉพาะ ที่กำลังเร่งร่างกฎหมายเอื้อต่อคริปโทฯ อยู่เช่นเดียวกันไม่ว่าจะเป็น การแบ่งประเภทของหลักทรัพย์ และ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ การออกกฎหมาย stablecoin เป็นต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุด IMF ได้ทำการประกาศให้ Bitcoin และ Crypto ประเภทอื่น ๆ เป็นหนึ่งใน Asset class ของโลกอย่างเป็นทางการในคู่มือบัญชีดุลการชำระเงินและสถานการลงทุนระหว่างประเทศฉบับบูรณาการ (BPM7) ฉบับล่าสุด

ยกตัวอย่างเช่น หากมีการทำธุรกรรมใน Bitcoin ระหว่างประเทศ (Cross boarder Transaction) จะเทียบเคียงได้กับการทำธุรกรรมของที่ดินและทองคำ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลถูกยอมรับในระดับโลก

ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่จะทำให้อุตสาหกรรมคริปโทฯ เป็นที่ยอมรับ และรับเม็ดเงินจากนักลงทุนสถาบันได้มากยิ่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

โดยหากพิจารณา indicators ทั้ง 4 จะเห็นว่าโดยภาพรวมยังมีโอกาสที่ตลาดยังไม่ถึงจุดพีค และลุ้นกลับไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ของปีได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หากอิงข้อมูลเชิงสถิติและสิ่งที่เคยเกิดขึ้นใน cycle รอบก่อน ๆ แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีสิ่งใดจะการันตีให้กับเราได้ว่ารอบนี้จะเหมือนรอบก่อนเสมอไป

กลยุทธ์การลงทุนที่ดีคือ “Don’t predict, just react” หรือคือการที่เราไม่ควรจะไปคาดการณ์ตลาดเพราะไม่มีใครเดาถูกได้ 100% แต่เราควรจะมี action plan หรือแผนรับมือในสถานการณ์ต่าง ๆ ถึงจุดไหนควร take profit ล็อคกำไร หรือ cut loss ตัดขาดทุน จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัยและมีความสุขกับการลงทุนได้ในระยะยาว

หมายเหตุ : คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวนและสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ผู้เขียน
นายธนลภย์ ปรีดามาโนช บริษัท ผู้จัดการเงินทุน เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด

Sources:
https://insights.glassnode.com/
https://cryptoquant.com/community/dashboard/66e1223e6884f07ba430f160?e=d_8

แชร์
ตลาดคริปโทฯ ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วหรือยัง?หลังIMF ประกาศเป็น Asset Class