สินทรัพย์ดิจิทัล

ตลาดคริปโทตื่นแล้ว บิตคอยน์ ยังยืนเหนือ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ

23 ม.ค. 66
ตลาดคริปโทตื่นแล้ว บิตคอยน์ ยังยืนเหนือ 22,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ไฮไลท์ Highlight
“นี่เป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุน crypto หากอัตราเงินเฟ้อลดลง และเฟดใกล้ถึงจุดสิ้นสุดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สินทรัพย์เสี่ยงจะได้มีโอกาสฟื้นขึ้นได้บ้าง และอาจดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้ามาตลาดอีกครั้ง”

สัปดาห์ที่ผ่านมา Cryptocurrencies ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นสหรัฐ ท่ามกลางบริษัทแพลตฟอร์มcrypto รายใหญ่ได้ยื่นฟ้องล้มละลายในสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน  ราคาของบิตคอยน์ สูงขึ้นประมาณ 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามข้อมูลของ Coin Metrics  ราคาล่าสุดอยู่ที่ราว 22,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ ในขณะที่อีเทอร์เรียม  ได้เพิ่มขึ้น 14% ราคาล่าสุดราว 1,600 อีเธอร์ต่อดอลลาร์  

Sylvia Jablonski ซีอีโอและประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Defiance ETF กล่าวว่า “Bitcoin ดูเหมือนจะกลับมาซื้อขายในทิศทางเดียวกับการเคลือ่นไหวของ ตลาดหุ้น Nasdaq และสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง หลังจากไม่ไปในทางเดียวกับตลาดหุ้นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา”


“นี่เป็นข่าวดีสำหรับนักลงทุน crypto หากอัตราเงินเฟ้อลดลง และเฟดใกล้ถึงจุดสิ้นสุดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สินทรัพย์เสี่ยงจะได้มีโอกาสฟื้นขึ้นได้บ้าง และอาจดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้ามาตลาดอีกครั้ง”

บิทคอยน์ เคยขึ้นไปสูงสุดราวเดือน ก.ค.ปี 2022  ราว 64,000 เหรียญ และลดลง เหลือประมาณ 15,000เหรียญ และตั้งแต่ต้นปี 2023 ราคาของบิตคอยน์ดูมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น 

มีการวิเคราะห์ว่า บิตคอยน์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ คือ จะรับปัจจัยบวกด้วยกันตอนปี 2022 มาตรการอัดฉีดต่างๆ อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวแรงรวมถึงคริปโทฯ  แต่พอมาในช่วงท้ายปี เหตุการณฺ์ล่มสลายของบรรดาแพลตฟอร์มคริปโท ทำให้ราคา หลุดออกจากการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น

การเพิ่มขึ้นของราคา crypto ในสัปดาห์นี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางข่าวคราวของGenesis หนึ่งในผู้ให้กู้ที่ใหญ่ที่สุดใน crypto และหนึ่งในเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันรายใหญ่ที่สุดของ FTX ซึ่งยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อคืนวันพฤหัสบดี

Genesis ถือเป็นบริษัทใหญ่ด้านคริปโตอีกราย มีรูปแบบธุรกิจคือรับเงินคริปโตไปปล่อยกู้อีกต่อ แล้วกินส่วนต่างดอกเบี้ย เมื่อตลาดคริปโตขาลง บวกกับการล่มสลายของ FTX ทำให้ลูกค้าแห่ไปถอนเงินจาก Genesis จนเสียสภาพคล่อง และต้องยื่นขอล้มละลายในท้ายที่สุด ตามข้อมูล  Genesis ระบุว่ามีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย ยอดหนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ยู่ระหว่าง 1-10 พันล้านดอลลาร์ 

 

“หุ้น Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลถูกขายมากเกินไปในปีที่แล้ว” “สินทรัพย์เหล่านี้มีราคาสูงกว่าข่าวเชิงลบจากการล่มสลายของ FTX การล้มละลายของ BlockFi และการล่มสลายของ Genesis” Owen Lau นักวิเคราะห์จาก Oppenheimer กล่าวไว้ 

แต่ถ้ามีเหตุการณฺล่มสลาย โดมิโน่ ยังเกิดขึ้นซ้ำๆในใปีนี้อีก มันจะทำลายความน่าเชื่อถือของสินทรัพย์ดิจิทัลและทำให้นักลงทุนเกิดการแพนิคได้เช่นกัน 

 

advertisement

SPOTLIGHT