คณะกรรมการ ก.ล.ต. เห็นชอบหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านเงินทุนของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ให้มีความพร้อมและมีเงินทุนเพียงพอรองรับการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตลาดเพิ่มการคุ้มครองผู้ซื้อขาย และเพิ่มความยืดหยุ่น พร้อมจัด focus group หารือกับผู้ประกอบธุรกิจและเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 8/2565 เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 มีมติเห็นชอบหลักการการปรับปรุงหลักเกณฑ์ด้านเงินทุนของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขาย นายหน้าซื้อขาย และผู้ค้า เพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้ซื้อขายและความน่าเชื่อถือในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเงินทุนเพียงพอรองรับการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1) ปรับปรุงหลักเกณฑ์เงินทุนแรกเข้าในการประกอบธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเงินทุนเพียงพอรองรับการลงทุนในระยะแรกเริ่มและสะท้อนความตั้งใจจริงในการประกอบธุรกิจ เช่น ผู้ประกอบธุรกิจที่เก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า ประเภทศูนย์ซื้อขายให้เพิ่มทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วเป็น 100 ล้านบาท จากปัจจุบัน 50 ล้านบาท นายหน้าซื้อขายเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท จากปัจจุบัน 25 ล้านบาท และผู้ค้าเพิ่มเป็น 50 ล้านบาท จากปัจจุบัน 5 ล้านบาท
(2) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำรงเงินกองทุน โดยกำหนดโครงสร้างเงินกองทุนตามความเสี่ยง (risk-based) เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเงินทุนเพียงพอรองรับการประกอบธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และสามารถชดเชยความเสียหายที่เกิดจากการประกอบธุรกิจให้กับผู้เกี่ยวข้อง สามารถคุ้มครองทรัพย์สินของผู้ซื้อขายได้อย่างเหมาะสม เช่น ปรับปรุงอัตราการดำรงเงินกองทุนใน hot wallet ให้รองรับความเสี่ยงทั้งจำนวน และปรับปรุงอัตราการดำรงเงินกองทุนใน cold wallet ให้สะท้อนความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
(3) ปรับปรุงสัดส่วนการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า โดยในกรณีที่เก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้ามูลค่าไม่เกิน 1,000 ล้านบาท สามารถเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าใน hot wallet ได้ในสัดส่วนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำรงสัดส่วนการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้า โดยยังคงให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเงินทุนรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น เพื่อคุ้มครองผู้ซื้อขาย
(4) ปรับปรุงหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การดำเนินการเมื่อเงินกองทุนลดลงจนถึงระดับขั้นต่ำ (minimum requirement) และการยกเลิกหลักเกณฑ์ด้านเงินทุนที่ไม่สอดคล้องในทางปฏิบัติของผู้ประกอบธุรกิจ
สำหรับผู้ยื่นขออนุญาตรายใหม่หลักเกณฑ์ที่กำหนดจะมีผลใช้บังคับนับแต่วันที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ส่วนผู้ประกอบธุรกิจรายปัจจุบัน คณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติให้กำหนดบทเฉพาะกาล โดยให้ทยอยปรับเพิ่มทุนจดทะเบียนซึ่งชำระแล้วสำหรับการประกอบธุรกิจและปรับปรุงอัตราการดำรงเงินกองทุนใน hot wallet ให้ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจมีเวลาในการปรับตัว
ทั้งนี้ ก.ล.ต. จะหารือเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวร่วมกับผู้แทนผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในรูปแบบ focus group ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้สนใจ และประชาชนต่อไป