ราคาน้ำมันโลกบวกแรง 5% หลังจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อเข้าวันที่ 4 กลุ่มพันธมิตรตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มโดยตัดช่องทางระบบการเงิน Swift นักวิเคราะห์คาดกระทบการซื้อขายน้ำมันรัสเซีย ดันราคาน้ำมันโลกพุ่ง
น้ำมันโลกเพิ่งจะลดลงแรงไปเมื่อวันเสาร์ เพราะตลาดเบาใจว่าไม่มีการคว่ำบาตรน้ำมัน และสถานการณ์อาจจบลงได้เร็ว แต่ผ่านไปแค่ 2 วัน ราคาน้ำมันโลกกลับมาดีดตัวขึ้นแรงอีกครั้งถึง 5% ในวันนี้ (28 ก.พ.) เมื่อสงครามยังไม่จบง่าย และพันธมิตรตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม จนคาดว่าจะกระทบอุตสาหกรรมน้ำมันไปด้วย
สัญญาน้ำมันดิบสหรัฐ เวสต์เท็กซัส บวกขึ้นเกือบ 5 ดอลลาร์ หรือ 5.25% ขึ้นไปแตะ 96.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายที่ตลาดเอเชียเมื่อช่วงเช้า
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะยานไปแตะ 105.07 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ ก่อนจะลดลงมา โดยราคาเมื่อเวลาประมาณ 9.30 น. บวกไป 4.1 ดอลลาร์ หรือ 4.19% อยู่ที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการขึ้นไปทะลุ 100 เหรียญอีกครั้งนับตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สงครามยูเครนล่วงเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว โดยที่รัสเซียยังไม่สามารถจบด้วยการยึดเมืองหลวง "กรุงเคียฟ" ได้ ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพิ่มแรงกดดันด้วยการสั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์ของรัสเซียอยู่ใน "สถานะแจ้งเตือนพิเศษ" ซึ่งถือเป็นสถานะการเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด เพื่อรับมือกับสิ่งที่รัสเซียอ้างว่าเป็นการรุกรานโดยกองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
ขณะที่ฝ่าย 6 ชาติพันธมิตรตะวันตกนั้น ได้เพิ่มการคว่ำบาตรรัสเซีย ด้วยการประกาศตัดธนาคารบางแห่งของรัสเซียออกจากระบบชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือ SWIFT โดยสหภาพยุโรป หรืออียู ระบุว่า “วิธีนี้ทำให้ธนาคารรัสเซียต้องถูกกันออกจากระบบการเงินสากล และเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการดำเนินการธุรกรรมในระดับโลก”
นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital และธนาคาร RBC ระบุว่า การคว่ำบาตรล่าสุดโดยตัดแบงก์รัสเซียออกจากระบบ Swift จะส่งผลกระทบต่อการค้าน้ำมันของรัสเซียทันที เพราะจะทำให้ธุรกรรมการซื้อขายน้ำมันผ่านแบงก์เป็นไปได้ยาก ขณะที่แบงก์หลายแห่งในยุโรปจะระวังตัว และอาจพิจารณาว่าการทำธุรกิจกับรัสเซียในช่วงนี้อาจไม่คุ้มต่อความเสี่ยงต่างๆ
ฝ่ายวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร ANZ คาดการณ์ว่า จะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในระยะสั้น นี้ ซึ่งซัพพลายในตลาดพลังงานยังตึงตัวอยู่ โดยส่วนหนึ่งเป็นเพราะกลุ่มประเทศโอเปกยังไม่ส่งสัญญาณเพิ่มการผลิตขึ้นมาก
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจับตาไปที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ หรือ Opec โดยในวันพุธที่ 2 มี.ค. นี้ กลุ่มโอเปกพลัส (Opec+) ที่รวมพันธมิตรนอกกลุ่มอย่าง "รัสเซีย" ด้วย จะประชุมเพื่อหารือเรื่องปริมาณการผลิตน้ำมันสำหรับเดือน เม.ย. โดยเบื้องต้นนั้น คาดว่าโอเปกพลัสจะยังคงแผนเดิมที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมัน 400,00 บาร์เรล/วัน แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสถานการณ์สู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ หรือไม่