ตัวเลขนักท่องเที่ยวเยือนสิงคโปร์ครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 1.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปี 2564 ถึง 12 เท่า ทำรายได้ให้กับประเทศสิงคโปร์ประมาณ 1,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี2565 ถือว่าเพิ่มขึ้น 213% ซึ่งการท่องเที่ยวสิงคโปร์คาดว่าตลอดปี 2565 นี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาเยือน 4-6 ล้านคน แม้ตัวเลขจะดีกว่าในปีที่ผ่านมาแต่ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ก็ยังไม่มากหากเทียบกับช่วงก่อนวิกฤติโรคโควิด-19 สิงคโปร์คาดว่า การท่องเที่ยวของประเทศจะกลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนโควิดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ขนาดพื้นที่ชองสิงคโปร์ราว 730 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณครี่งนึงของกรุงเทพมหานคร (1500 ตร.กม.) แม้มีพื้นที่ขนาดเล็กแต่ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญในการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของสิงคโปร์เลยแม้แต่น้อย เห็นได้จากปี 2565 นี้สิงคโปร์เตรียมอัดกิจกรรมแน่นมากกว่า 100 กิจกรรมเพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวที่ซบเซาในช่วงโควิด 19 ให้กลับมาคึกคักสร้างรายได้ให้ประเทศอีกครั้ง แถมแต่ละกิจกรรมชูความเจริญของประเทศระดับโลกอีกด้วย
หนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่บ่งบอกถึงความเจริญระดับโลก คือ การเป็นประเทศแรกในอาเซียนทีได้เป็นเจ้าภาพจัด Tour de France แบบระยะสั้น หรือประเภทไครทีเรียม โดยคณะผู้จัดงานเปิดเผยว่า งาน The Tour de France Prudential Singapore Criterium จะจัดขึ้นช่วงวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้ ที่สนามแข่งขันที่ออกแบบมาพิเศษ อยู่ใจกลางเมืองรองรับนักปั่น 32 คน จาก 8 ทีมปั่นระดับมืออาชีพที่ดีที่สุดในโลก รวมถึงนักปั่นชาวอังกฤษอย่าง Mark Cavendish ซึ่งครองสถิติร่วมในการคว้าแชมป์สเตจของจักรยานทางไกล Tour de France มากที่สุดถึง 34 สนาม
.
การแข่งขัน Tour de France นั้น เหล่านักปั่นชั้นยอดต้องผ่านบททดสอบอันแสนทรหด ด้วยการปั่นจักรยานครอบคลุมระยะทาง 3,500 กิโลเมตร ภายใน 3 สัปดาห์ กว่าจะได้เข้าเส้นชัย ซึ่งการแข่งขันประเภทไครทีเรียมนั้นเป็นการแข่งจักรยานระยะสั้น จัดในสนามแบบปิดเหมาะกับสภาพเส้นทางของสิงคโปร์
การแข่งขัน Tour de France Prudential Singapore Criterium จะประกอบด้วยการแข่งขันสำหรับทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น และคาดว่าจะสามารถเข้าถึงผู้ชมหลายล้านคนผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก ซึ่งผู้สนับสนุนหลักคือบริษัทประกันชีวิต Prudential ของสิงคโปร์ และประชาสัมพันธ์งานโดย TEG Sport ร่วมกับ Evoke EXP
คีธ ตัน (Keith Tan) ผู้บริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ หนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน บอกว่า การเป็นเจ้าภาพจัดงาน Tour de France ช่วยตอกย้ำภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ในฐานะที่เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำทางด้านกีฬาในภูมิภาคนี้ และยิ่งสิงคโปร์เปิดรับนักท่องเที่ยวมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะจัดงานต่างๆได้มากขึ้นอีก
การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวันในสิงคโปร์ประจำปี 2565 (Formula 1 Singapore Grand Prix 2022) ซึ่งโดยปกติแล้วการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง SINGAPORE GRAND PRIX จัดกัยมาตั้งแต่ปี 2008 สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดวางผังสนามให้วิ่งผ่านจุดสำคัญใจกลางเมืองสิงคโปร์ นอกจากนี้สนามแข่งรถ Marina Bay Street Circuit ยังเป็นสนามแข่งขันในเวลากลางคืน (Night Race) ที่ทางการสิงคโปร์รวมกิจกรรมความบันเทิงยามค่ำคืนเข้าไปด้วย ทั้งการแสดงคอนเสิร์ต อาหาร และกิจกรรมอีกเพียบ
นอกจากจะวางยุทธศาสตร์ศูนย์กลางการจัดงานแข่งขันกีฬาระดับโลกแล้ว ปีนีสิงคโปร์จะมีการปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งให้ดีขึ้น อย่าง อุทยานนรกสวรรค์ ณ ฮอว์ปาร์ วิลลา (Hell’s Museum at Haw Par Villa) พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมสิงคโปร์ (Museum of Ice Cream Singapore) สกายเฮลิกซ์ เซ็นโตซ่า (SkyHelix Sentosa) และนิทรรศการตะลุยดาวแพนโดราในโลกของภาพยนตร์อวตาร ณ การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Avatar: The Experience at Gardens by the Bay) จะกระตุ้นความสนใจให้นักท่องเที่ยวให้เดินทางมายังสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน
นายคีธ ตัน ประธานบริหารการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ให้รายละเอียดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาสิงคโปร์ในครึ่งแรกของปี 2565 สูงสุด 5 อันดับแรก มาจากประเทศอินโดนีเซีย 282,000 คน, อินเดีย 219,000 คน, มาเลเซีย 139,000 คน, ออสเตรเลีย 125,000 คน และฟิลิปปินส์ 81,000 คน คิดเป็น 56% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามา โดยนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย เพิ่มขึ้นกว่า 2,000% อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นกว่า 1,996% และอินเดีย เพิ่มขึ้นกว่า 1,344% ถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนมากที่สุด
นอกจากนี้ระยะเวลาที่นักท่องเที่ยวพักอยู่ในสิงคโปร์ก็เพิ่มขึ้นเท่าตัว คือเฉลี่ยการเข้าพัก 7.1 วัน เทียบกับ 3.4 วัน เมื่อปี 2562 และรายได้จากการท่องเที่ยวในไตรมาสแรกของปี 2565 ก็สูงถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือเพิ่มขึ้น 213% จากปีก่อนหน้า รายได้ส่วนใหญ่มีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยรายได้จากการค้าปลีกเพิ่มขึ้น 373% และรายได้จากห้องพักและโรงแรมเพิ่มขึ้น 344% ซึ่งทำสถิติเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีก่อน
สิงคโปร์ นับเป็นประเทศที่มีความเจริญทางเศรษฐกิจอันดับ 1 ของอาเซียนและอยู่อันดับต้นๆ ของโลก หากดูรายได้ต่อหัวประชากรสูงกรในปี 2021 สูงกว่าสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เยอรมัน ด้วยซ้ำโดยอยู่ที่ราว 72,794 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้เพราะจำนวนประชากรสิงคโปร์มีไม่ถึง 6 ล้านคนทั้งประเทศ แต่ก็ถือเป็นศูนย์กลางการเงินที่ใหญ่ในภูมิภาคก็ว่าได้
ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ต่างก็เป็นสิ่งที่ท้าทายทุกประเทศรวมถึงสิงคโปร์ด้วยเช่นกัน