Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เปิดใจ กิตติรัตน์ หากได้เป็นประธานบอร์ดธปท. จะทำให้ดีและมีธรรมาภิบาล
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เปิดใจ กิตติรัตน์ หากได้เป็นประธานบอร์ดธปท. จะทำให้ดีและมีธรรมาภิบาล

20 ธ.ค. 67
17:39 น.
|
331
แชร์

ชื่อของ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” ถูกพูดถึงอย่างมากในปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณกิตติรัตน์
ได้รับการเสนอชื่อจากกระทรวงการคลังให้เข้ามาชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึมต่อเนื่องระหว่างแนวคิดด้านนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาล จนมีกระแสห่วงใยความเป็นอิสระในการทำงานของแบงก์ชาติ หากว่าคุณกิตติรัตน์เข้ามานั่งในตำแหน่งนี้

ความคืบหน้าของการคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเสนอและพิจารณาจากคณะรัฐมนตรี แต่จากกระแสความห่วงใยที่เกิดขึ้นทำให้การขึ้นเวทีเสวนาในหัวข้อ “50 ปีตลาดหลักทรัพย์ฯกับความท้าทายในยุคสมัย” ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจัดขึ้น โดยมีคุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่ง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคนที่ 9  มาร่วมบรรยาย พร้อมด้วย คุณสุเทพ พีตกานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) จึงเป็นเวทีที่ได้ฟังมุมมองของคุณกิตติรัตน์ หากได้เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติจะมีแนวทางการทำงานอย่างไร? แนวคิดเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ย , เศรษฐกิจไทย ในฐานะที่เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมาแล้ว 

หากได้เป็นประธานบอร์ด ธปท.จะทำให้ดีและมีธรรมาภิบาล 

“บุคคลอย่าง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ถ้าหากได้เข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย  ท่านว่าผมจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเชื่อมั่นเชื่อถือน้อยลงหรือ?ผมต้องทำให้ดีมีธรรมาภิบาล มุ่งมั่น ซื่อตรง โปร่งใส คำนึงถึงความเสี่ยง  ใส่ใจอธิบาย ในสิ่งที่คิดว่าควรจะจะต้องทำ”

กิตติรัตน์ ณ ระนอง

คำพูดช่วงหนึ่งของคุณกิตติรัตน์หลังใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการเสวนา “50 ปีตลาดหลักทรัพย์ฯกับความท้าทายในยุคสมัย” แน่นอนว่าประเด็นการเข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท.เป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจ ซึ่งคุณกิตติรัตน์ ได้บอกว่า สถานะปัจจุบันเป็นเพียงผู้ที่ยอมรับการเสนอชื่อ และยอมให้ตรวจสอบคุณสมบัติ เท่านั้นซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถระบุว่าเวลาได้แน่ชัดว่า กระบวนการรมว.คลังเสนอรายชื่อให้ ครม.พิจารณาจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ 

ความกังวลที่เกรงว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะโดนแทรกแซง คุณกิตติรัตน์ ตอบว่า ประธานบอร์ดแบงก์ชาติไม่มีหน้าที่หรืออำนาจสั่งการใดๆ โดยเฉพาะไปสั่งคณะกรรมการทั้ง 3 คณะภายใต้ ธปท.แต่ประธานกรรมการ ธปท.จะเป็นคนเชื่อมทั้ง 2 นโยบาย

คุณกิตติรัตน์ เล่าว่า หลังจากลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตนเองก็ได้เข้าไปทำงานด้านศึกษาอยู่หลายปี หากวันนี้จับพลัดจับผลูได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติจริง ตนเองจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเชื่อมั่นเชื่อถือน้อยลงหรือ? ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะทำอะไร แต่ต้องทำให้ดี ทำให้มีธรรมาภิบาล มุ่งมั่น ซื่อตรง โปร่งใส คำนึงถึงความเสี่ยง  ใส่ใจอธิบาย ในสิ่งที่คิดว่าควรจะจะต้องทำ” ต้องเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความคาดหวังอันเป็นธรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ซึ่งหมายถึงผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งในปัจจุบัน และผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทยในอดีต ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์ ผลกระทบ ทั้งทางบวกทางลบ จากนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือคณะกรรมการนโยบายการเงิน คณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน คณะกรรมการนโยบายระบบชำระเงินด้วย

อยากเห็นดอกเบี้ยลดลงตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เห็น

ส่วนมุมมองเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งการประชุมครั้งล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.25% นั้นคุณกิตติรัตน์ ระบุว่า เคารพการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย แต่คำถามที่ว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยากเห็นในปี 2568 ควรอยู่ในระดับใด คุณกิตติรัตน์ระบุว่า เคยได้มีการโพส Facebook ตั้งแต่ 5ธ.ค.2566 ถึงเรื่องอัตราดอกเบี้ย ที่ควรลดลงให้เร็วและแรงเพื่อเป็นหนทางของการป้องกันหายนะ  

กิตติรัตน์ ณ ระนอง

อย่างไรก็ตามมีการเปรียบเทียบว่า เรื่องดอกเบี้ยนโยบายเหมือนยาที่เหลืออยู่ กับเศรษฐกิจไทยที่เหมือนผู้ป่วยว่า “เราเคยมียาอยู่ 8 เม็ด เพื่อรักษาโรคที่เราเป็นอยู่ บังเอิญเรากินยาไปแล้ว 1 เม็ด เหลือยาอีก 7 เม็ด คณะแพทย์ซึ่งเปรียบเหมือน กนง.เลือกที่จะไม่กินยาอีกเก็บยาไว้ก่อน ทั้งที่กินอีกได้ อยากให้เห็นใจเพราะถ้ากินยาไปอีกเม็ดก็ยังเหลือยาอีกตั้ง 6 เม็ด ดังนั้นหากจะกินจริงๆก็กินได้ แต่เลือกที่จะไม่กิน แต่หากวันนี้เหลือยาแค่ 2 เม็ดแล้วเลือกที่จะไม่กิน จะเข้าใจได้มากกว่านี้ 

ดอกเบี้ยนโยบายเป็นส่วนหนึ่ง แต่วันนี้คุณกิตติรัตน์มองว่า อัตราดอกเบี้ยในฝั่งของเงินกู้ สินเชื่อ หรือ บัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ ก็ยังอยู่ในระดับสูงมาก หากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงจะส่งผลดีทำให้ความเสี่ยงหนี้เสีย และการตั้งสำรองหนี้สูญปรับลดลง ส่งผลดีต่อธนาคารที่สามารถดึงกลับมาเป็นรายได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงควรมีการหารือกันต่อไป 

กิตติรัตน์ ณ ระนอง

ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุค Lost Decade - เศรษกิจตกต่ำยาวนาน 

ความท้าทายของเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ในมุมมองของคุณกิตติรัตน์ คือ ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวต่ำยาวนานต่อเนื่องเป็นทศวรรษ กระทบกับแรงงาน เด็กจบใหม่ คนทำงานที่ค่าครองชีพสูง หนี้ครัวเรือนสูง หากเราไม่ทำอะไรเลยดึงเศรษฐกิจให้ลงไปอีก ทุกฝ่ายจึงต้องร่วมมือกัน ถ้าเราต้องการผลลัพธ์ใหม่ เราต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ซึ่งไม่ได้ความว่าจะต้องไปคาดคั้นนโยบาบการคลัง การเงิน เท่านั้น แต่ต้องทำทุกภาคส่วนให้ดีขึ้นกว่าเดิม เราต้องเพื่มประสิทธิภาพการผลิต ภาคอุตสาหรรม ภาคบริการให้ดีขึ้นกว่าเดิม 

จากในอดีตที่เราเกี่ยงกันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรี่องของตัวเองจะไม่ทำ ตอนนี้ต้องร่วมมือกันทำทั้งระดับประเทศ ระดับนโยบาย ผู้ประกอบการ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการบริหารเศรษฐกิจต้องช่วยกัน โดยเฉพาะสมาคมตลาดทุน หอการค้าไทย สมาคมธนาคารไทย สมาคมแบงก์รัฐ ต้องมีการหารือร่วมกันช่วย กันทำให้ประเทศไทยมีโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้น

ติดตามเนื้อหาคลิปวิดีโอ คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง ทาง SPOTLIGHT เร็วๆนี้ 

แชร์
เปิดใจ กิตติรัตน์ หากได้เป็นประธานบอร์ดธปท. จะทำให้ดีและมีธรรมาภิบาล