‘ประเทศญี่ปุ่น’ จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไทยอยากเดินทางไปมากที่สุด จากการจัดอันดับของหลายสำนัก แต่มาตรการการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวไทยเข้าไปประเทศได้เพียงหลักพันคนต่อเดือน จากระดับแสนคน! หลังการเปิดให้เข้าประเทศได้แบบไม่ต้องมีไกด์ทัวร์ในเดือนตุลาคม คนไทยก็ได้เดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า สู่ระดับกว่า 3 หมื่นคนอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่า ญี่ปุ่นคือเป้าหมายในดวงใจของใครหลายคน
2 ช่วงวันหยุดยาวที่เหมาะกับการไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบฟินๆ ก็คือช่วง ‘ปีใหม่ 2566’ ที่เราจะได้หยุดตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2565 - 2 มกราคม 2566 และช่วง ‘สงกรานต์ 2566’ ตั้งแต่วันที่ 13 -17 เมษายน 2566 แต่ราคาตั๋วอาจร้อนแรงเพราะคนแย่งกันไปเที่ยว และยังเป็นช่วงเทศกาลอีกด้วย Spotlight ได้ไปรวบรวมราคาตั๋วเครื่องบินจาก 5 สายการบิน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และสงกรานต์ 2566 มาเป็นตัวช่วยตัดสินใจวางแผนไปเที่ยวมาให้แล้ว
ส่องราคาตั๋วไปญี่ปุ่นช่วงปีใหม่ 2556 - สงกรานต์ 2566
สำหรับราคาค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ (ชั้นประหยัด) ตรวจสอบล่าสุด ณ วันที่ 24 พ.ย. 2565 จากเว็บไซต์ Traveloka, Airpaz และ Airasia เป็นดังนี้
สายการบิน |
ปีใหม่ 2566 |
สงกรานต์ 2566 |
37,934.9 - 115,038.05 |
41,225.75 - 44,763.8 |
|
การบินไทย (บินตรง) |
88,944.55 - 104,234.3 |
131,940.65 - 154,470.2 |
All Nippon AIrways (บินตรง) |
136,870 |
82,915 - 86,452.5 |
Japan Airlines (บินตรง) |
33,523 - 43,208 |
33,033 - 49,215.67 |
AirAsia (เปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้ง) |
27,997.42 - 30,275.44 |
25,212.23 - 29,944.16 |
Scoot (เปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้ง) |
37,934.9 - 115,038.05 |
41,225.75 - 44,763.8 |
ข้อมูลที่หยิบมานำเสนอนั้น คัดเลือกมาเฉพาะสายการบินที่มีเที่ยวบินบินตรงไปยังประเทศญี่ปุ่น หรือ เปลี่ยนเครื่อง 1 ครั้ง ในสายการบินเดิมเท่านั้น ยังมีตัวเลือกเปลี่ยนเครื่องหลายต่อ และเปลี่ยนเครื่องข้ามสายการบิน ซึ่งอาจมีราคาที่แตกต่างไปจากนี้ และอาจใช้เวลาเดินทางรวมตั้งแต่ 13 ชั่วโมง ไปจนถึง 44 ชั่วโมง!
ใครที่อยากวางแผนเดินทางไปญี่ปุ่น ควรตรวจเช็คเส้นทางการบิน เวลาเดินทางที่ต้องการได้ที่เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบินก่อนวางแผนเดินทางอีกครั้ง ซึ่งอาจมีราคาตั๋วแตกต่างไปจากข้อมูลที่ Spotlight หยิบมานำเสนอ
แม้ในช่วงการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา ประเทศที่ขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยว และการส่งออกซอฟต์พาวเวอร์อย่างประเทศญี่ปุ่น จะสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวไปกว่า 4 ล้านล้านเยน แต่สำนักงานการท่องที่ยวญี่ปุ่น (JTA) ก็มีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้กลับมาเป็นปกติดังก่อนช่วงโควิด ภายในปี 2568 ซึ่งในปีนี้เอง ญี่ปุ่นจะได้เป็นเจ้าภาพงาน ‘Expo 2025’ ที่เมืองโอซากา และงาน World Athletics Championship ในกรุงโตเกียว
โดยในปี 2573 รัฐบาลญี่ปุ่นคาดหวังว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นมากถึง 60 ล้านคน นับเป็นเกือบ 2 เท่าจากจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2562 และเป็น 240 เท่า จากยอดนักท่องเที่ยว 2.5 แสนคนในปี 2564 ที่ประเทศมีการล็อกดาวน์
หนึ่งความท้าทายที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ คือ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการท่องเที่ยว ซึ่งกำลังค่อยๆ กลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากในช่วงที่การท่องเที่ยวยังซบเซานั้น ธุรกิจหลายแห่งได้เลิกจ้างพนักงานบางส่วน แต่ในอนาคตอันใกล้นี้ ตลาดแรงงานญี่ปุ่นจะมีการแข่งขันแย่งตัวแรงงานมีความสามารถอย่างดุเดือดมากขึ้น โดยการจ้างงานภาคธุรกิจโรงแรมและการเดินทางในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนแล้วถึง 6 เท่า
อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยอื่นที่กดดันการจ้างงานของญี่ปุ่นอยู่ ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลก และสังคมผู้สูงวัย ฮิซาชิ ยามาดะ รองประธานสถาบันวิจัยญี่ปุ่น (JIR) ระบุว่า ปัญหาขาดแคลนแรงงานมาจากปัจจัยเชิงโครงสร้างประชากร คืออัตราการเกิดของญี่ปุ่นที่ต่ำลง ขณะที่ปัจจัยในเชิงเศรษฐกิจก็สร้างความเสี่ยงเช่นกัน ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ เงินเยนอ่อนค่า และสงครามยูเครน ที่ล้วนกดดันให้ธุรกิจสามารถจ้างงานได้น้อยกว่าที่วางแผนเอาไว้
ที่มา : Traveloka, Airpaz, Airasia