ลุ้นของขวัญปีใหม่พรุ่งนี้ มีมาตรการอะไรเข้า ครม. 20 ธ.ค. นี้บ้าง?

ลุ้นของขวัญปีใหม่จากรัฐ 'ช้อปดีมีคืน-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ' มีมาตรการอะไรเข้า ครม. 20 ธ.ค. นี้บ้าง?

หลังจากที่เลื่อนมาแล้วหลายครั้ง ในที่สุด "มาตรการของขวัญปีใหม่" จากกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ก็ได้ถูกบรรจุเป็นวาระการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว โดยจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 20 ธ.ค.2565 ซึ่งมีมาตรการหลักๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้ 

 

ช้อปดีมีคืน เฟส 4

กระทรวงการคลัง เสนอโครงการ "ช้อปดีมีคืน"เฟส 4 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเป็นอีกหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการซื้อสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ ที่จดทะเบียนในประเทศไทย 

รายละเอียดหลักๆ ของ "ช้อปดีมีคืน"เฟส 4 คือ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 40,000 บาท จากการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ยกเว้น 7 กลุ่มสินค้าและบริการหลักๆ ได้แก่  1. สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ/ 2. รถยนต์ จักรยานยนต์ เรือ/ 3. หนังสือพิมพ์และนิตยสาร/ 4. อีบุ๊ก/ 5. ที่พักโรงแรม/ 6. ค่าไกด์นำเที่ยว ค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ (น้ำ ไฟ โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต)/ และ 7. ค่าเบี้ยประกัน

สำหรับการนำใบกำกับภาษีไปลดหย่อนนั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1.ใบกำกับภาษีแบบกระดาษ ลดหย่อนสูงสุด 30,000 บาท 2. ใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดหย่อนสูงสุด 10,000 บาท

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม แก่ผู้มีรายได้น้อยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงกลุ่มเปราะบาง อาทิ การให้รางวัลพิเศษสำหรับสลากออมสิน รวมถึงมอบของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าสินเชื่อที่มีวินัยผ่อนชำระดีจะได้รับเงินคืนเข้าบัญชี 500-1,000 บาท

 

ขยายอายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย

กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ขยายอายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ที่จะสิ้นสุดปลายปีนี้ออกไปอีก 1 ปี โดยลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% ลงเหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจำนองจาก 1% ลงเหลือ 0.01% ครอบคลุมที่อยู่อาศัยใหม่และมือสอง ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ และห้องชุด 

 

ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิง

กระทรวงการคลัง จะเสนอให้ขยายเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้ในประเทศ เหลือลิตรละ 0.20 บาท จากเดิมสิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และลดค่าครองชีพให้ประชาชนที่เดินทางไม่ให้เสียค่าโดยสารที่สูงจนเกินไป

 

เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 + ปิดสถาบันเทิง ตี 4

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอมาตรการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 5 จำนวน 1.5 ล้านสิทธิ ให้ส่วนลดค่าเข้าพักในโรงแรม 40% อีก 60% ประชาชนจ่ายเอง รวมถึงคูปองส่วนลดอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 600 บาทต่อห้องต่อคืน 

หากผ่านมติ ครม.  คาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ได้ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ส่วนวันเวลาอย่างเป็นทางการ จะต้องรอประกาศความคืบหน้าจาก ททท. อีกครั้ง รวมระยะเวลาใช้สิทธิโดยประมาณ 6 เดือน

นอกจากนี้ กระทรวงฯ ยังเสนอให้ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึง 04.00 น.จากเดิม 02.00 น. ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเศรษฐกิจในภาคกลางคืน 

 

ต่อมาตรการอุ้ม "ค่าก๊าซ-ค่าไฟ"

กระทรวงพลังงาน จะเสนอให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 ม.ค.2566

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) คงราคาขายปลีกก๊าซ NGV สำหรับรถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกันของ ปตท.ไว้ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนรถยนต์ทั่วไปปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV จาก 16.59 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 17.59 บาทต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.2565-15 มี.ค.2566

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอผลการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ประจำงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ในอัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟ(บ้าน) ยังจ่ายค่าไฟเท่าเดิมที่ 4.72 บาทต่อหน่วย ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย จะทำให้มีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วย

 

ให้ประชาชนได้ใช้ "รถเมล์อีวี"

กระทรวงคมนาคม จะเสนอการปรับปรุงบริการสาธารณะ เช่น การเปลี่ยนรถเมล์ ขสมก. จากรถเก่าเป็นรถพลังงานไฟฟ้า (อีวี) รถโดยสารใหม่ โดยปี 2566 จะได้ใช้รถเมล์อีวีใหม่ 1,250 คัน และมีเป้าหมายจะนำรถเมล์ไฟฟ้ามาให้บริการเพิ่มต่อเนื่อง รวมประมาณ 8,000 คัน ภายใน 3 ปี

รถเมล์อีวีใหม่ สามารถให้บริการผู้โดยสารที่ใช้ Wheel Chair, มีการติดตั้งระบบติดตาม GPS, ติดตั้งและใช้ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket System), ติดตั้งระบบ CCTV เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร

 

งดเก็บค่าทางด่วน-มอเตอร์เวย์

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะเสนอยกเว้นการจัดเก็บค่าทางด่วน เส้นทางบูรพาวิถี และทางด่วนกาญจนาภิเษก (บางพลี–สุขสวัสดิ์) รวมถึงทางด่วนเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุดรรัถยา

ส่วนกรมทางหลวง จะให้บริการวิ่งฟรีชั่วคราวบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 (M6) สายบางปะอิน-นครราชสีมา ช่วงปากช่อง-สีคิ้ว-ขามทะเลสอ ระยะทาง 64 กิโลเมตร เช่นเดียวช่วงเทศกาลที่ผ่านมา

รวมถึงยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 กรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ตอนกรุงเทพมหานคร-เมืองพัทยา และมอเตอร์เวย์ หมายเลข 9 ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร (ถนนกาญจนาภิเษก) ตอนบางปะอิน-บางพลี และตอนพระประแดง-บางแค ช่วงพระประแดง-ต่างระดับบางขุนเทียน