สัญญาณเศรษฐกิจปี 2568 ส่อเค้าน่าเป็นห่วงเมื่อตัวเลขการยื่นล้มละลายของภาคธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลกอยู่ในระดับสูง ล่าสุดข้อมูลจากบริษัทวิจัย Tokyo Shoko Research หรือ TSR ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การยื่นขอล้มละลายในญี่ปุ่นปีนี้มีแนวโน้มทะลุ 10,000 รายและได้ทำลายจุดสูงสุดใหม่แล้วหลังจากเคยมีการยื่นละลายของธุรกิจ 10,855 รายในปี 2013 ตัวเลขการยื่นล้มละลายของปี2024 จึงถือว่าสูงสุดในรอบเกือบ 10 ปี
โดยจำนวนธุรกิจล้มละลายในญี่ปุ่นเดือนพฤศจิกายนเดือนเดียวมีทั้งหมด 841 ราย ส่งผลให้ยอดรวมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายนปี 2024 อยู่ที่ 9,164 ราย ซึ่งสูงกว่ายอดรวมของปีที่แล้ว
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังคงเปราะบาง เห็นได้จากตัวเลข GDP ไตรมาสที่ 3 ปีนี้ที่ยังมีสัญญาณของการชะลอตัวอยู่โดยเฉพาะการบริโภคและการลงทุนที่ยังเปราะบางโดยGDP ไตรมาส 3 ญี่ปุ่นขยายตัว 1.2% ต่อปี เพิ่มขึ้นกว่าประมาณการเดิมที่ 0.9%
อย่างไรก็ตามตัวเลขการยื่นล้มละลายของธุรกิจในญี่ปุ่นที่สูงขึ้นนี้ได้ถูกเผยแพร่ก่อนหน้าการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือ BOJ เพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ซึ่งBOJมีกำหนดประชุมทบทวนอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 18-19 ธันวาคมนี้ ซึ่งที่ประชุมจะพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดอย่างละเอียดเพื่อดูว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์หรือไม่ โดยในตลาดการเงินคาดหวังเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของ BOJ เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่างเดือนธันวาคมปีนี้หรือมกราคมปีหน้า
ทั้งนี้หากดูภาพรวมของการยื่นล้มละลายของธุรกิจทั่วโลก อ้างอิงข้อมูลจาก Allianz Trade ที่คาดการณ์ว่า การล้มละลายของธุรกิจทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 11% ในปี 2024 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 7% ในปี 2023 โดยธุรกิจในเอเชียมีแนวโน้มล้มละลายเพิ่มขึ้น 3% ในปี 2024 แต่หากไม่รวมจีน แนวโน้มธุรกิจล้มละลายอาจเพิ่มขึ้นถึง 8%
อย่างไรก็ตาม มีบางประเทศที่คาดว่าการล้มละลายจะลดลง ได้แก่ อินเดีย ไต้หวัน แอฟริกาใต้ และตุรกี โดยตุรกีจะมีการลดลงมากที่สุดถึง 43% ซึ่ง Allianz Trade มองว่า ประเทศเหล่านี้มีสัดส่วนเศรษฐกิจโลก (GDP) เพียงเล็กน้อย จึงส่งผลกระทบในวงจำกัดต่อแนวโน้มการล้มละลายโดยรวม
ทั้งนี้อเมริกาเหนือจะเป็นภูมิภาคที่คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของการล้มละลายสูงที่สุดในปี 2024 ที่ 32% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตามมาด้วยยุโรปตะวันตกที่ 14% ละตินอเมริกาที่ 11% และยุโรปกลางและตะวันออกที่ 8% โดยสองในสามของประเทศคาดว่าจะมีจำนวนการล้มละลายสูงกว่าระดับก่อนการระบาด โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส
สำหรับดัชนีการล้มละลายทั่วโลก (Global Insolvency Index) คาดว่าจะสิ้นสุดปี 2024 สูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2016 ถึง 2019 ราว 10% ถึง 15% แต่ยังคงต่ำกว่าระดับในช่วงวิกฤตการเงินโลก (Great Financial Crisis) ประมาณ 11%
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การล้มละลายเพิ่มขึ้น คือ หลายบริษัทประสบปัญหาหลังเคยได้รับการคุ้มครองจากมาตรการช่วยเหลือในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และวิกฤตพลังงาน โดยภาคการก่อสร้าง ค้าปลีก และบริการ เป็นกลุ่มที่มีการเพิ่มขึ้นของการล้มละลายมากที่สุด โดยเฉพาะธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งทำสถิติการล้มละลายสูงสุดในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก
อีกไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ปี 2025 กันแล้วจากข้อมูลของ Allianz Trade คาดว่าการล้มละลายของธุรกิจอาจจะเพิ่มขึ้นอีก 2% ในปี 2025 จากปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ และการผ่อนคลายเงื่อนไขการเงินที่ล่าช้า
ที่มา Reuter , Asian Business Review