ในช่วงนี้กระแสของ Soft Power กำลังมาแรง ทั้งนโยบายของรัฐบาลใหม่ในการผลักดัน Soft Power อย่างนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power หรือกระแสภาพยนต์หนังไทยอย่าง ‘สัปเหร่อ’ และ ‘ธี่หยด’ ที่ส่งเสริมวิถีท้องถิ่นไทย ให้กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งด้วยการใช้ Soft Power เข้าไปในหัวใจคน
เช่นเดียวกันกับละครไทยย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์อย่าง บุพเพสันนิวาส ที่เคยได้ออนแอร์ไปเมื่อปี 2561 ได้สร้างปลุกกระแสนิยมความเป็นไทย และสร้างปรากฎการณ์นักท่องเที่ยวไทยหันมาสนใจท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันมากขึ้น
ล่าสุด พรหมลิขิต ละครภาคต่อสู่รุ่นลูกของบุพเพสันนิวาส เพิ่งมีการออนแอร์ไปเพียง แค่ 7 ตอน เท่านั้น แต่สร้างสียงฮือฮาต่อแฟนๆที่รอคอย นอกจากจะชมความสนุกของละครแล้วละคร พรหมลิขิต ยังมีการนำเสนอ อาหารไทย หลากหลายเมนูแนบเนียนในกับตัวละครในเรื่องจนแฟนๆตามดูว่า วันนี้แม่การะเกด หรือแม่พุดตาน จะทำเมนูอาหารชวนหิวอะไรออกมา
จนสามารถกล่าวได้ว่า ‘พรหมลิขิต’ เป็นหนึ่งในละครที่ช่วยผลักดัน Soft Power ไทยให้แข็งแกร่ง โดยการใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรมเชื้อเชิญ ให้ผู้คนมาสนใจและอยากทำตามได้อย่างง่ายดาย
ทีม SPOTLIGHT ได้รวบรวม 15 เมนูอาหารสุดเด็ด จากเรื่องพรหมลิขิต ผลักดัน Soft Power ด้วยอาหารไทยชวนหิว
‘หมูกระทะ’ เมนูโปรดของใครหลายๆคน ด้วยความที่ทุกคนเข้าถึงง่าย วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก มีให้เลือกครบทั้งย่างหรือต้ม รสชาติอร่อย กินพร้อมน้ำจิ้มสุดเด็ด ที่ไม่ว่าเทศกาลวันฉลองไหนๆ หรือแม้กระทั่งวันธรรมดา ‘หมูกระทะ’ กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตของคนไทยไปแล้ว
ซึ่งในละคร หมูกระทะ มักเป็นเมนูอาหารคุ้นตาตั้งเเต่สมัยบุพเพสันนิวาส มาจนถึงละคร พรหมลิขิต เราก็ยังคงเห็นเเม่หญิงการะเกดมักทําหมูกระทะกินกับลูกๆเป็นประจํา เช่นใน EP 2
อย่างไรก็ตาม จุดกำเนิดของหมูกระทะ ยังคงไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามาจากที่ไหน มีเพียงแต่การสันนิษฐานจาก 3 แหล่ง นั้นก็คือ
ส่วนประเทศไทย มีหลักฐานว่า ‘หมูกระทะ’ ได้เข้ามาในไทยในช่วงปี พ.ศ. 2500 โดยเริ่มเสิร์ฟในภัตตาคาร ในชื่อ ‘เนื้อย่างเจงกิสข่าน’ และขยายมาสู่เนื้อย่างเกาหลี จนกลายาเป็นหมูกระทะในปัจจุบัน
ไข่เจียว เมนูยอดฮิตประจำครัวไทยทุกบ้าน ใช้เพียงเครื่องปรุงไม่มาก สามารถปรับแต่งใส่ผัก หรือ เนื้อสัตว์ ได้ตามใจชอบ
ในละครพรมหลิขิต เมนูไข่เจียวกุ้ง ปรากฎขึ้นมาตอนที่ลูกๆของเเม่หญิงการะเกดได้กลับมารวมตัวที่บ้านอีกครั้งใน EP 3
เชื่อกันว่าจุดกำเนิดของไข่เจียวมาจากชาวโรมัน โดยการนำไข่กับน้ำผึ้งหวานผสมผสานให้เข้ากัน ในชื่อ ‘ovemele’ ซึ่งใกล้เคียงกับคำว่า ‘omelet’
ข้าวแมว หรือ ข้าวคลุกปลาทู หรือ ข้าวขยำปลาทู เป็นอาหารไทยชนิดหนึ่งที่ทำง่าย สะดวกรวดเร็ว และไม่ต้องใช้วัตถุดิบราคาแพง ประกอบไปด้วย ปลาทู (ทอด,นึ่ง,ย่าง) ข้าวสวย พริกขี้หนูซอย หอมแดงซอย แตงกวา ผักชี รับประทานคู่กับน้ำปลาพริก
สาเหตุที่เรียกว่า ข้าวแมว เพราะหากตัดวัตถุดิบออกเหลือเพียงแค่ข้าวกับปลา ก็จะคล้ายคลึงกับอาหารของแมวนั้นเอง
ในละครพรมหลิขิต เมนูข้าวแมว ปรากฎขึ้นมาตอนที่ลูกๆของเเม่หญิงการะเกดได้กลับมารวมตัวที่บ้านอีกครั้งใน EP 3
กุ้งเผาน้ำจิ้มซีฟู้ด เมนูอาหารทะเลสุดแซ่บ และจัดจ้าน ทำได้ง่ายในโอกาสพิเศษต่างๆ โดยการนำกุ้งแม่สดๆ ไปย่างจนสุกได้ที่ เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด
เมนูกุ้งเผาน้ำจิ้มซีฟู้ด อีกหนึ่งเมนูที่เราได้เห็นกันตั้งเเต่สมัยบุพเพสันนิวาส มาจนถึงละคร พรหมลิขิต EP 3 ก็ยังเป็นเมนูโปรดของคุณหญิงจําปา
ต้มยำปลาแรด เมนูตำต้มยำสุดคลาสสิก อาหารโปรดของสายรักสุขภาพ แคลอรี่ต่ำ มีรสที่จัดจ้าน เต็มไปด้วยเครื่องสมุนไพรแน่น
ในละครพรมหลิขิต ต้มยำปลาแรด ปรากฎขึ้นมาตอนที่ลูกๆของเเม่หญิงการะเกดได้กลับมารวมตัวที่บ้านอีกครั้งใน EP 3
ปลาทอดสามรส อาหารไทยรสชาติครบเครื่อง เข้มข้นทั้งรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด
ในละครพรมหลิขิต ปลาทอดสามรส ปรากฎขึ้นมาตอนที่ลูกๆของเเม่หญิงการะเกดได้กลับมารวมตัวที่บ้านอีกครั้งใน EP 3
น้ำพริกปลาย่าง เมนูน้ำพริกสายสุขภาพ อัดเน้นไปด้วยโปรตีนจากปลา ทานคู่กับผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน
ในละครพรมหลิขิต น้ำพริกปลาย่าง ปรากฎขึ้นมาตอนที่ลูกๆของเเม่หญิงการะเกดได้กลับมารวมตัวที่บ้านอีกครั้งใน EP 3
ขนมไทยโบราณ ที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ (แม่มะลิ) ภรรยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ (คอนสแตนติน ฟอลคอน) เป็นผู้คิดค้นขึ้น
โดย จดหมายเหตุฝรั่งเศสฉบับหนึ่ง บันทึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “…ภรรยาเป็น ท้าวทองกีบม้า ได้เป็นผู้กำกับการชาวเครื่องพนักงานหวาน ท่านท้าวทองกีบม้าผู้นี้เป็นต้น สั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวาน คือ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมขิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกงและสังขยา…”
ขนมฝีมือเเม่มะลิ เหล่าเเฟนๆมักจะได้เริ่มเห็นตั้งเเต่ละครบุพเพสันนิวาส มาจนละคร พรหมลิขิต เเม่มะลิก็มักทําขนมให้ลูกชายกินอยู่เป็นประจํา
ฝอยทอง หรือ ในภาษาโปรตุเกสคือ fios de ovos เป็นขนมมีลักษณะเส้นฝอยๆ สีทอง ทำจากไข่แดงของไข่เป็ด เคี่ยวในน้ำเดือดและน้ำตาลทราย ถือว่าเป็นขนมไทยโบราณที่เป็นขนมมงคล ตามความเชื่อของคนไทย เชื่อกันว่า หากกินแล้ว จะช่วยให้มีอายุยืนยาว เหมือนกับเส้นของฝอยทองอีกด้วย
ทองหยิบ ประยุกต์มาจากขนม Trouxas de ovos หรือ Trouxas das Caldas มีลักษณะคล้ายดอกไม้สีทอง ทำจากไข่แดงตีจนฟู แล้วนำไปหยอดลงในน้ำเชื่อมเดือด เมื่อสุกแล้วนำมาใส่ถ้วย จับจีบอย่างประณีตให้เหมือนกลีบดอกไม้ สื่อความหมายถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ทำการงานสิ่งใดก็จะร่ำรวยมีเงินมีทองใช้ไม่ขาดมือ หยิบเงินหยิบทองสมดังชื่อทองหยิบ
ทองหยอด ดัดแปลงมาจากขนม Ovos Moles มีถิ่นกำเนิดจากเมืองชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของโปรตุเกส มีลักษณะคล้ายหยดน้ำ ทำจากไข่แดงสีเหลือง แล้วนำไปหยอดลงในน้ำเชื่อมเดือดเช่นเดียวกันกับขนมทองหยิบ มีความหมายสื่อถึงทอง จึงมักนำมาใช้ประกอบในพิธีมงคลต่าง ๆ หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญ แทนคำอวยพรให้ร่ำรวยมีเงินมีทองใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมด
เม็ดขนุน เป็น ขนมที่จัดอยู่ในประเภทของทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง แต่ขนมเม็ดขนุนต่างจากเมนูอื่นตรงที่มีถั่วเขียวกวนเป็นส่วนผสม นอกจากนี้เม็ดขนุนยังสื่อความหมายมงคล ในแง่ของความสำเร็จ และมีคนสนับสนุนค้ำจุน
สำรับโต๊ะจีน สันนิษฐานว่ามาจากวัฒนธรรมการกินอาหารของคนจีน เพราะคนจีนมักอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินอาหารรวมกันแบบนั่งล้อมโต๊ะพร้อมหน้า โดยเป็นการกินไปพูดคุยกันไปในครอบครัว เช่นในละครพรมลิขิตใน EP 5
ปลาตะเพียนทอดกระเทียม เมนูปลาทอดที่ทำง่าย ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงเพียงไม่กี่อย่าง
ซึ่งเคล็บลับความอร่อยอยู่ที่การถอดเกล็ด ตัดครีบ และบั้งให้ถี่ ๆ ก้างจะได้ขาด เพื่อให้เวลาทอดน้ำมันจะแทรกซึมเข้าไปได้ดี ทำให้ปลากรอบไปทั้งตัวจนสามารถเคี้ยวได้ทั้งก้าง
ในละครพรมหลิขิต ปลาตะเพียนทอด ปรากฎขึ้นมาตอนที่เเม่หญิงพุดตานทําอาหารถวายขุนหลวงใน EP7
ยอดผักหวานผัดไข่ เมนูที่สุดแสนจะทำง่าย ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงไม่กี่ชนิด แถมผักหวาน ยังอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูงมาก ช่วยบำรุงร่างกาย และยังมีสารอนุมูลอิสระสูง มีฤทธิ์ในการต้านมะเร็ง ชะลอความแก่ชรา ช่วยเรื่องการขับถ่าย แก้ท้องผูก
ในละครพรมหลิขิต ยอดผักหวานผัดไข่ ปรากฎขึ้นมาตอนที่เเม่หญิงพุดตานทําอาหารถวายขุนหลวงใน EP7
ปลาช่อนเผาเกลือ อีกหนึ่งเมนูปลาที่ใช้เครื่องปรุงน้อยไม่ต้องหมัก หรือปรุงแต่งอะไรมาก แค่พอกเกลือให้ทั่วตัวปลา ดับกลิ่นคาวด้วยตะไคร้หรือผักสมุนไพรอื่นๆ นำไปย่างด้วยไฟกลาง พร้อมกินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด หรือเคียงด้วยน้ำพริกกับผักต้ม
ในละครพรมหลิขิต ปลาช่อนเผาเกลือ ปรากฎขึ้นมาตอนที่เเม่หญิงพุดตานทําอาหารถวายขุนหลวงใน EP7
พรหมลิขิต นับว่าเป็นตัวอย่าง Soft Power ไทยที่ดีและเห็นภาพชัด เนื่องจาก ละครออนแอร์มาเพียงไม่กี่ตอน แต่กลับสร้างกระแสให้เหล่าแฟนๆอยากจะเดินทางตามรอย สถานที่ถ่ายทำ หรือแม้กระทั่งทำอาหารตามแม่การะเกด และแม่พุดตานไปตามๆกัน จากการชื่นชอบตัวนักแสดง และบทละคร
ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลไทยได้มีการประกาศเเผนชอฟต์พาวเวอร์ไทยไปสู่สายตาโลก โดยการตั้งสํานักงาน Thailand Creative Content Agency เเละมีการเปิดอบรบให้ประชาชนมากกว่า 20 ล้านคน เเละพัฒนา 11 อุตสหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันนโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power
โดยมีเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้ประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาล หรือเพิ่มรายได้ให้คนไทย 20 ล้านครัวเรือนประมาณ 2 แสนบาทต่อปี หรือประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน
เช่นเดียวกันกับ Soft Powerของประเทศเกาหลีใต้ ที่ได้ใช้วัฒนธรรมความเป็นเกาหลีสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาหาร มาตรฐานความงามแบบเกาหลี หรือ ซีรีส์และศิลปินเกาหลี ทำให้ชาวโลกเปิดรับ “วัฒนธรรมเกาหลี” เข้ามาโดยไม่รู้ตัว