เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ที่ผ่านมาทาง หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ร่วมกับมูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) จัดประชุม Huawei Digital and Intelligent APAC Congress ขึ้นที่กรุงเทพฯ โดยงานครั้งนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา รวมถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ พันธมิตร และนักวิเคราะห์ มากกว่า 1,500 คน จาก 15 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและระบบอัจฉริยะเพื่อขับเคลื่อนภูมิภาคสู่ยุคดิจิทัล
ณ.ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองของระบบเศรษฐกิจดิจิทัล หลายประเทศและภูมิภาคเร่งพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัลและส่งเสริมนวัตกรรม หัวเว่ยมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับองค์กรพันธมิตรกว่า 100,000 รายในภูมิภาค ผ่านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งด้านศูนย์ข้อมูลและเครือข่ายชั้นนำ หัวเว่ยและพันธมิตรยังร่วมพัฒนา OpenLab ห้องปฏิบัติการนวัตกรรมร่วมทางด้าน 5G และแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าในภูมิภาค
นางซาบรีนา เมิ่ง รองประธาน ประธานหมุนเวียนตามวาระ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของหัวเว่ย กล่าวในพิธีเปิดงานว่า "เอเชียแปซิฟิกไม่เพียงเป็นภูมิภาคที่มีโอกาสมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ยังเป็นแบบอย่างสำหรับภูมิภาคอื่น ๆ ที่มุ่งสู่ยุคดิจิทัล หัวเว่ยรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ และพร้อมร่วมมือกับลูกค้าและพันธมิตรทุกท่านเพื่อพัฒนาการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับภูมิภาค"
เธอยังเน้นย้ำว่า "หัวเว้ยให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลควบคู่ไปกับภาคเศรษฐกิจจริงอย่างยั่งยืน"
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยถึงกลยุทธ์ดิจิทัลแห่งชาติ มุ่งเน้นพัฒนาประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะภายใต้แผนงาน "The Growth Engine of Thailand" เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล สำหรับแผนงาน "The Growth Engine of Thailand" ประกอบด้วยโครงการสำคัญ ดังนี้
“เป้าหมายหลักของเราคือการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย ช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขัน เสริมสร้างความปลอดภัยสำหรับธุรกรรมออนไลน์ และพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลของประเทศ” รัฐมนตรีประเสริฐกล่าว
นารายา เอส ซูปราปโต รองเลขาธิการแห่งสำนักงานเลขาธิการอาเซียน กล่าวเสริมว่า กรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (ASEAN Digital Economy Framework Agreement : DEFA) มุ่งเน้นการปลดล็อคศักยภาพด้านบริการดิจิทัลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการประมวลผลแบบคลาวด์ โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างอนาคตดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จสำหรับทั้งภูมิภาค
การเชื่อมต่อ การลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาทักษะ และการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ขับเคลื่อนอาเซียนสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
นายลีโอ เฉิน รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย และประธานฝ่ายธุรกิจการขายหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ ในฐานะกุญแจสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
“ปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังก้าวเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและความอัจฉริยะ” นายเฉินกล่าว “หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีและโซลูชันที่ครอบคลุมแบบ full-stack เพื่อปลดล็อกประสิทธิภาพ ยกระดับศักยภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรม”
ความเชี่ยวชาญและความร่วมมือ ด้วยที่ หัวเว่ย มีความเข้าใจเชิงลึกในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีที่ครอบคลุม โซลูชันที่ตรงจุด และความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า
“เรามีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับพันธมิตรกว่า 10,000 ราย ทั้งองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล พัฒนาศักยภาพ และสร้างอนาคตที่ชาญฉลาดให้กับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก”
นายไซมอน หลิน ประธานกรรมการบริหาร หัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวเพิ่มเติมว่า หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่าผู้ให้บริการโซลูชัน แต่เป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม และผู้สนับสนุนประจำแต่ละพื้นที่
“หัวเว่ยพร้อมที่จะสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผนวกรวมเทคโนโลยีเข้ากับภาคเศรษฐกิจและสังคมอย่างลึกซึ้ง ขับเคลื่อนความสำเร็จ และเร่งพัฒนาให้ภูมิภาคนี้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลที่แท้จริง” นายหลินกล่าว
หลังจากการประชุมในครั้งนี้ หัวเว่ยมีกำหนดจัดการประชุมอีก 4 งาน ได้แก่
ไม่เพียงเท่านั้น หัวเว่ยและพันธมิตรยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสำคัญอีก 7 งาน ซึ่งจะมีทั้งการเปิดตัวโซลูชันคลื่นความถี่สูงเพื่อตลาดเชิงพาณิชย์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับธุรกิจการจัดจำหน่าย การมอบรางวัลสำหรับพันธมิตรที่มีผลงานโดดเด่นในงาน Asia-Pacific Partners’ Night นอกจากนี้ หัวเว่ยจะเปิดตัวโซลูชันสำหรับภาคอุตสาหกรรมในงาน Global ISP Summit Asia Pacific และงาน Manufacturing and Large Enterprise Summit อีกด้วย ทั้งนี้ ดร.มูลโดโก พลเอก (อดีต) เสนาธิการประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย และดร.ปิติ ศรีแสงนาม ประธานมูลนิธิอาเซียน ยังได้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย
สุดท้ายนี้ การประชุม Huawei Digital and Intelligent APAC Congress ครั้งนี้ มุ่งหวังสร้างเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านดิจิทัล ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือ การร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและระบบอัจฉริยะที่แข็งแกร่ง ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้านประเทศไทย ผลลัพธ์ที่คาดหวัง กลยุทธ์ดิจิทัลแห่งชาติ และความร่วมมือในระดับภูมิภาค คาดว่าจะผลักดันให้ประเทศไทยและอาเซียนก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับประชาชนในภูมิภาค