ในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ชาวสหรัฐฯ ก็จะได้ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนที่ 47 แล้ว โดยในครั้งนี้มี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ขณะที่ฝั่งเดโมแครตมี ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯ เป็นตัวเต็งชิงชัย หากไม่มีการเปลี่ยนตัวกันกะทันหัน
ในทุกครั้ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทั่วโลกจับตามอง เพราะนอกจากเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศแล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรคที่ขึ้นมีอำนาจยังมีอิทธิพลในการกำหนดบรรยากาศเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นเศรษฐกิจใหญ่ และนโยบายการค้าของประเทศนี้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกำแพงภาษี หรือแนวทางในการจัดการผู้อพยพ ย่อมส่งผลต่อชีวิตคนทั้งโลก
ในบทความนี้ SPOTLIGHT จึงอยากชวนทุกคนมาดูกันว่าในเวลาอีก 3 เดือนก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง มีเหตุการณ์อะไรที่เราควรจับตามองบ้าง?
วันที่ 15-18: “การประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน” หรือ Republican National Convention (RNC) ที่ Fiserv Forum ในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2567 "โดนัลด์ ทรัมป์" (Donald Trump) ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกัน เพื่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ในการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ซึ่งจัดขึ้นในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา พร้อมประกาศเปิดตัว เจ.ดี. แวนซ์ (J.D. Vance) วุฒิสมาชิก ให้เป็นคู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
โดยก่อนหน้าที่จะมีการจัดประชุมใหญ่ของพรรค ทรัมป์ได้คว้าคะแนนถล่มทลายจากผู้แทนเลือกตั้ง หรือ ‘delegate’ ของพรรครีพับลิกัน จากรัฐต่างๆ ได้ถึง 2,200 เสียงแล้ว ในการการประชุมคอคัส (caucus) และการประชุมขั้นต้น (primary) จาก 2,429 เสียงจาก 56 รัฐและดินแดน
นอกจากนี้ ในวันที่ 23 กรกฎาคม หรือ 13 สิงหาคมนี้ รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) และตัวเต็งคู่หูชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีของไบเดน ยังจะเข้าร่วมในการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีกับ เจ.ดี. แวนซ์ ซึ่งจัดโดย สถานีโทรทัศน์ CBS
ทั้งนี้ ทางรีพับลิกันยังไม่ตอบรับว่าจะส่งตัวแทนจากพรรคเพื่อเข้าร่วมการดีเบตผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีกับ CBS หรือไม่ เพราะรีพับลิกันต้องการให้การดีเบตครั้งนี้จัดโดย Fox News มากกว่า ซึ่งทางเดโมแครตก็ยังไม่ออกมาตอบรับเช่นกันว่าจะส่งคามาลาเข้าดีเบตกับ Fox หรือไม่
วันที่ 7 : พรรคเดโมแครตมีแผนจัดการประชุมออนไลน์ เพื่อลงคะแนนเลือก “โจ ไบเดน” เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจทำให้พรรคเดโมแครตได้ตัวแทนอย่างเป็นทางการก่อนการประชุมพรรค
วันที่ 19-22: “การประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครต” หรือ Democratic National Convention (DNC) ที่ United Center ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์
ในการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ผู้แทนเลือกตั้งของพรรคเดโมแครตจากรัฐต่างๆ จำนวน 3,936 คน จะมารวมตัวกันเพื่อเลือกตัวแทนพรรคเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี อย่างเป็นทางการ โดยไบเดนจะต้องได้คะแนนเสียงอย่างน้อย 1,969 เสียง จากผู้แทนเลือกตั้งเพื่อเป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ แม้ก่อนหน้านี้ ไบเดนจะได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้นจากผู้แทนเลือกตั้งให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ภายหลังจากการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์กับทรัมป์ในช่องโทรทัศน์ CNN ก็เริ่มมีเสียงเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวผู้แทน เพราะไบเดนดูมีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง พูดตะกุกตะกักและจำข้อมูลสับสนบ่อยครั้ง ทำให้คนมองมองว่าประธานาธิบดีที่ปัจจุบันอายุถึง 81 ปีแล้ว ไม่ควรที่จะลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 อีกต่อไป
โดยหากมีการเปลี่ยนตัว ตัวเต็งอันดับหนึ่งสำหรับนอมีนีพรรคเดโมแครตก็คือ ‘คามาลา แฮร์ริส’ รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ‘เกรทเชน วิทเมอร์’ (Gretchen Whitmer) ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน และ ‘เกวิน นิวซัม’ (Gavin Newsom) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย
วันที่ 10: ดีเบตแสดงวิสัยทัศน์ระหว่างตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จัดโดยสถานีโทรทัศน์ ABC News ในเวลา 21.00 น. เวลาสหรัฐฯ
การดีเบตครั้งนี้จะเป็นการดีเบตครั้งแรกและครั้งเดียวของผู้แทนชิงตำแหน่งปธน. อย่างเป็นทางการของทั้ง 2 พรรค หลังจาก ทั้งทรัมป์และไบเดนได้เข้าร่วมการดีเบตมาครั้งหนึ่งแล้วกับ CNN ในฐานะผู้แทนไม่เป็นทางการของพรรค
ทางช่อง ABC ยังไม่ได้ประกาศว่าใครจะเป็นผู้ดำเนินรายการในการดีเบตครั้งนี้
วันที่ 5: วันเลือกตั้ง
ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งจะได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เป็นเวลา 4 ปี นับตั้งแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปี 2568
ในการเลือกตั้งทุกครั้ง ผู้แทนพรรคจะต้องเน้นหาเสียงในรัฐ ‘Swing State’ ที่ประชาชนในรัฐไม่มีแนวโน้มชื่นชอบพรรคไหนเป็นพิเศษ ทำให้ผู้แทนพรรคมีโอกาสหาเสียงเพื่อจูงใจมวลชนได้ เช่น รัฐเพนซิลเวเนีย แอริโซนา จอร์เจีย วิสคอนซิน และเนวาดา โดยในปัจจุบัน พรรครีพับลิกัน มีคะแนนนำอยู่ในรัฐเหล่านี้ ทำให้ในขณะนี้ทรัมป์มีโอกาสที่จะได้กลับเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ได้