ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ยกหูโทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเมื่อวานนี้ (9 ตุลาคม 2024) ยืนยันว่า เขายังคงให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างเข้มแข็งไม่เปลี่ยนแปลง โดยการพูดคุยครั้งนี้มีขึ้นราว 30 นาที และภายหลังการหารือ ก็มีการเปิดเผยบทสนทนาต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ซึ่งความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยเรื่อย

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

สหรัฐฯยืนยันสนับสนุนอิสราเอล

ทำเนียบขาวยังระบุในแถลงการณ์ด้วยว่า รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคแดโมแครต ลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดี ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นเดือนหน้า ก็เข้าร่วมการสนทนาในครั้งนี้ด้วย และประธานาธิบดีไบเดนยืนยันถึงการให้คำมั่นอันเข้มแข็งที่จะรักษาความมั่นคงของอิสราเอลเอาไว้ และเขาได้ประณามการกระทำของอิหร่านที่โจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา

การหารือทางโทรศัพท์เกิดขึ้น ขณะที่อิสราเอลกำลังพิจารณาว่าจะโจมตีอิหร่านกลับหรือไม่ หลังอิหร่านยิงมิสไซล์ใส่อิสราเอลเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยโฆษกหญิงทำเนียบขาวชี้แจงว่า ทั้งไบเดนและเนทันยาฮูได้หารือกันเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

อิหร่านยิงมิสไซล์ใส่เป้าหมายทางทหารของอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อตอบโต้การที่อิสราเอลสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำของกลุ่มฮามาสในกรุงเตหะราน และฮัซซัน นัสรัลเลาห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีไบเดน ให้คำมั่นว่าเขาจะรับรองว่าอิหร่านต้องเจอกับผลลัพธ์อันร้ายแรงจากเหตุโจมตีอิสราเอล โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ไบเดนให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน  ส่วนอิสราเอลยังไม่ได้สรุปว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ แต่ถ้าหากตัวเขาอยู่ในจุดเดียวกันกับอิสราเอล  เขาจะมองหาตัวเลือกอื่นแทนการโจมตีโรงงานน้ำมันของอิหร่าน

อิสราเอล-ตะวันออกกลางกลายเป็นประเด็นร้อนกระทบเลือกตั้งสหรัฐฯ

เหตุความไม่สงบในตะวันออกกลางมักส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันทั่วโลก ซึ่งกรณีดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อปัจจัยเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯส่งมอบความช่วยเหลือทั้งทางทหารและทางการทูตให้แก่อิสราเอล นับตั้งแต่เริ่มทำสงครามในกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส และรองประธานาธิบดีแฮร์ริสก็ให้คำมั่นว่าเธอจะยืนหยัดนโยบายเหล่านั้นเอาไว้ หากว่าเธอชนะเลือกตั้ง

ในระหว่างการหารือทางโทรศัพท์ของไบเดนกับเนทันยาฮู ทางไบเดนยังย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องใช้วิธีทางการทูตแก้วิกฤตในเลบานอน โดยไบเดนได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับพลเรือนในเลบานอนด้วย อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯแนะนำว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ เนื่องจากว่าในเวลานี้ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังเสียเปรียบอยู่

ในวันเดียวกัน นายกฯเนทันยาฮูก็เตือนประชาชนชาวเลบานอนว่า หากประชาชนไม่ยอมหันหลังให้ฮิซบอลเลาะห์ เลบานอนก็จะต้องเผชิญกับสงครามอันยาวนานที่นำไปสู่การทำลายล้างและความเจ็บปวดสูญเสียเหมือนที่เกิดขึ้นในกาซา

Aljazeera