.
นางสาว ลลานา ธีระนุสรณ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ซีพีเอฟ บอกว่า จากความร่วมมือกับ งานสัมมนาด้านนวัตกรรมอาหารระดับนานาชาติ Asia-Pacific Agri-Food Innovation Summit ที่สิงคโปร์ จัดกิจกรรมการประกวด เพื่อเฟ้นหาสตาร์ทอัพเจ้าของผลงานและเทคโนโลยีในทำงานร่วมกันพัฒนา "เนื้อจากพืช" เพิ่มทางเลือกตอบโจทย์ผู้บริโภคกลุ่มมังสวิรัติและมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น คณะกรรมการคัดเลือกและซีพีเอฟได้ตัดสินเลือก Lypid สตาร์ทอัพ จากซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา รับรางวัลชนะเลิศ เจ้าของเทคโนโลยี "ไขมันจากพืช" (vegan fat) นำไปสู่ความร่วมมือต่อยอดพัฒนา "ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืช" ที่ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสเทียบเท่าเนื้อสัตว์จริง
สำหรับ Lypid เป็นสตาร์ทอัพที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอาหาร ที่สำคัญเป็นทีมเจ้าของเทคโนโลยี "ไขมันจากพืช" (vegan fat) ที่เป็นกุญแจสำคัญช่วยให้เนื้อวีแกนมีรสชาติเหมือนเนื้อ ซึ่งทีมผู้ชนะ มีความเหมาะสมมากที่สุดที่ทำให้พืชมีเนื้อสัมผัส และรสชาติที่ใกล้เคียงหรือเหมือนเนื้อสัตว์ได้มากที่สุด เป็นการสร้างประสบการณ์ผู้บริเโภคให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง
โดย “ไขมัน" เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยทำให้เนื้อมีรสชาติอร่อย และมีกลิ่นหอม ซึ่ง Lypid กำลังพัฒนา "ไขมันจากพืช" ให้มีเนื้อสัมผัส จุดหลอมเหลว ปริมาณน้ำมัน เหมือนกับไขมันจากสัตว์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญทำให้ ผลิตภัณฑ์เนื้อจากพืชมีไขมันเหมือนเนื้อสัตว์มากที่สุด มีคุณค่าโภชนาการที่ครบถ้วนและดีกว่าไขมันสัตว์ เพื่อให้ซีพีเอฟสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ "เนื้อจากพืช" ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
ความร่วมมือกับ Lypid เป็นไปตามแนวทางการดำเนินงานในการสร้างนวัตกรรมของซีพีเอฟ ภายใต้แนวคิด Open Innovation ที่เปิดกว้างพร้อมทำงานร่วมกับสถาบันวิจัย สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน รวมทั้งสตาร์ทอัพทั่วโลก เพื่อศึกษาและสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารที่สามารถตอบรับ ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเทรนด์อาหารในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ "ครัวของโลก"
ทั้งนี้ Lypid จะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้บริหารระดับสูง ร่วมทำงานกับทีมนักวิจัย และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ของซีพีเอฟ ที่ศูนย์วิจัย RD Center โดยบริษัทฯ มุ่งหวังที่จะสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ "เนื้อจากพืช" ที่มีจุดเด่นและแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ช่วยสร้างประสบการณ์ความอร่อยของเนื้อจากพืช ต่อยอดสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ใน 2 ปีข้างหน้า