นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 ธ.ค. นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน จะมีการพิจารณาขยายระยะเวลาตรึงราคา ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หรือก๊าซหุงต้ม ต่อไปอีก 1-2 เดือน จากมติ กบง. เดิมตรึงราคาไว้ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัมจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. ปีนี้ โดยหากที่ประชุม กบง. มีมติเห็นชอบ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้จะพิจารณาขยายกรอบเพิ่มวงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบัญชี LPG จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 23,000 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 24,000 ล้านบาทหรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ต้องชดเชยราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร และ LPG อยู่ที่ 318 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งมีเงินไหลออกประมาณ 5,963 ล้านบาทต่อเดือน แบ่งเป็น การชดเชยราคาดีเซลอยู่ที่ 4,276 ล้านบาทต่อเดือน และชดเชยราคาLPG อยู่ที่ 1,687 ล้านบาทต่อเดือน ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 19 ธ.ค. 2564 ติดลบ 3,072 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนน้ำมันฯ เป็นบวก 19,223 ล้านบาท และกองทุน LPG ติดลบ 22,295 ล้านบาท
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้จากแนวโน้มค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นตามต้นทุนของราคาพลังงาน ส่งผลให้มี 2 ผู้ประกอบการจำหน่ายก๊าซหุงต้มทั้ง บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG กับ บมจ. ปตท.หรือ PTT ได้ออกมาตรการช่วยเหลือชั่วคราวโดยลดราคาก๊าซหุ้มต้มให้ 100 บาทต่อคน ให้กับประชาชนในกลุ่มถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2564 เพื่อป็นการบรรเทาผลกระทบ
สำหรับมาตราการลดราคาก๊าซดังกล่าวนี้ ปตท. ได้ต่ออายุมาตรการมาอีก 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2564 ถึงวันที่ 2564 เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาคประชาชนในการลดต้นทุนค่าครองชีพในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่ง ณ เดือน ต.ค.ปีนี้มียอดรวมจำนวน 13.6 ล้านคน เมื่อคำนวณแล้วหากมีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกรายใช้สิทธิ์เฉพาะของ ปตท.จะคิดเป็นจำนวนเงินส่วนลดรวม 8,160 ล้านบาท