“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” โอนงวดแรกต้อนรับเดือนแรกของปี 2565 เช็คด่วน! ปรับลดวงเงินหลายรายการ
ต้อนรับเดือนแรกของปี 2565 กรมบัญชีกลางโอนเงินงวดแรกประจำเดือนมกราคมแก่ผู้ถือ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” จำนวน 13.5 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้ถือบัตรรายเก่าที่มีการลงทะเบียนไว้แล้ว
โดยระยะเวลาของการโอนเงินเข้าบัตร และรายละเอียดของวงเงินในหมวดต่างๆ มีดังนี้
วันที่ 1 มกราคม 2565 [ไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไป]
- วงเงินซื้อสินค้า 200 และ 300 บาท
โดยวงเงินจากโครงการเพิ่มกำลังซื้อ 500 บาทที่ ครม. อนุมัติจ่ายเพิ่มให้ในเดือนพ.ย.-ธ.ค. 2564 หมดเขตการจ่ายเงินไปแล้วเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2564
- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประกอบด้วย - ค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อเดือน
- ค่าโดยสารรถไฟฟ้า ขสมก./ MRT/ BTS และ ARL 500 บาทต่อเดือน (สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อาศัยอยู่ในเขต กทม. และปริมณฑล)
วันที่ 18 มกราคม 2565 [สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้]
- เงินคืนค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน) - เงินคืนค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
(สำหรับผู้ถือบัตรฯ ที่ใช้น้ำประปาไม่เกิน 315 บาทต่อเดือน จะได้รับเงินคืนค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินจาก 100 บาท ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นผู้ชำระเอง)
วันที่ 22 ม.ค. 2565 [สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้]
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน ถึงเดือนกันยายน 2565
อย่างไรก็ตามในปี 2565 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะมีการพิจารณาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขต่างๆสำหรับผู้ถือ "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ตรงจุดมากขึ้นและประชาชนสามารถใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้
เบื้องต้นได้กำหนดเกณฑ์ไว้ ดังนี้
- สัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- รายได้ทั้งครอบครัว รวมแล้วไม่เกิน 200,000 บาท
- ไม่มีหรือมีทรัพย์สินทางการเงิน รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 100,000 บาท
- ใช้บัตรประชาชนแทนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้
- ลงทะเบียนที่จุดรับลงทะเบียนได้แม้ไม่มีโทรศัพท์มือถือ
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการเก่า ต้องลงทะเบียนใหม่
- หากถือครองกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินอยู่ จะต้องเป็นบ้านหรือทาวน์เฮาส์ พื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา
ส่วนห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
ส่วนกรณีเป็นที่อยู่อาศัย และใช้ประโยชน์จากที่ดินเพื่อการเกษตรด้วยมีพื้นที่ได้ไม่เกิน 10 ไร่
หรือในกรณีที่ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอื่นที่ ไม่ใช่เพื่อการเกษตร มีพื้นที่ไม่เกิน 1 ไร่
หากมีข้อสงสัยสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02 270 6400 ในวัน เวลาราชการ
#SPOTLIGHT #บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ #บัตรคนจน #มาตรการรัฐ #Economy