นายกรัญมนตรี ย้ำกำลังแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพงอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องให้ลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน ที่อาจจะมีผลกระทบตามมา
9 ก.พ.65 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม บอกว่า เมื่อวานนี้ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว และรอการชี้แจงอีกครั้งเกี่ยวกับแก้ปัญหาราคาน้ำมัน ด้วยการลดภาษีสรรพสามิต โดยย้ำว่ารัฐบาลมีแผนการแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเรื่องกองทุนน้ำมัน การเตรียมวงเงินกู้ตามกรอบไว้สำหรับชดเชยแทนกองทุนน้ำมันที่ขณะนี้กำลังติดลบอยู่ ขณะเดียวกันต้องเตรียมแก้ปัญหาของก๊าซ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากหลายมิติ ไม่ใช่มาจากไทยอย่างเดียว แต่มาจากต้นทุนทางด้านพลังงานที่ไทยต้องพึ่งพาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำเข้ามา
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับคนที่มีรายได้น้อย ไม่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถานการณ์น้ำมันขณะนี้ผกผันมากพอสมควร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาอีกนาน จึงต้องมาพิจารณาว่าจะนำงบประมาณจากไหนมาอุดหนุนในจุดนี้ โดยจะต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสม ทั้งการควบคุมราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกินลิตรละ 30 บาท, ปรับสูตรน้ำมัน รวมถึงกำลังพิจารณาเรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ซึ่งหากลดลงไป ก็จะเกี่ยวพันกับการจัดเก็บรายได้ของรัฐที่จะต้องลดลงไปมาก ดังนั้นจึงต้องพิจารณาว่าจะกระทบกับส่วนอื่นๆ ด้วยหรือไม่
“การพิจารณาว่าจะสามารถลดภาษีได้แค่ไหน ก็ต้องมีการรับฟังเหตุผลรอบด้าน จะตามใจทุกคนไม่ได้ เพราะจะเกิดปัญหาตามมาอีกเยอะ เละขณะนี้ใช้วงเงินในการอุดหนุนน้ำมันถึงเดือนละ 3,000 กว่าล้านบาท หากระยะเวลาในการแก้ปัญหายืดไปถึง 6 เดือน ก็จะใช้งบฯถึง 18,000 ล้านบาท รวมถึงจะต้องแก้ปัญหาเรื่องก๊าซอีก แต่ย้ำว่ารัฐบาลจะพยายามตรึงราคาไว้ให้มากที่สุด ขอความเข้าใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องบริหารเช่นนี้”นายกรัฐมนตรี กล่าว
พร้อมระบุว่า ได้ขอร้องทางสมาคมรถบรรทุกไปหลายครั้งแล้ว และที่ผ่านมาก็ได้ทำความเข้าใจมาโดยตลอด ซึ่งเห็นว่าก็เข้าใจไปส่วนหนึ่งแล้ว และชี้แจงว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤตหลายด้าน และไม่เคยมีรัฐบาลไหนเจอวิกฤตที่มาพร้อมกัน ทั้งเรื่องโควิด ปัญหาราคาพลังงาน การแข่งขันทางการค้า ตั้งแต่เรื่องความมั่นคงในภูมิภาค ความขัดแย้งทางทะเล ซึ่งส่วนตัวก็จะพยายามพูดคุยกับต่างประเทศที่มาพบ และหลายประเทศต่างชื่นชมไทยที่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
“ไม่ใช่การคุยโอ้อวด แต่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งกำลังจะเกิดสิ่งดีๆ ในประเทศอีกมาก จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้นำเสนอสิ่งดีๆ โดยเฉพาะเมื่อต้องแก้ปัญหา ก็ต้องดำเนินการแก้ไขต่อไป อย่านำปัญหาฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมืองมาขัดแย้งกัน ไม่เช่นนั้นจะเดินหน้าไม่ได้”