ทำใจสิ้นสุดตรึงราคาก๊าซหุง 1 เม.ย. นี้ ขึ้นราคาแน่อีก 15 บาท/ถังขนาด 15 กก. ทยอยขึ้นแบบขั้นบันได้ถึงสิ้นรวมขึ้น 45 บาท หวังช่วยตัดภาระกองทุนน้ำมันฯ เน้นภารกิจหลัก ดูแลราคาน้ำมัน หลังล่าสุดติดลบกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมด่วนร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการรับมือบรรเทาผลกระทบประชาชน จากราคาพลังงานที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า จะไม่มีการต่ออายุมาตรการดังกล่าวออกไปอีก เพราะการตรึงราคาดังกล่าวสร้างภาระให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่มีภารกิจหลักคือ การดูแลราคาน้ำมัน ซึ่งล่าสุดติดลบกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท จำนวนนี้เฉพาะบัญชีแอลพีจีติดลบประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท เพราะตรึงราคามาเป็นเวลานานกว่า 2 ปี และต้นทุนจริงของแอลพีจีต่อถัง 15 กก.ปัจจุบัน ทะลุ 400 บาทแล้ว
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนเกินไป ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน กระทรวงพลังงานจะใช้วิธีขยับราคาแบบขั้นบันได คือ ขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ทุกๆ 3 เดือน (ไตรมาส) ดังนั้น ไตรมาสแรกจะปรับขึ้นเป็น 333 บาทต่อถังขนาด 15 กก. และเบื้องต้นจะขึ้นถึงสิ้นปี รวม 3 ครั้ง คิดเป็นวงเงินที่เพิ่มขึ้น 45 บาทต่อถัง 15 กก.
นอกจากนี้ จะมีมาตรการดูแลผู้มีรายได้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งปัจจุบันวงเงินในบัตร ช่วยอยู่ 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน โดยจะเพิ่มเป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน โดยอีก 45 บาทที่เพิ่มขึ้น เบื้องต้นจะของบกลางปี 2565 เข้าสนับสนุน ส่วนวงเงินอยู่ระหว่างพิจารณา
อย่างไรก็ตามมา ในการประชุมดังกล่าว นอกจากประเด็นการดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร แล้ว ที่ประชุมยังหารือถึงสถานการณ์ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ที่จะสิ้นสุดมาตรการตรึงราคา 318 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม (กก.) วันที่ 31 มีนาคมนี้