รัสเซียผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ศตวรรษ หรือนับตั้งแต่ปี 2461 ซึ่งนี่เป็นผลจากการที่ชาติตะวันตกคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงการปิดช่องทางการชำระหนี้ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารรุกรานยูเครน
รัสเซียมีกำหนดชำระอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐในวันอาทิตย์ที่ 26 มิ.ย. ซึ่งถือว่าหมดเวลาการผ่อนผันที่ครบกำหนดชำระตั้งแต่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา สาเหตุเพราะ ก่อนครบกำหนดชำระหนี้ตั้งแต่ วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้รัฐบาลรัสเซียชำระหนี้ให้กับผู้ถือพันธบัตรผ่านทางธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการปิดช่องทางการชำระหนี้ต่่อรัสเซีย และมาตรการดังกล่าวทำให้รัสเซียมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้อยู่แล้ว
ด้าน แอนตัน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัสเซีย กล่าวว่า เป็นเรื่องตลกที่ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่ได้จากการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไหลเข้ามาในงบประมาณของประเทศ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าพร้อมที่จะชำระหนี้
ฮัสซัน มาลิค นักวิเคราะห์จากบริษัทลูมิส เซย์เลส แอนด์ คอมพานี ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า การผิดนัดชำระหนี้ของรัสเซียในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมาก และเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลต่างชาติได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งสิ่งที่น่าจับตามากที่สุดคือตลาดการเงินโลกจะได้รับผลกระทบจากการผิดชำระหนี้ของรัสเซียในครั้งนี้มากน้อยเพียงใด
นายทิโมธี แอช นักยุทศาสตร์ด้านการลงทุนของบริษัทบลูเรย์ แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ต่างชาติ (OFAC) ในสังกัดกระทรวงการคลังสหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจและการค้านั้น สามารถสั่งระงับไม่ให้รัสเซียชำระหนี้พันธบัตรผ่านทางสถาบันการเงินในฝั่งตะวันตกได้ทุกเวลา ซึ่งจะทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้ได้ทุกเวลาเช่นกัน