แม้ว่ากลุ่มผู้นำประเทศมหาอำนาจ G7 กำลังประชุมเพื่อร่วมกันปกป้องยูเครน แต่กองทัพรัสเซียยังปฏิบัติการยิงขีปนาวุธเข้าใส่ห้างสรรพสินค้าในยูเครนเมื่อวานนี้ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย
ผู้ว่าการประจำแคว้นปอลตาวาของยูเครน ดีมิโทร ลูนิน เปิดเผยผ่านทางเทเลแกรมว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 2 ลูกใส่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองคราเมนชูก ในแคว้นปอลตาวา เมื่อวันจันทร์ (27 มิ.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 50 ราย แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปยอดผู้เสียชีวิต เนื่องจากทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ กองบัญชาการกองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น Tu-22M3 บินจากลานบินเชคอฟกาในภูมิภาคคาลูกาของรัสเซียในการยิงขีปนาวุธพิสัยไกล X-22 จำนวน 2 ลูกถล่มห้างแห่งนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้ว่าการแคว้นปอลตาวา วิจารณ์ว่า่การกระทำของรัสเซียเป็นการก่อการร้าย เพราะสถานที่ดังกล่าวไม่มีเป้าหมายทางทหารตั้งอยู่ใกล้เคียงที่รัสเซียจะกล่าวอ้างได้เลย
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนระบุผ่านทางเทเลแกรมว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยกว่า 1,000 รายขณะเกิดเหตุ "การจะหวังหาคุณธรรมและมนุษยธรรมจากรัสเซียคงเป็นเรื่องไร้ประโยชน์" มีรายงานว่า เซเลนสกี ได้ร้องขอระบบป้องกันอากาศยานเพื่อช่วยปกป้องยูเครน และกล่าวว่าเขาต้องการให้สงครามยุติก่อนสิ้นปีนี้ ในทางกลับกัน G-7 ได้สัญญาว่าจะสนับสนุนยูเครน "ตราบเท่าที่จำเป็น" นอกจากนี้ผู้นำ G-7 ประณามการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในห้างสรรพสินค้ายูเครนซึ่งส่งผลให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต
ด้านนายดิมิทรี โพลยานสกี รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า การโจมตีของรัสเซีย เป็นเพราะ "การยั่วยุของยูเครน" โดยอ้างว่าเป็นความตั้งใจของรัฐบาลยูเครน เพื่อให้ยูเครนยังคงเป็นจุดสนใจของกลุ่มองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต (NATO) ซึ่งการประชุมสุดยอดของนาโตจะมีขึ้นในวันที่ 28-30 มิ.ย.2565