บ้านมือสองทะลักช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เป็นบ้านราคาต่ำ 1 ล้านบาทมากที่สุด นำโดยกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ คนแห่ขายบ้านหนีกรุงกลับต่างจังหวัด ดันมูลค่าตลาดบ้านมือสองพุ่งเกือบ 1 ล้านล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 65 มีจำนวนขายเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นเป็น 162,716 หน่วย และมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 995,488 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนหน่วยและมูลค่ามากที่สุดในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีการเพิ่มต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ถึง 17.9% โดยมีการเพิ่มมากขึ้นในเกือบทุกประเภทที่อยู่อาศัย ทั้งบ้านเดี่ยว คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์
“สาเหตุที่มีที่ทำให้มีจำนวนบ้านมือสองออกมาจำหน่ายมากขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสถานการณ์โควิด ทำให้ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะขายบ้านในกรุงเทพฯ และย้ายกลับไปอยู่ต่างจังหวัดเห็นได้จากยอดซื้อขายบ้านมือสองที่พื้นที่ต่างจังหวัดมีความคึกคักขึ้น ขณะเดียวกันยังมีบางส่วนที่มีการซื้อบ้านเก็บไว้นำออกมาขายทำกำไรหลังผ่านโควิดมา”
ทั้งนี้จากการสำรวจยังพบว่า ประเภทบ้านมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุดได้แก่ บ้านเดี่ยว จำนวน 64,392 หน่วย รองลงมาคือ ห้องชุด จำนวน 49,250 หน่วย และทาวน์เฮาส์ จำนวน 42,626 หน่วย
ส่วนประเภทบ้านมือสองที่มีการขยายตัวไตรมาสต่อไตรมาส สูงสุดคือ ห้องชุด เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 21.1% รองลงมา คือ อาคารพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 19.9% ทาวน์เฮาส์ เพิ่มขึ้น 17.1% และบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 16.6% แต่บ้านแฝด เพิ่มขึ้น 1.9%
สำหรับ "ระดับราคา" บ้านมือสอง ที่ประกาศขายในช่วงไตรมาส 2 พบว่า ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีสัดส่วนประกาศขายมากที่สุด รองลงมาเป็นระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท และเป็นระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาท ตามลำดับ
แต่มีข้อสังเกตว่า ระดับราคาที่มีอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุด 3 อันดับแรก คือ ระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท มีการเติบถึง 56.1% รองลงมาคือ ระดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% และ ระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% ซึ่งสะท้อนได้ว่าอาจเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท
ส่วนทำเลที่มีการประกาศขายบ้านมือสองมากที่สุด 10 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และนครราชสีมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะอยู่ในจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนาบ้านใหม่มากในช่วงที่ผ่านมา
อนึ่ง การสำรวจดังกล่าวได้รวบรวมข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ จากการประกาศขายผ่านเว็บไซต์บริษัทภาคเอกชนที่มีปริมาณการประกาศขายเป็นจำนวนมาก และข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสองของสถาบันการเงินของรัฐและเอกชน บริษัทบริหารสินทรัพย์ภาครัฐและเอกชน และกรมบังคับคดี ที่ประกาศขายผ่านเว็บไซต์ตลาดนัดบ้านมือสอง เพื่อให้ได้ข้อมูลอุปทานที่อยู่อาศัยมือสองที่ครอบคลุมในตลาดมากที่สุด