นายชัยวุฒิ ธนาคมนุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า ดีอีเอสได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อแก้ไขปัญหาหลอกลงทุนออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย รวมทั้งการระดมทุนที่ผิดกฎหมาย เช่น การให้บริการชักชวนคนมาลงทุน ขายหลักทรัพย์
โดยทางกระทรวงดิจิทัลจะจัดตั้งคณะทํางานร่วมกับทาง ก.ล.ต. ในการติดตาม Facebook account หรือ เว็บไซต์ต่างๆ เพื่อวางแนวทางป้องกันปราบปรามปิดกั้นเว็บไซต์ที่หลอกลงทุนออนไลน์ในช่องทางต่างๆ ที่ไม่ได้รับการอนุญาตจาก ก.ล.ต. หากพบจะถูกดําเนินคดีปิดกั้น Account หรือเว็บไซต์โดยทันที เพื่อลดผลกระทบความเสียหายของประชาชน
ทั้งนี้ ดีอีเอส ขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนก่อนที่จะลงทุนขอให้ตรวจสอบที่มาของบริการหรือผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ ก่อน เพราะอาจเจอผู้ให้บริการที่ไม่ได้รับอนุญาติ ผิดกฎหมาย และอาจถูกหลอกลวง ฉ้อโกงให้เกิดความเสียหายได้ โดยความผิดฐานเสนอขายหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ มาตรา 268 มีโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองเท่าของราคาขายของหลักทรัพย์นั้นทั้งหมด แต่ทั้งนี้ เงินค่าปรับต้องไม่น้อยกว่าห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนความผิดฐานประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต มาตรา 289 จำคุกตั้งแต่สองปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองแสนบาทถึงห้าแสนบาท และปรับไม่เกินวันละหนึ่งหมื่นบาท
ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูลได้ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้ โทร.1212 OCC ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในสังกัดดีอีเอส เพจอาสาจับตาออนไลน์ กระทรวงดิจิทัล แจ้งความออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ด้านนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. พร้อมให้ความร่วมมือกับดีอีเอส โดยหลังจาก ก.ล.ต. ได้รับแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อความโฆษณาชวนเชื่อและชักชวนให้ประชาชนลงทุนในลักษณะหลอกลงทุนผ่านออนไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน ทาง ก.ล.ต. ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและนำรายชื่อขึ้นไว้ใน Investor Alert บนเว็บไซต์ ก.ล.ต. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการลงทุนหรือทำธุรกรรมการเงิน รวมถึงการเก็บเอกสาร หลักฐานเพื่อนำส่งให้กับดีอีเอสได้ดำเนินการต่อไป
ในกรณีที่ ก.ล.ต. ตรวจพบว่ามีการกระทำอันเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. เช่น พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำคุกและปรับ และหากเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต. มีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่แนะนำการลงทุน ผู้ประกอบธุรกิจ หรือหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ได้ที่แอปพลิเคชัน SEC Check First และเว็บไซต์ ก.ล.ต. www.sec. or.th หัวข้อ SEC Check First หากมีข้อสอบถามหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าสงสัย โปรดแจ้งที่ “ศูนย์บริการประชาชน ก.ล.ต.” โทร. 1207 หรือ SEC Live Chat ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.