หลังจากทางการจีนประกาศผ่อนคลายเกณฑ์โควิด 19 จีนเปิดประเทศ ให้ชาวต่างชาติเข้าจีนได้โดยไม่กักตัว ตั้งแต่ 8 มกราคม ที่ผ่านมาก็นับเป็นข่าวดีและเป็นความหวังให้กับประเทศที่พึ่งพาภาคการท่องเที่ยวอย่างประเทศไทย ซึ่งล่าสุดทางการจีน ประกาศชัดเจนแล้วว่า ชาวจีนสามารถเดินทางออกนอกจีนได้ โดยสามารถเดินทางไปยัง 20 ประเทศตั้งแต่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 นี้ ซึ่งแน่นอนว่า ประเทศไทยคือ1 ใน20ที่นทท.จีนสามารถเดินทางมาเที่ยวได้นั่นเอง
และสำหรับรายชื่อ 20 ประเทศตามกราฟฟิคที่แสดงนี้
โดยทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้มีการระบุรายละเอียดว่า ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2023 เป็นต้นไป นำร่องการฟื้นฟูกิจการของบริษัทนำเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ทั่วประเทศจีนในการดำเนินกิจการจัดการท่องเที่ยวแบบหมู่คณะรวมถึงธุรกิจ "ตั๋วเครื่องบิน + โรงแรม" สำหรับชาวจีนไปยังประเทศที่เกี่ยวข้อง และบริษัทนำเที่ยวและบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์สามารถเตรียมการสำหรับการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และการส่งเสริมการขาย ฯลฯ
ส่วนรายชื่อ 20 ประเทศคือ ไทย อินโดนีเซีย กัมพูชา มัลดีฟส์ ศรีลังกา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์ เคนยา แอฟริกาใต้ รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ฮังการี นิวซีแลนด์ ฟิจิ คิวบา อาร์เจนตินา
ทั้งนี้บริษัทนำเที่ยวควรดำเนินการตามหลักการของประเทศที่จะไป เสริมสร้างความรับผิดชอบเพื่อสร้างมั่นใจว่าจะมีหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบ จัดระเบียบและดำเนินการในลักษณะที่มั่นคงและเป็นระเบียบเรียบร้อยและปกป้องความปลอดภัย สิทธิประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของนักท่องเที่ยวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งป้องกันและควบคุมโรคระบาดอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลท้องถิ่นควรดำเนินการตามข้อกำหนดของแผนการป้องกันโรคระบาด "ประเภท B ระดับ B" อย่างจริงจัง ส่งเสริมและสนับสนุนแนวคิด "แต่ละคนเป็นบุคคลสำคัญที่สุดที่รับผิดชอบต่อสุขภาพของตนเอง"
รัฐบาลไทยเชื่อมั่น นทท.จีนเดินทางมาไทยส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
ด้านรัฐบาลไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามรายละเอียดทางนโยบายของทางการจีนอย่างใกล้ชิด และมีความมั่นใจว่าข้อกำหนดต่างๆ ที่มีการดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย และสามารถควบคุมสถาการณ์โควิด-19 ให้อยู่ในขอบเขตที่จำกัดได้
“นายอนุทิน ได้รับทราบแนวนโยบายและขอบเขตการดำเนินการนำร่องตามที่สถานเอกอัครราชทูตจีนเปิดเผยล่าสุดซึ่งได้แสดงให้เห็นว่าประเทศจีนได้ดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างรัดกุม มีการแนะนำประชาชนของตนเองที่จะเดินทางออกไปเที่ยวต่างประเทศ ปฏิบัติตามข้อกำหนดของประเทศปลายทาง บริษัทท่องเที่ยวมีการดูแลคัดกรองกรุ๊ปทัวร์และมีระบบการรายงานที่ชัดเจน โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กำชับกระทรวงในกำกับที่เกี่ยวข้องได้แก่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ติดตามรายละเอียดของข้อกำหนด และเตรียมการในทุกด้านให้พร้อมสำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว
นอกจากนี้ ข้อกำหนดยังให้รัฐบาลท้องถิ่นในจีนมีการกำหนดมาตรฐานกิจกรรมท่องเที่ยวและให้บริษัทนำเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ดำเนินตามอย่างเคร่งครัด จัดทำสัญญาการท่องเที่ยวที่ถูกกฎหมาย มีระบบการจัดการข้อพิพาทที่เหมาะสมและทันท่วงที ปรับขนาดของกลุ่มคณะให้เหมาะสม เตือนนักท่องเที่ยวให้เพิ่มความตระหนักด้านความปลอดภัย ซื้อประกันสำหรับอุบัติเหตุส่วนบุคคล รวมถึงให้บริษัทนำเที่ยวใช้ระบบ “หนึ่งคณะหนึ่งรายงาน” มีการรายงานข้อมูลการเดินทางขาเข้าและออกของหมู่คณะบนแพลตฟอร์มที่รวดเร็ว มีการตรวจสอบธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น ทัวร์ราคาถูกที่ไม่สมเหตุสมผล การจัดนักท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมหรือมีส่วนร่วมในโครงการหรือกิจกรรมที่ละเมิดกฎหมาย ข้อบังคับ และคุณธรรมทางสังคมของประเทศจีน
แอตต้าคาดการณ์ นทท.จีนเข้าไทยราว5ล้านคนในปี2566
มุมมองของ นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนาพร นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า ประเมินว่า หากทางการจีนปล่อยให้นทท.ออกมาได้เร็ว จะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวไทย และคาดว่าปี2566นี้จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยราว5 ล้านคน ซี่งหากเทียบกับก่อนโควิดในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยราว11 ล้านคน โดยเชื่อว่า คนจีนจำนวนหนึ่งอาจจะยังไม่เดินทางท่องเที่ยวในทันที คงจะเป็นการเดินทางที่ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเชื่อว่า ภาคธุรกิจท่องเที่ยวไทย มีศักยภาพพอในการรับนทท.จีนที่จะกลับมาในปีนี้ได้
ชมคลิปสัมภาษณ์ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว หรือแอตต้า