เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ตามเวลาญี่ปุ่นที่สนามบินฮาเนดะ เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของการบินไทย และ อีวีแอร์เฉี่ยวชนกันบริเวณแท็กซี่เวย์ ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ
ความคืบหน้าล่าสุดสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย CAAT ชี้แจงกรณีอากาศยานการบินไทยเฉี่ยวชนบนทางขับ ที่สนามบินฮาเนดะ ตั้งเป้าขนผู้โดยสารตกค้างกลับถึงไทยได้ครบภายในวันนี้
เหตุการณ์เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 683 เส้นทาง โตเกียว (ฮาเนดะ) – กรุงเทพ ฯ เฉี่ยวชนกับเครื่องบินของสายการบินอีวีเอแอร์ (EVA Air) เมื่อเวลา 11.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่น) (10 มิถุนายน 2566) ตามที่มีรายงานข่าวปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ไปแล้วนั้น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ขอรายงานสรุปเหตุการณ์และความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้
อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 683 กำลังเคลื่อนตัวไปยังทางขับหมายเลขแอล 15 (Taxiway L15) ตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจร ทางอากาศ หอบังคับการบินสนามบินฮาเนดะ ในระหว่างที่อากาศยานกำลังเคลื่อนตัวอยู่นั้น ปรากฏว่าชายปีก (Winglet) ด้านขวาของเครื่องบินได้เฉี่ยวกับส่วนท้ายเครื่องบินของสายการบิน EVA Air ที่จอดอยู่ที่จุดรอ (Holding Point) ของทางขับหมายเลขแอล 14 (Taxiway L14) ทำให้ช่วงชายปีกด้านบนได้รับความเสียหายโดยไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ กรมการบินพาณิชย์แห่งญี่ปุ่น (JCAB) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (National Police Agent) ของญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการพิทักษ์เครื่องบินทั้งสองลำไว้เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป
CAAT ได้ประสานกับสายการบินไทยในทันที เพื่อตรวจสอบแผนและมาตรการเกี่ยวกับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองสิทธิและการดูแลผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นได้รับการยืนยันว่าการบินไทยได้เตรียมการทุกด้านไว้พร้อมแล้ว ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำนวน 250 คน การบินไทยได้จัดหาบัตรโดยสารให้สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 จำนวน 100 คน
โดยเป็นเที่ยวบินของสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ส (ANA) และสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ (JAL) สำหรับผู้โดยสารที่เหลือ บริษัท การบินไทย จำกัด ได้จัดหาที่พักและเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินของสายการบินไทยในวันที่11 มิถุนายน 2566 โดยอาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบ/รุ่นของอากาศยานเพื่อให้สามารถนำผู้โดยสารตกค้างกลับถึงประเทศไทยได้หมดในวันนี้
CAAT อยู่ระหว่างการประสานงานกับ JCAB อย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านการสอบสวนเหตุการณ์ซึ่งประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้รับผิดชอบหลักและกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งด้านการประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสายการบินไทย และผู้โดยสารของเที่ยวบินดังกล่าวสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการบินพลเรือนของประเทศไทย จะได้ติดตามสถานการณ์และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและรายงานให้สาธารณะทราบต่อไป
ก่อนหน้านี้บริษัทการบินไทย จำกัด มหาชน ได้ชี้แจงเหตุการณ์เช่นกันว่า ความเสียหายของตัวเครื่องบินช่วงชายปีกด้านบนได้รับความเสียหาย ทำให้ไม่สามารถทำการบินต่อไปได้ ซึ่งผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนปลอดภัย ขณะนี้ กรมการบินพาณิชย์แห่งญี่ปุ่น (JCAB) กำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียดของทั้งสองสายการบินอยู่ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น และชี้แจงความคืบหน้าต่อไป
สำหรับเที่ยวบินที่ ทีจี 683 เส้นทาง โตเกียว (ฮาเนดะ)-กรุงเทพฯ ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส เอ330-300 บรรทุกผู้โดยสาร จำนวน 250 คน นักบินและลูกเรือ จำนวน 14 คน
ขณะที่เที่ยวบินของ อีวีแอร์ มีลูกเรือและผู้โดยสารประมาณ 200 คน ตามรายงานของกระทรวงการขนส่งของญี่ปุ่น ระบุว่า เมื่อวานนี้รันเวย์ A ยาว 3,000 เมตรที่ได้รับผลกระทบได้ถูกปิดแล้ว รายงานข่าวระบุว่า เหตุดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆในสนามบินฮาเนดะเกิดการล่าช้า และมีการแจ้งผู้โดยสารที่สนามบินแล้ว
ที่มา นิเคอิเอเชีย การบินไทย และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย