ข่าวเศรษฐกิจ

ทำไมคอนเสิร์ตเทย์เลอร์มีแค่ที่สิงคโปร์? เปิดกลยุทธ์ Music Tourism ดึงนทท. ด้วยคอนเสิร์ต

23 มิ.ย. 66
ทำไมคอนเสิร์ตเทย์เลอร์มีแค่ที่สิงคโปร์? เปิดกลยุทธ์ Music Tourism ดึงนทท. ด้วยคอนเสิร์ต

แฟนๆ ชาวไทยที่รอคอยการกลับมาของศิลปินสาวชื่อดัง ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อพบว่าตารางทัวร์ The Eras Tour ของเทย์เลอร์ในเอเชียไม่มีประเทศไทย แถมในภูมิภาคอาเซียนยังมีไปเปิดการแสดงอยู่แค่ประเทศเดียวคือ ‘สิงคโปร์’ โดยไปแสดงถึง 3 รอบ แบบไม่เผื่อประเทศอื่น

ซึ่งหลังจากมีตารางทัวร์นี้ออกมา ก็มีแฟนๆ ออกมาแสดงความผิดหวัง และวิพากษ์วิจารณ์มากมายว่าการเอารอบแสดงไปกระจุกอยู่ที่สิงคโปร์ที่เดียวแบบนี้ไม่เป็นธรรมกับแฟนคลับในประเทศอื่นในอาเซียนที่อยากจะชมการแสดงสดๆ เหมือนกัน

นอกจากนี้ ยังมีคนตั้งข้อสงสัยอีกว่า ทำไมเทย์เลอร์ถึงตัดสินใจไปจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์ประเทศเดียว ทั้งๆ ที่เป็นประเทศเล็กๆ ที่มีจำประชากรไม่ถึง 6 ล้านคน และถ้าหากนับหัวแฟนคลับกันเป็นรายคนแล้ว แฟนคลับของเทย์เลอร์ในประเทศใหญ่กว่าอย่างมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ หรือประเทศไทย ต้องมีจำนวนมากกว่าเห็นๆ ซึ่งก็มีหลายๆ คนคิดไปว่าเทย์เลอร์เหยียดประเทศตัวเองเลยไม่ไป หรือติดข้อจำกัดด้านเวลา ด้านร่างกาย หรือความสะดวกในการเดินทางต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ข้อจำกัดเหล่านั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เทย์เลอร์ไม่จัดคอนเสิร์ตอื่นในอาเซียน เหตุผลจริงๆ อาจใหญ่กว่านั้น เพราะถ้าหากใครสังเกตรายชื่อสปอนเซอร์ของคอนเสิร์ตนี้ จะเห็นได้ว่าหนึ่งในนั้นคือ “หน่วยงานการท่องเที่ยวสิงคโปร์ หรือ Singapore Tourism Board (STB)” หรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวบนเกาะสิงคโปร์โดยเฉพาะ ซึ่งบอกเป็นนัยๆ ว่าตารางทัวร์นี้น่าจะเป็นหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลที่จกระตุ้น Music Tourism ในประเทศ และปั้นสิงคโปร์ขึ้นเป็น “ศูนย์กลางการจัดคอนเสิร์ตและการแสดงดนตรีสดของอาเซียน”

 

ดึงศิลปินดังมาจัดคอนเสิร์ตด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก

Music Tourism หรือการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งด้วยการจัดคอนเสิร์ตหรืองานเทศกาลดนตรีเป็นสิ่งที่หลายๆ เมืองพยายามทำอยู่แล้ว เพราะนอกจากมันจะเป็นการสร้างงานและสร้างอุตสาหกรรมการจัดคอนเสิร์ต รวมไปถึงอุตสาหกรรมไมซ์ (Meetings, Incentives, Conferences and Exhibitions: MICE) ในพื้นที่ให้เฟื่องฟูแล้ว ยังเป็นการดึงแฟนคลับของศิลปินดังจำนวนมหาศาลเข้าไปจับจ่ายใช้สอย กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่มีทรัพยากรหรือสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปได้ด้วยตัวของมันเอง

ดังนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลสิงคโปร์จึงมองเห็นโอกาสในการสนับสนุนและกระตุ้น Music Tourism ในพื้นที่ เพราะในขณะที่สิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ ที่ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปได้ตามธรรมชาติเหมือนประเทศอื่น สิงคโปร์มีจุดแข็งมากในแง่ที่มี 

1) ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับโลก 

2) ระบบการขนส่งที่ขนถ่ายคนจำนวนมากได้ในเวลาสั้นๆ

โดยสองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ประเทศใหญ่กว่ามากๆ อย่าง ‘ไทย’ เองก็ไม่มี เห็นได้จากการที่ศิลปินต้องจัดคอนเสิร์ตใหญ่ในสนามกีฬาที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อจัดคอนเสิร์ต ในขณะที่ฮอลล์จัดคอนเสิร์ตก็เดินทางไปกลับลำบากจนบางคนต้องไปเช่าห้องค้างคืนหลังดูคอนเสิร์ตเพื่อตัดปัญหา ซึ่งเมื่อประเทศสิงคโปร์ได้ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จนพร้อมมากกว่าประเทศโดยรอบแล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมศิลปินดังๆ และผู้จัดเลือกไปจัดคอนเสิร์ตที่สิงคโปร์มากกว่าประเทศอื่น

 

รัฐบาลอัดฉีดเงินสปอนเซอร์คอนเสิร์ต 

ทั้งนี้ นอกจากการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดให้ศิลปินมาแสดงในประเทศได้ก็คือ การลงทุนให้เงินสนับสนุนการจัดคอนเสิร์ต ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่าแทบไม่มีรัฐบาลประเทศไหนในโลกทำ เพราะถือว่าเป็นกิจการของภาคเอกชน

อย่างไรก็ตาม เมื่อหน่วยงานรัฐกระโดดลงมาเป็นสปอนเซอร์เอง แน่นอนว่ารัฐบาล โดยเฉพาะรัฐบาลสิงคโปร์ที่ร่ำรวยมหาศาลจากการเก็บภาษีคนสิงคโปร์ ย่อมได้เปรียบและมีกำลังเงินอัดฉีดมากกว่าภาคเอกชน ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจสำคัญเพราะผู้จัดคนไหนก็ต้องการสปอนเซอร์เงินหนามาเพื่อให้ตัวเองได้กำไรจากการขายบัตรมากขึ้นทั้งสิ้น

โดยจากการรายงานของนิตยสาร Time รัฐบาลสิงคโปร์ได้วางแผนดันสิงคโปร์เป็นศูนย์กลางจัดงานคอนเสิร์ตมาตั้งแต่ต้น 2000s และได้ให้เงินสนับสนุนเพื่อดีลและดึงศิลปินดังมาจัดในสิงคโปร์มาตลอด ทำให้ในรายชื่อประเทศทัวร์เอเชียเกือบศิลปินดังๆ ทุกคนต้องมีสิงคโปร์อยู่ในนั้นทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม การดึงศิลปินดังอย่างเทย์เลอร์ไปแสดงที่ประเทศตัวเองที่เดียวจนเคลมว่าเป็น ‘The Only Stop in Southeast Asia!’ ได้ก็นับว่าเป็นความสำเร็จสำคัญของรัฐบาลสิงคโปร์ เพราะในการแสดง 3 รอบนั้นจะต้องมีแฟนคลับเงินหนาจากประเทศอื่นๆ ดั้นด้นไปดู ซึ่งเมื่อไปถึงแล้วก็ต้องไปท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงินซื้อของ สร้างเงินสะพัดให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสิงคโปร์อย่างแน่นอน


อ้างอิง: Time, SCMP, Rikvin

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT