Golden Week ปีนี้ชาวจีนอาจไม่ได้เที่ยวต่างประเทศมากนัก

มหกรรมการเดินทางครั้งใหญ่ของจีนได้เริ่มต้นขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ถึง 8 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาวันหยุดยาวในวันสำคัญของชาติเกือบ 10 วันเต็มหรือที่เรียกกันว่า Golden Week ทุกๆปีจะเห็นภาพชาวจีนหลายร้อยล้านคนออกเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศกันอย่างคึกคึก จนกระทั่งสถานการณ์โควิดระบาด ทำให้การเดินทางออกนอกประเทศของชาวจีนต้องชะงักลงไปถึง 3 ปี 

Golden Week ปีนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ทางการจีนผ่อนคลายให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ทำให้ภาพผู้คนที่สนามบิน สถานีรถไฟ และบนถนนหนทางทั่วประเทศจีน คราคร่ำไปด้วยผู้คน สถาบันการท่องเที่ยวจีน ประมาณการว่าคนจะเดินทางมากกว่า 100 ล้านคนต่อวันในช่วง "Golden Week  แน่นอนว่า ประเทศไทยที่มีเป้าหมายอยากดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมานั้นต่างรอคอยว่า " Golden Week ” ปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะต้องเพื่มขึ้น

สภาพเศรษฐกิจและต้นทุนการเดินทางสูงขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นคือ คนจีนจำนวนมากไม่ต้องการออกเดินนอกประเทศ ด้วยปัญหาสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก และราคาของทริปต่างประเทศมีการปรับขึ้น เช่น ค่าตั๋ว ค่าโรงแรมที่พัก ทำให้สถิตินักท่องเที่ยวชาวจีนที่เลือกเดินทางภายในประเทศ กลับภูมิลำเนาในช่วงวันหยุดยาว Golden Week ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่

"มันไม่ฉลาดที่จะใช้เงินมากขนาดนั้น" Joe Zhang พนักงานอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของปักกิ่งกล่าว เขาจะเดินทางภายในประเทศจีนในช่วงวันหยุดนี้หลังจากราคาตั๋วเครื่องบินที่สูงทำให้แผนการไปญี่ปุ่นของเขาล่มลง "ฉันผิดหวัง ฉันไม่ได้ไปต่างประเทศมาสามปีแล้ว" 

Boon Sian Chai กรรมการผู้จัดการและรองประธานฝ่ายตลาดต่างประเทศของ Trip.com แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ กล่าวว่า ต้นทุนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจ เนื่องจากราคาเฉลี่ยของทัวร์ท่องเที่ยวแบบหมู่คณะจากจีนสูงขึ้นถึง 30% จากก่อนเกิดโรคระบาด ซึ่งเป็นเพราะสายการบินยังไม่ได้กลับมาให้บริการตามตารางเที่ยวบินก่อนโควิด

ดังนั้นชาวจีนที่เดินทางไปต่างประเทศชอบจุดหมายปลายทางในเอเชียที่ราคาถูกกว่า โดยประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่ต้องการมากที่สุดหลังจากที่ได้นำโปรแกรมยกเว้นวีซ่ามาใช้

ประเทศไทย ยังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม 

จากข้อมูลพบว่า ตั้งแต่มีการเปิดเผยโครงการยกเว้นวีซ่าในวันที่ 13 กันยายน การจองโรงแรมไปประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น 6,220% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน Trip.com กล่าวว่า ประเทศไทยจะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนขาออก โดยมีเกาหลีใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร ตามมาติดๆ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเอ็กซ์ (X) หรือทวิตเตอร์เรื่องที่พี่น้องชาวจีนตอบรับนโยบายฟรีวีซ่าชั่วคราวของรัฐบาลไทยว่า รู้สึกดีใจแทนพี่ประชาชนและผู้ประกอบการไทยเป็นอย่างยิ่งเพราะชาวจีนตัดสินใจมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น"

"ประเทศไทยยินดีมากที่ได้ต้อนรับพี่น้องชาวจีนทุกคนครับ ประเทศเรามีทะเลที่สวยงาม อาหารไทยที่หลายหลาก หวังว่าทุกท่านจะท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและประทับใจครับ" นายเศรษฐากล่าวปิดท้าย

มากกว่า 21 ล้านคนจะเดินทางโดยเครื่องบินในจีนในช่วง Golden Week โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศขาออกเฉลี่ย 17,000 เที่ยวต่อวัน และเที่ยวบินในประเทศอีก 14,000 เที่ยวต่อวัน Jin Junhao รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารการบินพลเรือนของจีน กล่าว

ต้องยอมรับว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความหวังสูงมากสำหรับการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างประเทศของจีน เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของตนหลังจากการปิดล็อกการระบาดใหญ่ แต่ด้วยเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา ค่าเงินหยวนที่อ่อนลง และตัวเลขการว่างงานที่น่ากลัว ทำให้ผู้ประกอบการไม่ ประมาท และอาจต้องลดความคาดหวังลงและเตรียมพร้อมสำหรับเส้นทางสู่การฟื้นตัวที่อาจลากยาวขึ้น

Gary Bowerman ผู้ก่อตั้ง Check-in Asia บริษัทวิจัยและการตลาดที่มุ่งเน้นการท่องเที่ยว กล่าวว่า การแข่งขันกำลังทวีความรุนแรงอย่างมากในภูมิภาคเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนจากทุกประเทศ" 

ที่มา CNN , CNBC