ข่าวเศรษฐกิจ

โจ ไบเดน เคียง สี จิ้นผิง ภาพประวัติศาสตร์ ผู้นำสหรัฐฯ - จีน หาชมยาก

16 พ.ย. 66
โจ ไบเดน เคียง สี จิ้นผิง ภาพประวัติศาสตร์ ผู้นำสหรัฐฯ - จีน หาชมยาก

ภาพผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เดินเคียงข้างกันหลังการประชุมระหว่างสัปดาห์ผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่เมืองวูดไซด์ แคลิฟอร์เนีย ของสหรัฐฯ เป็นภาพที่หาดูได้ยาก ในยามที่ 2 มหาอำนาจมีความขัดแย้งกันทางเศรษฐกิจและความมั่นคงอยู่หลายประเด็น ทั้งเรื่องไต้หวัน หรือสงครามการค้าของทั้งคู่ยังไม่จบ

 

สี จิ้นผิง โจ ไบเดน

 

แต่เมื่อวานนี้ วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 ไบเดนและสี พบกันเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปี คาดว่ามีการเจรจาพูดคุยกันอย่างน้อย 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้มีรายงานว่า นายไบเดน กล่าวช่วงเริ่มต้นการประชุมสุดยอดว่า "เราต้องทำให้เกิดความมั่นใจว่าการแข่งขันจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง เราจำเป็นต้องร่วมมือกันในความท้าทายระดับโลกที่เราเผชิญอยู่ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปราบปรามยาเสพติด ไปจนถึงด้านปัญญาประดิษฐ์"

 

จีน สหรัฐ

 

 
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า มีการคาดการณ์กันว่านายไบเดนและนายสีจะหารือกันในประเด็นสำคัญต่าง ๆ เช่น การควบคุมปริมาณยาเฟนทานิล (fentanyl) ที่เข้าสู่สหรัฐ, การใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างปลอดภัย และข้อจำกัดที่สหรัฐกีดกันจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

 
ส่วน ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง บอกว่า "สำหรับประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนและสหรัฐนั้น การหันหลังให้กันและกันไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม" นายสีกล่าวในการเปิดการประชุม "โลกใบนี้มีความกว้างใหญ่มากเพียงพอที่ทั้งสองประเทศจะประสบความสำเร็จได้"
“จีนพร้อมที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรของสหรัฐฯ” สี กล่าว “หลักการพื้นฐานที่เราปฏิบัติต่อกัน ความสัมพันธ์คือการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบ win-win”

 

สี จิ้นผิง

 

นับเป็นสัญญาณเชิงบวก ระหว่างสหรัฐและจีนที่เพิ่มมากขึ้น โดยรวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ผู้นำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนยังได้ลงนามในข้อตกลงฉบับแรกนับตั้งแต่ปี 2560 เพื่อซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐในปริมาณมาก
นอกจากนี้ AFP ยังเผยแพร่ภาพ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน กล่าวใน "งานผู้นำจีนอาวุโส" ซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน และสภาธุรกิจสหรัฐฯ-จีน นอกรอบการประชุม APEC ซึ่งเบื้องหลังมีทั้งธงชาติจีนและสหรัฐฯเคียงคู่กัน

 

ที่มา AFP , CNBC

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT