พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในไทยต้องรู้ ! ตั้งแต่ 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ เช่น Shopee , Lazada ,GRAB , LINEMAN ฯลฯ ที่จดทะเบียนในประเทศไทยและมีรายได้เกิน 1,000 ล้านบาทต่อปี ต้องจัดทำบัญชีพิเศษเพื่อรายงานรายรับที่ได้จากร้านค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มของตนให้กรมสรรพากรทราบ
ซึ่งแน่นอนว่า ข้อมูลรายได้ของบรรดาร้านค้าที่อยู่ในแพลตฟอร์มก็จะต้องถูกเปิดเผย และหากรายใดที่มีรายได้เข้าเกณฑ์ในการเสียภาษีต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยรายละเอียดของประกาศฉบับดังกล่าว เผยแผร่ ณ วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ดังนี้
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้เรื่อง กำหนดให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มมีบัญชีพิเศษ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๗ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๕) พ.ศ. ๒๕๒๕ ประกอบกับข้อ ๖ และข้อ ๗ ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดให้ผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์ แพลตฟอร์มมีบัญชีพิเศษ โดยให้จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ในประกาศนี้ "อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม" หมายความว่า ผู้ให้บริการผ่านสื่อกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่มีการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกันโดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค เพื่อให้เกิดธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไม่รวมถึงกิจการของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ที่มีกฎหมายกำหนดให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
"ผู้ประกอบการ" หมายความว่า บุคคลซึ่งเสนอสินค้าหรือบริการต่อผู้บริโภค ผ่านอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม
"ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์" หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับมอบหมาย จากอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ให้จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร
"บัญชีพิเศษ" หมายความว่า บัญชีที่แสดงข้อมูลรายรับของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ที่ได้รับจากผู้ประกอบการ
ข้อ ๒ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นในประเทศไทย และมีรายได้ จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีเกินหนึ่งพันล้านบาท มีบัญชีพิเศษ
อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่มีรอบระยะเวลาบัญชีเกินหนึ่งพันล้านบาทตามวรรคหนึ่งแล้ว และต่อมามีรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชีใดไม่เกินหนึ่งพันล้าน ให้ยังคงมีหน้าที่ จัดทำบัญชีพิเศษ
ข้อ ๓ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจัดทำข้อมูลบัญชีพิเศษขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature) ตามมาตรฐานที่กรมสรรพากรประกาศไว้ บนเว็บไซต์กรมสรรพากร แนบหรือรวมไปกับข้อมูลดังกล่าว เพื่อส่งให้แก่กรมสรรพากรโดยใช้ใบรับรอง อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) ในการสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Certificate) นั้น ต้องยังไม่หมดอายุในขณะสร้างลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature)
ข้อ ๔ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มยื่นคำขออนุญาตเชื่อมต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ของตน กับระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร เพื่อนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ต่อกรมสรรพากร โดยอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มนั้นต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะตามข้อ ๖ (๑) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน หรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศตามที่อธิบดี ประกาศกำหนด
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่ได้เชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร ต้องมีลักษณะตามวรรคหนึ่งเสมอ
ให้อธิบดีมีอำนาจไม่อนุญาตหรือยกเลิกการอนุญาตการเชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร
ข้อ ๕ อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจะมอบหมายให้ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ จัดทำและนำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษแทนก็ได้ โดยอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม ต้องแจ้งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากร
ให้ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งยื่นคำขออนุญาต เชื่อมระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่ออธิบดี โดยผู้นั้นต้องมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีลักษณะตามข้อ ๗ (๑) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการ เกี่ยวกับเอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และมีความมั่นคงปลอดภัย ด้านสารสนเทศตามที่สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ประกาศกำหนด
ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้เชื่อมต่อกับ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรต้องมีลักษณะตามวรรคสองเสมอ
ให้อธิบดีประกาศรายชื่อผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับอนุญาต ตามวรรคสอง
ให้อธิบดีมีอำนาจไม่อนุญาตหรือยกเลิกการอนุญาตการเชื่อมต่อกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมสรรพากรและลบชื่อออกจากประกาศตามวรรคสี่
ข้อ ๖ ผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕ รายใดมีระบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๘๔ (พ.ศ. ๒๕๖๕) ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับ เอกสารหลักฐานหรือหนังสือด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ และไม่ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้แล้วเสร็จ ภายในกำหนดเวลาที่กรมสรรพากรมีหนังสือแจ้งหรือที่ได้รับแจ้งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากรอาจยกเลิกการอนุญาตให้เชื่อมต่อระบบ และลบรายชื่อออกจากบัญชีผู้ให้บริการจัดทำ และนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ได้ประกาศไว้
ข้อ ๗ ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มตามข้อ ๒ หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูล อิเล็กทรอนิกส์ตามข้อ ๕ นำส่งข้อมูลนั้นบนระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี เว้นแต่อธิบดีจะกำหนดเป็นอย่างอื่น
ข้อ ๘ กรณีอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ได้นำส่งข้อมูลบัญชีพิเศษตามข้อ ๗ แล้ว แต่มีความประสงค์จะขอแก้ไข ยกเลิก หรือเพิ่มเติมข้อมูล ดังกล่าวนั้น ให้อิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์ม หรือผู้ให้บริการจัดทำและนำส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว แจ้งและส่งข้อมูลบัญชีพิเศษเกินกำหนดเวลาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร
ข้อ ๙ ประกาศนี้ให้มีผลใช้บังคับสำหรับการส่งข้อมูลสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่ม ในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นต้นไป